Wellness Yard สวนเพื่อสุขภาพ เทรนด์ใหม่ที่ทำให้บ้านเป็นจุดชาร์จพลัง

5 0

ในยุคที่ชีวิตเต็มไปด้วยความเร่งรีบและความเครียด การได้กลับบ้านที่เปรียบเสมือน “เซฟโซน” คงเป็นสิ่งที่ทุกคนใฝ่ฝัน แต่จะดีแค่ไหนถ้าบ้านของเรา เป็นมากกว่าแค่ที่พักอาศัย แต่ยังเป็นพื้นที่พักผ่อนในบ้าน ที่สามารถชาร์จพลังกายและใจได้อย่างเต็มที่ นี่คือที่มาของเทรนด์ “Wellness Yard” หรือ สวนเพื่อสุขภาพ ที่กำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลก เพราะคือการเปลี่ยนพื้นที่สีเขียวธรรมดา ให้กลายเป็นสวนบำบัดส่วนตัว ที่พร้อมจะเยียวยาเราในทุกๆ วัน



Wellness Yard คืออะไร?

Wellness Yard ไม่ใช่แค่การจัดสวนให้สวยงาม แต่คือการออกแบบพื้นที่กลางแจ้ง โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดี ทั้งทางร่างกายและจิตใจ (Well-being) โดยอาศัยหลักการของ “ธรรมชาติบำบัด” (Nature Therapy) เข้ามาเป็นหัวใจสำคัญ

สวนประเภทนี้ จะเน้นการสร้างสภาพแวดล้อม ที่กระตุ้นประสาทสัมผัสทั้งห้า (รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส) เพื่อช่วยลดความเครียด เพิ่มสมาธิ และสร้างความรู้สึกสงบผ่อนคลาย เป็นที่ที่เราสามารถเข้าไป “ใช้งาน” เพื่อฟื้นฟูตัวเองได้อย่างแท้จริง



5 องค์ประกอบสำคัญของสวนเพื่อสุขภาพ

การจะสร้าง Wellness Yard ให้สมบูรณ์แบบนั้น ควรคำนึงถึงองค์ประกอบหลัก 5 ข้อ ที่จะช่วยสร้างประสบการณ์การพักผ่อนที่ครบถ้วน

1.    พื้นที่สีเขียวที่ชวนมอง (Sight) การเลือกใช้โทนสีของพรรณไม้ที่สบายตา เช่น สีเขียว สีขาว สีฟ้า หรือสีม่วงอ่อนๆ จะช่วยสร้างความรู้สึกสงบ การจัดวางเลย์เอาต์ที่โปร่งโล่ง ไม่รกทึบ ทำให้รู้สึกปลอดภัยและผ่อนคลาย

2.    กลิ่นหอมจากธรรมชาติ (Scent) กลิ่นมีผลต่ออารมณ์โดยตรง การปลูกพืชที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ แบบอโรมาเธอราพี จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายได้ทันที

3.    เสียงที่ช่วยผ่อนคลาย (Sound) การออกแบบให้มีเสียงจากธรรมชาติ จะช่วยกลบเสียงรบกวนจากภายนอกและสร้างบรรยากาศที่สงบ

4.    สัมผัสที่หลากหลาย (Touch) ลองเพิ่มองค์ประกอบที่ทำให้เราอยากสัมผัส เช่น ทางเดินหินที่สามารถเดินเท้าเปล่าได้ หรือพืชที่มีผิวสัมผัสของใบแตกต่างกันไป

5.    รสชาติจากพืชผักที่เก็บกินได้ (Taste) การปลูกพืชผักสวนครัว หรือสมุนไพรที่ทานได้ เช่น มินต์ โรสแมรี หรือพริกเล็กๆ ไม่เพียงแต่ให้ความสุขจากการเฝ้าดูมันเติบโต แต่ยังสามารถนำมาปรุงอาหาร เป็นการเชื่อมโยงกับธรรมชาติที่สมบูรณ์



