โมโนเรลสายสีเหลือง-ชมพูสร้างล่าช้า เร่งปิดดีลส่วนต่อขยาย BTS ปรับแผนทยอยเปิดใช้

30 มี.ค. 2563 1,033 0

          อัพเดตรถไฟฟ้าสายสีชมพู “แครายมีนบุรี” และสีเหลือง “ลาดพร้าวสำโรง” ดีเลย์ทั้งเส้นทางหลักและส่วนต่อขยาย ติดเวนคืน ปรับแบบสถานีแคราย สะพานบางกะปิ บอร์ด รฟม.เร่งปิดดีลต่อเชื่อมเมืองทองธานี เร่งเซ็นสัญญา ส.ค.นี้ ตอกเข็มให้ทันปีนี้ ส่วนเชื่อมรัชโยธินล่าช้า 6 เดือน รอเคลียร์ BEM ปมแย่งผู้โดยสาร บีทีเอส ปรับแผนเปิดหวูดเป็นช่วง ๆ ดีเดย์ ต.ค.ปี’64 ส่วนต่อขยายเปิดปี’66-67

          นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า รฟม.จะยังคงเป้าภายในเดือน ต.ค. 2564 เปิดบริการรถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี และสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง โดยจะทยอยเปิดบริการตามความก้าวหน้าของการก่อสร้าง เนื่องจากทั้ง 2 โครงการยังมีบางพื้นที่อาจจะก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามสัญญา เช่น สายสีชมพูต้องรอเวนคืนและปรับเส้นทางช่วงสถานีแคราย เป็นต้น

          ต่อขยายสีชมพู เซ็น ส.ค.นี้

          ขณะที่ส่วนต่อขยายทั้ง 2 เส้นทาง ที่กลุ่มบีเอสอาร์ (บีทีเอส-ซิโน-ไทยฯราชกรุ๊ป) เสนอจะลงทุนเพิ่มเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเส้นทางหลัก ล่าสุด คณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม.อนุมัติร่างสัญญาร่วมทุนของส่วนต่อขยายสายสีชมพู ช่วงศรีรัช-เมืองทองธานี ระยะทาง 2.8 กม. เงินลงทุน 3,379 ล้านบาทแล้ว จะเสนอผลการเจรจาให้คณะกรรมการมาตรา 43 ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ คณะกรรมการ PPP กระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติต่อไป

          คาดว่าภายในเดือน ก.ค.-ส.ค.นี้ จะเซ็นสัญญาเพิ่มเติมในสัญญาหลัก และเริ่มงานก่อร้างได้ภายในปีนี้ แต่การเปิดให้บริการจะล่าช้าจากเส้นทางหลักประมาณ 2 ปี 6 เดือน จากเดิมจะเปิดพร้อมกันในปี 2564 จะขยับเปิดให้บริการในปี 2566

          ยืดสีเหลืองรอสรุปปมผู้โดยสาร

          นายภคพงศ์กล่าวอีกว่า ส่วนสายสีเหลืองส่วนต่อขยาย ช่วงรัชดาฯลาดพร้าว-รัชโยธิน ระยะทาง 2.6 กม. เงินลงทุน 3,779 ล้านบาท จะเริ่มงานก่อสร้างล่าช้าจากส่วนต่อขยายสายสีชมพูประมาณ 6 เดือน และการเปิดบริการจะล่าช้าออกไปประมาณ 3 เดือน จากเดิม จะเปิดพร้อมกับเส้นทางหลักในปี 2564 จะขยับไปเป็นในปี 2567

          เนื่องจากยังไม่ได้ข้อสรุปเรื่องผล กระทบที่จะเกิดขึ้นต่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน มี บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) เป็นผู้รับสัมปทาน ซึ่งอยู่ระหว่างทบทวนการประเมินปริมาณผู้โดยสารหากสายสีเหลืองต่อขยาย เปิดแล้ว จากเดิมประมาณการไว้ 9,000 เที่ยวคนต่อวัน ในกรณีไม่มีค่าแรกเข้า แต่หากมีค่าแรกเข้าผู้โดยสารจะมาใช้บริการอยู่ที่เท่าไหร่

          ทั้งนี้ สำหรับผลเจรจาการตอบแทนของส่วนต่อขยายทั้ง 2 ช่วงจะใช้สูตรเดียวกัน คือ บีทีเอสจะต้องแบ่งรายได้จากค่าโดยสารทั้งโครงข่ายให้ รฟม.บนพื้นฐานว่าจะไม่นำผู้โดยสารของส่วนต่อขยายมารวมกับสายทางหลัก เพื่อจะทำให้ รฟม.มีรายได้มากและเร็วขึ้น

