Home Staging: 5 เทคนิคแต่งบ้านมือสองให้ขายไว เพิ่มมูลค่าในงบประหยัด

19 0

เคยสงสัยไหมว่า ทำไมบ้านบางหลังประกาศขายไม่นานก็มีคนมาขอซื้อ ในขณะที่บ้านของเรากลับเงียบกริบ? คำตอบอาจไม่ได้อยู่ที่ทำเลหรือราคาเสมอไป แต่อยู่ที่ “ความประทับใจแรก” ต่างหาก! วันนี้ “ตลาดนัดบ้านมือสอง” จะมาแนะนำเทคนิค Home Staging สุดปัง ที่จะช่วยเปลี่ยนบ้านมือสองให้สวยเตะตาจนใครๆ ก็อยากเป็นเจ้าของ มาดูกันว่าการแต่งบ้านขาย แบบมืออาชีพในงบประหยัดนั้นทำได้อย่างไร

Home Staging คืออะไร ทำไมถึงสำคัญกับการขายบ้านมือสอง?
Home Staging ไม่ใช่การรีโนเวทใหญ่ แต่คือ “ศิลปะในการจัดและตกแต่งบ้านชั่วคราว” เพื่อให้บ้านดูน่าสนใจและดึงดูดผู้ซื้อมากที่สุด เป้าหมายหลักคือการทำให้ผู้ซื้อสามารถจินตนาการ การใช้ชีวิตในบ้านหลังนี้ได้ง่ายขึ้น ช่วยให้บ้านดูกว้างขวาง สว่าง และน่าอยู่กว่าที่เป็นจริง ซึ่งสำคัญมากในการ เตรียมบ้านก่อนขาย เพราะสถิติจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติ (NAR) อเมริกา พบว่าบ้านที่ผ่านการทำ Home Staging มักจะขายได้เร็วกว่า และได้ราคาสูงกว่าบ้านที่ไม่ได้ทำ