การเลือกพรรณไม้สำหรับสวนบำบัด

การเลือกต้นไม้คือหัวใจของ สวนเพื่อสุขภาพ ควรเลือกพืชที่ตอบโจทย์ด้านการบำบัด เช่น

•    กลุ่มให้กลิ่นหอม ลาเวนเดอร์ (ช่วยให้นอนหลับ), โรสแมรี (ช่วยเรื่องความจำ), มินต์ (ทำให้สดชื่น), พุดหรือโมก (กลิ่นหอมเย็น)

•    กลุ่มฟอกอากาศ ลิ้นมังกร, ยางอินเดีย, เดหลี ซึ่งช่วยให้อากาศในบริเวณนั้นสดชื่นขึ้น

•    กลุ่มสมุนไพร ตะไคร้, กะเพรา, โหระพา นอกจากจะใช้ทำอาหารได้แล้ว กลิ่นยังช่วยไล่แมลงได้อีกด้วย



เสียงจากธรรมชาติ: การใช้องค์ประกอบน้ำ

เสียงน้ำไหลเบาๆ คือหนึ่งในเสียงบำบัดที่ดีที่สุด การติดตั้งน้ำพุขนาดเล็ก น้ำล้น หรืออ่างน้ำสำหรับนก จะช่วยสร้างเสียงที่ทำให้จิตใจสงบ และมีสมาธิมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ แค่อ่างเซรามิกเล็กๆ ที่มีปั๊มน้ำขนาดจิ๋ว ก็สามารถสร้างบรรยากาศที่ยอดเยี่ยมได้แล้ว



ไอเดียจัดสวน Wellness Yard สำหรับบ้านพื้นที่น้อย

ไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เพื่อสร้าง Wellness Yard ของตัวเอง ต่อให้เป็นระเบียงคอนโดหรือทาวน์โฮม ที่มีพื้นที่จำกัด ก็สามารถสร้างมุมพักผ่อนส่วนตัวได้

•    สวนแนวตั้ง (Vertical Garden) เหมาะสำหรับพื้นที่จำกัด ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวในแนวสูง ใช้ปลูกไม้เลื้อยหรือสมุนไพรขนาดเล็กได้ดี

•    สวนในกระถาง (Container Garden) เลือกใช้กระถางดีไซน์สวยงาม จัดวางเป็นกลุ่มก้อนเพื่อสร้างมุมพักผ่อน เลือกพรรณไม้ที่ชอบ เช่น ปลูกลาเวนเดอร์ในกระถางใหญ่ 1 ใบ วางข้างเก้าอี้โปรดของคุณ

•    สร้างมุมพักผ่อนเล็ก เพียงแค่วางเก้าอี้สบายๆ 1 ตัว โต๊ะเล็กๆ สำหรับวางเครื่องดื่ม และล้อมรอบด้วยกระถางต้นไม้ฟอกอากาศสัก 2-3 ต้น ก็สามารถเปลี่ยนมุมเล็กๆ ให้กลายเป็น พื้นที่พักผ่อนในบ้าน ที่แสนวิเศษได้

การสร้าง Wellness Yard คือการลงทุน เพื่อสุขภาพและความสุขของตัวเราเอง โดยเป็นมากกว่าเทรนด์การจัดสวน แต่คือการสร้าง “โอเอซิส” ส่วนตัว ที่เราสามารถกลับมาเชื่อมต่อกับธรรมชาติและชาร์จพลังให้ตัวเองได้ทุกวัน



อ้างอิง

Global Wellness Institute. (2023). “The Global Wellness Economy Monitor.”

Kaplan, R., & Kaplan, S. (1989). The Experience of Nature: A Psychological Perspective. Cambridge University Press.

