เทคนิคจัดการบิลเรียกเก็บแต่ละเดือน หมดปัญหาเงินไม่พอจ่าย

903 0

ในแต่ละเดือนเราทุกคนต่างมีบิลค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บกันเป็นจำนวนมาก ไหนจะค่าสาธารณูปโภค ค่าบ้าน ค่ารถ ซึ่งถ้าไม่มีระบบการจัดการที่ดี ปัญหาเงินไม่พอจ่ายค่าบิลเกิดขึ้นทันที ซึ่งจะส่งผลให้ต้องเสียค่าธรรมเนียมจ่ายช้า ดอกเบี้ยผิดนัดชำระ บางรายอาจส่งผลถึงประวัติในเครดิตบูโรได้เลย “ตลาดนัดบ้านมือสอง” มีเทคนิคการจัดการบิลเรียกเก็บแต่ละเดือนมาแบ่งปัน



• คำนวณหาจำนวนเงินที่จะถูกเรียกเก็บในแต่ละเดือน

การที่เรารู้จำนวนเงินที่อาจจะถูกเรียกเก็บในแต่ละเดือน ช่วยให้เราสามารถบริหารจัดการเงินได้ง่ายที่สุด ดังนั้นหาสมุดมาจดรายละเอียดจำนวนเงินเรียกเก็บในแต่ละเดือนไว้ (ใครจะใช้ปฏิทินหรือApplicationในมือถือก็ได้) เงินที่รู้จำนวนล่วงหน้าให้เขียนลงไปเลย ส่วนจำนวนเงินผันแปรในแต่ละเดือน เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ให้เขียนจำนวนเงินที่คาดว่าจะต้องจ่าย อาจประเมินจากบิลในเดือนก่อนๆ ก็ได้ แต่อย่าเขียนน้อยเกินไป เพราะอาจมีปัญหาเงินไม่พอจ่ายทีหลังได้ การจดแบบนี้จะทำให้เรารู้ว่าต้องกันเงินไว้สำหรับจ่ายบิลเป็นจำนวนเท่าไหร่



• แบ่งรายรับไว้สำหรับจ่ายบิล 2 ประเภท

1. บิลที่เรียกเก็บทุกเดือน โดยส่วนมากจะเป็นเงินที่มีจำนวนไม่สูงมาก สามารถใช้รายรับในเดือนนั้นจ่ายได้เลย โดยใช้การกันเงินส่วนหนึ่งออกมาจากรายรับ เช่น มีรายรับ 20,000 บาท มีจำนวนบิลที่ต้องจ่าย 10,000 บาท เงินที่เหลือก็นำไปใช้จ่ายอย่างอื่นได้

2. บิลที่นาน ๆ เรียกเก็บที ซึ่งมักจะเป็นบิลที่มีจำนวนเงินค่อนข้างสูง แบบที่เราไม่สามารถใช้รายรับเพียง 1 เดือนจ่ายได้ เช่น ค่าเบี้ยประกันรถ ประกันชีวิต ค่าเทอม ทำให้เราจะต้องวางแผนเก็บเงินเพื่อใช้สำหรับจ่ายบิลนี้ เช่น เก็บเงินเดือนละ 4,000 บาท 4-5 เดือนสำหรับจ่ายบิลค่าประกันชีวิต เป็นต้น



• กันเงินไว้สำหรับบิลค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด หลายคนเกิดหนี้สินหรือมีปัญหาทางการเงินกับบิลประเภทนี้ เพราะไม่ได้กันเงินไว้ล่วงหน้า เช่น บิลค่าซ่อมรถ บิลค่าซ่อมบ้าน หรือบิลค่ารักษาพยาบาล ซึ่งมักเกิดค่าใช้จ่ายขึ้นแบบฉุกเฉิน ดังนั้นควรหักเงินอย่างน้อย 10 เปอร์เซ็นต์ของรายรับ มาเก็บไว้เป็นเงินสำรองสำหรับบิลค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด



• เลือกวิธีจ่ายบิลให้เหมาะสม เพื่อป้องกันปัญหาการจ่ายบิลล่าช้าเพราะยุ่งจนลืม ทำให้ต้องเสียค่าธรรมเนียม หรือดอกเบี้ยผิดนัดชำระโดยใช่เหตุ ซึ่งวิธีที่หลายคนนิยมก็คือ การตัดบัญชีอัตโนมัติ โดยแจ้งให้ผู้ให้บริการหักเงินจากบัญชีเงินฝากตามจำนวนเงินที่เรียกเก็บแบบอัตโนมัติทุกเดือน หรืออาจจะใช้ Mobile Banking เพื่อความสะดวกก็ได้เช่นกัน



• มีปัญหาเงินไม่พอจ่ายบิล ให้เลือกจ่ายบิลที่อาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตก่อน เช่น ค่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ จากนั้นให้ยกเลิกหรือลดการใช้บริการบิลที่ไม่จำเป็น เช่น ค่าดูหนังรายเดือน ค่าอินเตอร์เน็ต ส่วนบิลที่มีปัญหาอื่นๆ ก็อาจติดต่อผ่อนผันกับผู้ให้บริการต่อไป



ใครเจอปัญหาเงินไม่พอจ่ายบิลอยู่ทุกเดือนๆ ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปบริหารจัดการดู อย่างน้อยก็จะทำให้คุณเห็นว่าบิลไหนจำเป็น บิลไหนตัดออกไปได้ รับรองว่าปัญหาเรื่องบิลของคุณจะค่อยๆ หมดไปแน่นอน

 

Click icon to remove from or add to favorite list
Click to choose and click "Compare" button