          โดยคิดตามความผันแปรของปริมาณ ผู้โดยสาร หากเพิ่มมากกว่า 30% ต้องแบ่ง รายได้ให้ รฟม. 20% หากเพิ่มมากกว่า 50% ต้องแบ่ง 40% ยังไม่รู้ว่าจะเป็นปีที่เท่าไหร่ รฟม.ถึงจะมีรายได้ส่วนนี้ และตั้งแต่ปีที่ 11-30 รฟม.จะได้เงินรายได้อีกปีละ 250 ล้านบาท อย่างของสายสีชมพู ที่ผ่านการอนุมัติจากบอร์ดจะเปิดบริการในปี 2564 ผู้โดยสารอยู่ที่ 199,054 เที่ยวคน ต่อวัน หากเปิดส่วนต่อขยายในปี 2566 ผู้โดยสารเพิ่มมากกว่า 30% หรือผู้โดยสารอยู่ที่ 2.6 แสนเที่ยวคนต่อวัน รฟม.ก็จะได้รับส่วนแบ่งรายได้ในทันที

          บีทีเอสปรับแผนทยอยเปิดใช้

          ก่อนหน้านี้นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ระบบขนส่ง มวลชนกรุงเทพ (BTSC) เปิดเผยว่า จะปรับ แผนเร่งงานก่อสร้างยังไงในช่วงระยะเวลาที่เหลืออีกปีกว่า ๆ ให้เสร็จตามกำหนดสัญญาจะเปิดบริการในเดือน ต.ค. 2564

          ถ้าไม่ได้จริง ๆ จะให้ล่าช้าให้น้อยที่สุด เนื่องจากกระทบต่อต้นทุนก่อสร้างที่เรามีภาระดอกเบี้ยเงินกู้ที่เดินทุกวัน เพราะเราได้เวลาเป็นการชดเชยจากรัฐเท่านั้น ตอนนี้ ยังประเมินไม่ได้ว่าจะช้ากี่เดือน แต่ยังคงเป้าเดิมอยู่

          เหลืองเปิดทั้งสายชมพูเริ่มมีนบุรี

          ถ้าไม่ทันก็สามารถเปิดบริการเป็นเฟส ๆ ได้ เพื่อจะได้มีรายได้จากค่าโดยสารเข้ามาช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ระหว่างที่งานก่อสร้างในบางช่วง ยังไม่เสร็จ ในสัญญาให้สามารถดำเนินการได้ แต่คาดว่าสายสีเหลืองน่าจะเร่งเปิดใช้ได้ทันเวลาตลอดเส้นทางจากลาดพร้าว-สำโรง จะสามารถเคลียร์แบบก่อสร้างทับซ้อนสะพานบางกะปิกับ กทม.ได้เร็ว และไม่น่าจะมีปัญหา เพราะเป็นแค่ช่วงสร้างตอม่อและกระทบแค่ช่วงทางแยก

          ส่วนสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี อาจจะปรับแผนเปิดใช้จากมีนบุรีเข้ามาก่อน แต่จะเปิดถึงสถานีไหนรอประเมินอีกครั้ง

          ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม สำหรับความคืบหน้างานก่อสร้างของสายสีชมพูและสายสีเหลือง ณ เดือน ก.พ. 2563 ในส่วนของสายสีชมพูคืบหน้า 51.78% แยกเป็นงานโยธา 53.81% งานระบบ 48.86% สายสีเหลืองคืบหน้า 51.68% งานโยธา 53.76% งานระบบ 48.97% หลังสร้างเสร็จเปิดใช้บริการสายสีชมพู คาดว่าจะมีผู้โดยสาร 199,054 เที่ยวคนต่อวัน และสายสีเหลืองเฉลี่ย 145,900 เที่ยวคนต่อวัน สำหรับส่วนต่อขยาย 2 ช่วง คาดว่าจะทำให้ผู้โดยสารของ สายสีชมพูและสีเหลืองเพิ่มขึ้น 10%

ที่มา:

คลิกเครื่องหมาย เพื่อเพิ่มลงตะกร้าเก็บทรัพย์ที่สนใจ หรือกดอีกครั้งเพื่อลบออก
คลิกเพื่อเลือก บ้านที่ต้องการแล้วกดปุ่ม "เปรียบเทียบ" ได้เลย