 

คลิกเครื่องหมาย เพื่อเพิ่มลงตะกร้าเก็บทรัพย์ที่สนใจ หรือกดอีกครั้งเพื่อลบออก
คลิกเพื่อเลือก บ้านที่ต้องการแล้วกดปุ่ม "เปรียบเทียบ" ได้เลย
Wellness Yard สวนเพื่อสุขภาพ เทรนด์ใหม่ที่ทำให้บ้านเป็นจุดชาร์จพลัง : บทความน่ารู้ - ตลาดนัดบ้านมือสอง

Wellness Yard สวนเพื่อสุขภาพ เทรนด์ใหม่ที่ทำให้บ้านเป็นจุดชาร์จพลัง

5 0

ในยุคที่ชีวิตเต็มไปด้วยความเร่งรีบและความเครียด การได้กลับบ้านที่เปรียบเสมือน “เซฟโซน” คงเป็นสิ่งที่ทุกคนใฝ่ฝัน แต่จะดีแค่ไหนถ้าบ้านของเรา เป็นมากกว่าแค่ที่พักอาศัย แต่ยังเป็นพื้นที่พักผ่อนในบ้าน ที่สามารถชาร์จพลังกายและใจได้อย่างเต็มที่ นี่คือที่มาของเทรนด์ “Wellness Yard” หรือ สวนเพื่อสุขภาพ ที่กำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลก เพราะคือการเปลี่ยนพื้นที่สีเขียวธรรมดา ให้กลายเป็นสวนบำบัดส่วนตัว ที่พร้อมจะเยียวยาเราในทุกๆ วัน



Wellness Yard คืออะไร?

Wellness Yard ไม่ใช่แค่การจัดสวนให้สวยงาม แต่คือการออกแบบพื้นที่กลางแจ้ง โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดี ทั้งทางร่างกายและจิตใจ (Well-being) โดยอาศัยหลักการของ “ธรรมชาติบำบัด” (Nature Therapy) เข้ามาเป็นหัวใจสำคัญ

สวนประเภทนี้ จะเน้นการสร้างสภาพแวดล้อม ที่กระตุ้นประสาทสัมผัสทั้งห้า (รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส) เพื่อช่วยลดความเครียด เพิ่มสมาธิ และสร้างความรู้สึกสงบผ่อนคลาย เป็นที่ที่เราสามารถเข้าไป “ใช้งาน” เพื่อฟื้นฟูตัวเองได้อย่างแท้จริง



5 องค์ประกอบสำคัญของสวนเพื่อสุขภาพ

การจะสร้าง Wellness Yard ให้สมบูรณ์แบบนั้น ควรคำนึงถึงองค์ประกอบหลัก 5 ข้อ ที่จะช่วยสร้างประสบการณ์การพักผ่อนที่ครบถ้วน

1.    พื้นที่สีเขียวที่ชวนมอง (Sight) การเลือกใช้โทนสีของพรรณไม้ที่สบายตา เช่น สีเขียว สีขาว สีฟ้า หรือสีม่วงอ่อนๆ จะช่วยสร้างความรู้สึกสงบ การจัดวางเลย์เอาต์ที่โปร่งโล่ง ไม่รกทึบ ทำให้รู้สึกปลอดภัยและผ่อนคลาย

2.    กลิ่นหอมจากธรรมชาติ (Scent) กลิ่นมีผลต่ออารมณ์โดยตรง การปลูกพืชที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ แบบอโรมาเธอราพี จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายได้ทันที

3.    เสียงที่ช่วยผ่อนคลาย (Sound) การออกแบบให้มีเสียงจากธรรมชาติ จะช่วยกลบเสียงรบกวนจากภายนอกและสร้างบรรยากาศที่สงบ

4.    สัมผัสที่หลากหลาย (Touch) ลองเพิ่มองค์ประกอบที่ทำให้เราอยากสัมผัส เช่น ทางเดินหินที่สามารถเดินเท้าเปล่าได้ หรือพืชที่มีผิวสัมผัสของใบแตกต่างกันไป

5.    รสชาติจากพืชผักที่เก็บกินได้ (Taste) การปลูกพืชผักสวนครัว หรือสมุนไพรที่ทานได้ เช่น มินต์ โรสแมรี หรือพริกเล็กๆ ไม่เพียงแต่ให้ความสุขจากการเฝ้าดูมันเติบโต แต่ยังสามารถนำมาปรุงอาหาร เป็นการเชื่อมโยงกับธรรมชาติที่สมบูรณ์