5 เทคนิคแต่งบ้านขายด้วยตัวเอง 
เจ้าของบ้านมือสอง ไม่จำเป็นต้องจ้างมืออาชีพมาช่วยเสมอไป ลองใช้ 5 เทคนิคง่ายๆ นี้แล้วลงมือด้วยตัวเองดู
1. เคลียร์ของและทำความสะอาดครั้งใหญ่: จุดเริ่มต้นของการเพิ่มมูลค่าบ้าน
นี่คือกฎเหล็กข้อแรกและสำคัญที่สุด!
•    เคลียร์ของ เก็บของใช้ส่วนตัวทั้งหมด เช่น รูปครอบครัว ของสะสม ของที่ระลึกต่างๆ ออกไปก่อน เพราะทำให้ผู้ซื้อรู้สึกว่านี่คือ “บ้านของคนอื่น” ไม่ใช่ “บ้านในฝันของเขา” รวมถึงเก็บเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่จำเป็นออกไป เพื่อให้ห้องดูโปร่งและกว้างขึ้น
•    ทำความสะอาดครั้งใหญ่ ไม่ใช่แค่ปัดฝุ่นถูพื้น แต่หมายถึงการขัดทุกซอกทุกมุม ตั้งแต่หน้าต่าง รางมุ้งลวด คราบในห้องน้ำ ไปจนถึงกลิ่นไม่พึงประสงค์ บ้านที่สะอาดสะอ้าน จะสร้างความรู้สึกว่าบ้านหลังนี้ได้รับการดูแลมาอย่างดี
2. ซ่อมแซมจุดเล็กๆ ที่มีปัญหา
หลอดไฟที่ขาด, ก๊อกน้ำที่รั่วซึม, มือจับประตูที่หลวม หรือรอยร้าวเล็กๆ บนผนัง จุดเล็กๆ เหล่านี้อาจทำให้ผู้ซื้อรู้สึกว่าบ้านมีปัญหาและไม่ได้รับการดูแล การลงทุนซ่อมแซมเพียงเล็กน้อย จะสร้างความแตกต่างได้อย่างมหาศาล
3. ทาสีบ้านให้ขายออกง่าย
ลืมสีโปรดส่วนตัวไปก่อน! การทาสีใหม่ เป็นวิธีที่คุ้มค่าที่สุด ในการเปลี่ยนโฉมบ้านให้ดูใหม่และสะอาดตา แนะนำให้เลือก สีโทนกลาง (Neutral Colors) ซึ่งเป็นสีที่ปลอดภัยและได้ผลดีที่สุดคือ สีขาวออฟไวท์, สีครีม, สีเทาอ่อน หรือสีเบจ (Greige) เพราะสีเหล่านี้ทำให้ห้องดูสว่าง กว้าง และเป็นเหมือนผืนผ้าใบว่างๆ ที่ผู้ซื้อสามารถจินตนาการการตกแต่งในสไตล์ของตัวเองได้ง่าย
4. จัดวางเฟอร์นิเจอร์อย่างกลมกลืน
จัดเฟอร์นิเจอร์ให้แต่ละห้องมีจุดประสงค์ชัดเจน เช่น มุมนี้สำหรับนั่งเล่น มุมนั้นสำหรับทำงาน และต้องแน่ใจว่ามีทางเดินที่สะดวก ไม่เกะกะ การจัดวางที่ดี จะช่วยให้ผู้ซื้อเห็นฟังก์ชันการใช้งานของพื้นที่ และทำให้ห้องดูมีระเบียบมากขึ้น
5. เพิ่มแสงสว่าง สร้างบรรยากาศต้อนรับ
บ้านที่สว่างไสว มักจะให้ความรู้สึกดีและน่าอยู่เสมอ เปิดม่านหรือมู่ลี่ทั้งหมด เพื่อรับแสงธรรมชาติให้ได้มากที่สุด และเปิดไฟทุกดวงในบ้าน ขณะที่มีคนมาดูบ้าน อาจจะเพิ่มโคมไฟตั้งพื้น ในมุมที่ค่อนข้างมืดเพื่อสร้างบรรยากาศอบอุ่น

วิธีถ่ายรูปบ้านให้สวยเหมือนมืออาชีพหลังทำ Home Staging
หลังจากแต่งบ้านขายจนสวยแล้ว การถ่ายรูปคือด่านต่อไปที่สำคัญมาก เพราะรูปคือสิ่งแรกที่ผู้ซื้อเห็นในประกาศ
•    ใช้แสงธรรมชาติ ถ่ายรูปตอนกลางวันและเปิดม่านให้สุด
•    จัดองค์ประกอบภาพ ถ่ายจากมุมห้องเพื่อให้เห็นภาพรวมและทำให้ห้องดูกว้างขึ้น
•    เก็บรายละเอียด ตรวจสอบความเรียบร้อยก่อนกดชัตเตอร์เสมอ เช่น จัดผ้าปูที่นอนให้ตึง เก็บสายไฟให้พ้นสายตา
•    ถ่ายรูปแนวนอน เหมาะกับการลงประกาศในเว็บไซต์อสังหาฯ มากที่สุด

การทำ Home Staging คือการลงทุนที่ชาญฉลาด เป็นการเปลี่ยนจาก “การขายบ้าน” ไปสู่ “การขายไลฟ์สไตล์และความฝัน” ซึ่งจะช่วยให้บ้านมือสองของคุณโดดเด่น และปิดการขายได้อย่างรวดเร็วแน่นอน!

อ้างอิง:
National Association of REALTORS®. (2023). 2023 Profile of Home Staging.

คลิกเครื่องหมาย เพื่อเพิ่มลงตะกร้าเก็บทรัพย์ที่สนใจ หรือกดอีกครั้งเพื่อลบออก
คลิกเพื่อเลือก บ้านที่ต้องการแล้วกดปุ่ม "เปรียบเทียบ" ได้เลย