รอยร้าวบนผนังบ้านแบบไหนไม่ปลอดภัย
บ้านคุณมีรอยร้าวบนผนังบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีอย่ามองผ่านไป แล้วคิดว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะรอยร้าวบางแบบอาจเป็นอันตรายขนาดให้บ้านคุณถล่มได้ มาดูกันว่ารอยร้าวบนผนังบ้านแบบไหนที่ไม่ปลอดภัย
• รอยร้าวแนวเฉียงจากมุมผนังไล่ลงมากลางผนัง
มักเกิดหลังจากบ้านสร้างเสร็จไปสักพัก ถ้าเจอครั้งแรกให้ทำสัญลักษณ์ไว้ แล้วสังเกตว่าจะมีรอยร้าวต่อมาอีกหรือไม่ ถ้าไม่มีก็ไม่อันตรายมาก แต่ถ้ารอยร้าวยาวและกว้างมากขึ้น สันนิษฐานได้ว่าเสาต้นใดต้นหนึ่งอาจเกิดการทรุดตัว คานที่รัดเสาไม่สามารถพุงเสาให้อยู่ในระนาบเดียวกันได้ จึงเกิดรอยแตกร้าวขึ้น โดยสาเหตมักเกิดจากการต่อเติมบ้านแบบผิดหลัก ทำให้เสาเดิมไม่สามารถรับน้ำหนักได้ หรือฐานรากของอาคารทรุดตัวไม่เท่ากัน จนเสาเข็มเคลื่อนออกจากจุดเดิม
• รอยร้าวลึกที่ตัวเสา
เกิดขึ้นเมื่อเสามีการรับน้ำหนักมากเกินไป หรือใช้อาคารผิดประเภท เช่น นำบ้านอยู่อาศัยไปเก็บเครื่องจักรขนาดใหญ่ ทำให้เสาต้องรับน้ำหนักมากกว่าที่คำนวณไว้ ทำให้โครงสร้างของบ้านแต่ละส่วนแยกออกจากกัน เสาและคานไม่เชื่อมต่อกัน ถ้ายังร้าวไม่มากควรรีบย้ายของออกจากบริเวณนั้น แต่หากร้าวจนเห็นเหล็กที่เสริมภายในชัดเจน ควรรีบปรึกษาวิศวกรด่วน
• รอยร้าวบริเวณกลางคาน
เกิดจากคานรับน้ำหนักมากกว่าปกติ จนเกิดการแอ่นตัวลงมาเป็นแนวโค้งคล้ายตัวยู ทำให้คอนกรีตปริแตกเป็นรอยร้าว หรือบางครั้งก็อาจเกิดจากพื้นที่ด้านบนมีน้ำรั่วซึม จนเหล็กเกิดสนิม ดันคอนกรีต คาน จนแตกร้าว กระทั่งคานเหล็กนั้นเสื่อมประสิทธิภาพ
• รอยร้าวแนวดิ่งกลางผนัง
ส่วนใหญ่เกิดจากพื้นด้านบนมีของที่มีน้ำหนักมากวางอยู่ พื้นจึงเกิดการแอ่นตัวเป็นรูปตัวยู ทำให้คานที่อยู่เหนือผนังไม่สามารถรองรับน้ำหนักได้ ผนังด้านล่างที่ติดกับพื้นจึงเกิดเป็นรอยร้าวขึ้น
• รอยร้าวลักษณะปล้องบริเวณเสา
เป็นลักษณะปล้องแนวนอนเป็นชั้นๆ บริเวณเสา ซึ่งเกิดจากการทรุดตัวของฐานรากเสาที่ไม่เท่ากับเสาต้นอื่นๆ เลยเกิดการแอ่นตัว จนเป็นรอยร้าวขึ้นมา ทำให้เกิดความไม่มั่นคงของเสาและฐานรากบ้าน
รอยร้าวทั้งหมดนี้ ล้วนเกิดที่โครงสร้างของบ้าน ดังนั้นถ้าพบเจอเมื่อไหร่ แนะนำให้ปรึกษาวิศวกรเพื่อทำการแก้ปัญหาโดยด่วน เพราะถ้าปล่อยให้รอยร้าวขยายพื้นที่ไปเรื่อยๆ อาจยากต่อการแก้ไข และเป็นสาเหตุให้บ้านถล่มได้