การเลือกพรรณไม้สำหรับสวนบำบัด

การเลือกต้นไม้คือหัวใจของ สวนเพื่อสุขภาพ ควรเลือกพืชที่ตอบโจทย์ด้านการบำบัด เช่น

•    กลุ่มให้กลิ่นหอม ลาเวนเดอร์ (ช่วยให้นอนหลับ), โรสแมรี (ช่วยเรื่องความจำ), มินต์ (ทำให้สดชื่น), พุดหรือโมก (กลิ่นหอมเย็น)

•    กลุ่มฟอกอากาศ ลิ้นมังกร, ยางอินเดีย, เดหลี ซึ่งช่วยให้อากาศในบริเวณนั้นสดชื่นขึ้น

•    กลุ่มสมุนไพร ตะไคร้, กะเพรา, โหระพา นอกจากจะใช้ทำอาหารได้แล้ว กลิ่นยังช่วยไล่แมลงได้อีกด้วย



เสียงจากธรรมชาติ: การใช้องค์ประกอบน้ำ

เสียงน้ำไหลเบาๆ คือหนึ่งในเสียงบำบัดที่ดีที่สุด การติดตั้งน้ำพุขนาดเล็ก น้ำล้น หรืออ่างน้ำสำหรับนก จะช่วยสร้างเสียงที่ทำให้จิตใจสงบ และมีสมาธิมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ แค่อ่างเซรามิกเล็กๆ ที่มีปั๊มน้ำขนาดจิ๋ว ก็สามารถสร้างบรรยากาศที่ยอดเยี่ยมได้แล้ว



ไอเดียจัดสวน Wellness Yard สำหรับบ้านพื้นที่น้อย

ไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เพื่อสร้าง Wellness Yard ของตัวเอง ต่อให้เป็นระเบียงคอนโดหรือทาวน์โฮม ที่มีพื้นที่จำกัด ก็สามารถสร้างมุมพักผ่อนส่วนตัวได้

•    สวนแนวตั้ง (Vertical Garden) เหมาะสำหรับพื้นที่จำกัด ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวในแนวสูง ใช้ปลูกไม้เลื้อยหรือสมุนไพรขนาดเล็กได้ดี

•    สวนในกระถาง (Container Garden) เลือกใช้กระถางดีไซน์สวยงาม จัดวางเป็นกลุ่มก้อนเพื่อสร้างมุมพักผ่อน เลือกพรรณไม้ที่ชอบ เช่น ปลูกลาเวนเดอร์ในกระถางใหญ่ 1 ใบ วางข้างเก้าอี้โปรดของคุณ

•    สร้างมุมพักผ่อนเล็ก เพียงแค่วางเก้าอี้สบายๆ 1 ตัว โต๊ะเล็กๆ สำหรับวางเครื่องดื่ม และล้อมรอบด้วยกระถางต้นไม้ฟอกอากาศสัก 2-3 ต้น ก็สามารถเปลี่ยนมุมเล็กๆ ให้กลายเป็น พื้นที่พักผ่อนในบ้าน ที่แสนวิเศษได้

การสร้าง Wellness Yard คือการลงทุน เพื่อสุขภาพและความสุขของตัวเราเอง โดยเป็นมากกว่าเทรนด์การจัดสวน แต่คือการสร้าง “โอเอซิส” ส่วนตัว ที่เราสามารถกลับมาเชื่อมต่อกับธรรมชาติและชาร์จพลังให้ตัวเองได้ทุกวัน



อ้างอิง

Global Wellness Institute. (2023). “The Global Wellness Economy Monitor.”

Kaplan, R., & Kaplan, S. (1989). The Experience of Nature: A Psychological Perspective. Cambridge University Press.

 

คลิกเครื่องหมาย เพื่อเพิ่มลงตะกร้าเก็บทรัพย์ที่สนใจ หรือกดอีกครั้งเพื่อลบออก
คลิกเพื่อเลือก บ้านที่ต้องการแล้วกดปุ่ม "เปรียบเทียบ" ได้เลย