5 ข้อควรรู้ ก่อนซื้อคอนโดมือสองมาปล่อยเช่า

11,314 0

คอนโดมือสองเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจของนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ เพราะคนรุ่นใหม่นิยมเช่า-ซื้อคอนโดกันมาก ด้วยปัจจัยต่างๆ อย่างข้อจำกัดทางด้านการเงินหรือความสะดวกสบายที่ตรงตามไลฟ์สไตล์นั่นเอง

หากคุณเป็นนักลงทุนที่กำลังมองหา ‘คอนโดมือสอง’ เพื่อปล่อยเช่า ผู้ลงทุนควรตรวจสอบสภาพห้องและสอบถามข้อมูลต่างๆ จากเจ้าของห้อง เพื่อประกอบการพิจารณาว่าเหมาะสมและคุ้มค่าหรือไม่ วันนี้มาแนะนำ 5 ข้อควรรู้ ก่อนซื้อคอนโดมือสองมาปล่อยเช่าให้นักลงทุนตัดสินใจได้ง่ายขึ้น 

 1.ทำเลและกลุ่มเป้าหมาย
จะดีกว่าไหม ถ้านักลงทุนเลือกทำเลที่ตั้งให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายของผู้ที่ต้องการเช่าคอนโด อย่างเช่น ต้องการเช่าเพราะใกล้ที่ทำงาน, ต้องการเช่าเพราะใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก (ใกล้รถไฟฟ้า, ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง), ต้องการเช่าเพราะบรรยากาศดีหรืออยู่ย่านใจกลางเมือง หากคุณลงทุนให้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายก็จะช่วยให้หาผู้เช่าได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญอย่าลืมสำรวจพื้นที่รอบด้านว่ามีพื้นที่ว่างเปล่าหรือคอนโดมากเกินไปหรือไม่? ถ้ามากเกินไป คุณอาจจะต้องแบกรับความเสี่ยงต่อการลงทุนเช่นกัน 

2.ราคาและต้นทุน
สำหรับนักลงทุนควรสำรวจราคาคอนโดในวัน “พรีเซล” เพื่อที่จะทราบว่าราคาต้นทุนที่ต่ำสุดของคนในตึกเดียวกันคือเท่าไหร่ เพื่อนำมาวางแผนและพิจารณาเปรียบเทียบ เพราะหากคุณได้ต้นทุนสูงกว่าคนในตึก ถือเป็นการลงทุนที่เสี่ยง ทำให้คุณปล่อยห้องเช่าได้ยากหรืออาจจะได้ค่าเช่าไม่คุ้มต้นทุน 

3.ค่าเช่าดี ควรซื้อไปปล่อยเช่าจริงหรือ?
หากเจ้าของห้องบอกว่า “ค่าเช่าดี ควรซื้อไปปล่อยเช่า” หยุดก่อน! อย่าหลงเชื่อเด็ดขาด เพราะหากคอนโดแห่งนี้ราคาสูงแต่ไม่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดก็เสมือนลงทุนเปล่าหรือขาดทุนเพราะต้องเป็นคู่แข่งกับนักลงทุนท่านอื่นด้วย และถ้ามีคอนโดข้างๆ แล้วล่ะก็คู่แข่งทวีคูณเลยทีเดียว 

4.สิ่งของในคอนโดใช้แบรนด์อะไร?
นักลงทุนสำรวจสักหน่อยว่าคอนโดที่คุณกำลังจะซื้อมาปล่อยเช่ามีรสนิยมอย่างไร หากใช้แบรนด์ยี่ห้อดัง นั่นหมายความว่า ทางโครงการให้ความสำคัญกับผู้ใช้งาน และทุกคนล้วนต้องการสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตนเอง ซึ่งส่วนนี้น่าจะเป็นส่วนที่พิจารณาเปรียบเทียบให้ผู้เช่าซื้อตัดสินใจได้ง่ายขึ้นด้วย 

5.อย่าไว้ใจกับอะไรมากเกินไป
ที่ต้องใช้คำนี้เพราะว่าการลงทุนย่อมมีความเสี่ยงเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผู้ลงทุนเอง, จำนวนเงิน หรือผู้เช่าคอนโดของคุณก็ตาม เช่น หากไม่มีผู้เช่าจะต้องมีแผนสำรองล่วงหน้าเพื่อไม่ให้ทุนจมลงไปเสียเปล่า หรือไม่ควรไว้ใจผู้เช่าเกินไปจนสัญญาหละหลวมทำให้คุณถูกเอารัดเอาเปรียบได้ แม้ว่าคุณจะเป็นคนง่ายๆ อะไรก็ได้ แต่ในเรื่องของธุรกิจอย่าไว้ใจอะไรมากเกินไปจะได้ไม่เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา 

นอกจาก 5 ข้อนี้แล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่นักลงทุนควรทราบ ไม่ว่าจะเรื่องของพื้นที่ใช้สอย ค่าใช้จ่ายส่วนกลาง การทำงานของนิติบุคคล การโอนกรรมสิทธิ์ เงื่อนไขข้อตกลง หรือความน่าจะเป็นในอีก 5 ปีข้างหน้า ฉะนั้นนักลงทุนควรพิจารณาเปรียบเทียบให้ดีก่อนการลงทุนทุกครั้ง อย่างน้อยถ้าไม่ได้กำไรก็อย่าให้ทุนจมไปเสียเปล่า 

แท็ก:
คลิกเครื่องหมาย เพื่อเพิ่มลงตะกร้าเก็บทรัพย์ที่สนใจ หรือกดอีกครั้งเพื่อลบออก
คลิกเพื่อเลือก บ้านที่ต้องการแล้วกดปุ่ม "เปรียบเทียบ" ได้เลย