อสังหาฯ ทั่วไทยตื่นปลุกกำลังซื้อ 'ต่างชาติ'
บิ๊กทุน ผุด บ้านหรู,คอนโดแพงสุด ชิงกลุ่มมั่งคั่ง
อสังหาฯตื่นรับ ‘กำลังซื้อต่างชาติ’ ผุดโครงการหรู เจาะ ทำเลไพร์ม กทม. - เมืองท่องเที่ยว ดึงเศรษฐี กลุ่มมั่งคั่งอยู่ไทย ดีเดย์ ‘ฮาบิแทท’ บูมพัทยา ส่งโมเดลใหม่ ‘เวเคชั่น พลูวลล่า’ รับวัยเกษียณ ผู้บรหารอีอีซี พื้นที่เมืองใหม่ ‘ห้วยใหญ่’ ขยับ ด้าน ภูเก็ต เขย่าแรง เชนดัง แข่งดุ ‘แบรนเด็ดเรสซิเดนท์’ ริมหาด รับอานิสงค์ ราคาที่ดินพุ่ง 10% เมืองเป้าหมายโลก ขณะจับตา กลุ่ม อาลียาห์, ลิปตพัลลภ และ แสนสิร ปั้นทำเลทอง กลางกรุง สู่ โครงการแพงสุด และหรูสุด!
สถิติ ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 (ม.ค.-ก.ย.) ซึ่ง ทะลุ 6 ล้านคน และคาดสิ้นปี จะมีจำนวนแตะถึง 10 ล้านคน ขณะในช่วงปี 2565 อาจสูงมากถึง 21 ล้านคน ภายใต้สถานการณ์ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก ผ่อนคลายเข้าใกล้ภาวะปกติ พร้อมๆ กับรัฐบาลไทย กำลังมีแนวคิดสนับสนุน การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ให้แก่ชาวต่างชาติ เพื่อหนุนนำเศรษฐกิจยุคใหม่นั้น ประเด็นดังกล่าว กำลังสร้างความหวังและความตื่นตัวให้กับภาคอสังหาริมทรัพย์ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2565 อย่างคึกคักอย่างน่าจับตามอง ทั้งตลาดบ้านและคอนโดฯ กทม. และเมืองท่องเที่ยว
ดัน ‘เวเคชั่น วิลล่า’ ห้วยใหญ่ เจาะต่างชาติ EEC
เจาะผู้พัฒนาดังในเมืองท่องเที่ยวอย่างพัทยา จ.ชลบุรี บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด ประเมินว่า ช่วงปีหน้า ทั้งการท่องเที่ยว และอสังหาฯไทย จะกลับมาคึกคักอย่างมาก โดยเฉพาะตลาดพัทยา ที่มีแรงหนุนจากทั้งผู้ซื้อคนไทยและคนต่างชาติ ล่าสุด บริษัทเปิดเกมรุกร่วมกับแลนด์ลอร์ดใหญ่ของชลบุรี กลุ่ม ‘เฮงตระกูล’ เตรียมปั้นที่ดินขนาดใหญ่ 51 ไร่ บริเวณ ห้วยใหญ่ เห็นวิวภูเขา ทำเลเมืองพัฒนาใหม่ ในย่านอีอีซี สู่โครงการ ‘ไฮแลนด์ พาร์ค พลู วิลล่า พัทยา’ ซึ่งเป็นโมเดลใหม่ของบริษัท ในรูปแบบ ‘เวเคชั่น พลูวิลล่า’ มูลค่า 1.7 พันล้านบาท ในราคาขายเฟสแรกระดับ 13-15 ล้านบาท หลังจาก นายชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด ประเมินว่า ตลาดพลูวิลล่า จะได้รับความนิยมสูง จากผู้ซื้อทั้งคนไทยและต่างชาติ ครอบคลุมการซื้ออยู่อาศัย และลงทุนอย่างสูง จากความพรีเมียมของทำเลอนาคตและดีมานด์ที่หนาแน่นของต่างชาติในโซนอีอีซี
“บริษัทปรับแผนธุรกิจจากคอนโดฯมาสู่แนวราบครั้งแรก หลังจากเห็นโอกาสของดีมานด์ โดยเฉพาะชาวต่างชาติ ที่เข้ามาทำงานในนิคมอุตสาหกรรม และวัยเกษียณ ทั้งคนเอเชีย จีน ญี่ปุ่น ยุโรป และ กลุ่มตะวันออกกลาง เป็นต้น”
ผู้บริหาร ฮาบิแทท ยังระบุว่า ทำเลห้วยใหญ่ ที่รัฐอยู่ระหว่างการพัฒนาเป็นเมืองใหม่ของ อีอีซี รวมพื้นที่ 15,000 ไร่ ด้วยมูลค่าการลงทุน (รัฐ+เอกชน) เฟสแรก 8 พันล้านบาท โดยใช้ระบบอิโนเวชั่น เข้ามาบริหารจัดการในการพัฒนาเมือง จะทำให้อีอีซี และเมืองท่องเที่ยวพัทยา เป็นแลนมาร์ค รองรับชาวต่างชาติได้อย่างดี
แห่ปั้น โครงการหรูเหยียบ 100ล.กลางเมือง
ด้านทำเลทอง กทม. เมืองเป้าหมายการอยู่อาศัยและลงทุนระดับโลก ล่าสุด อดีตผู้บริหารไรมอนแลนด์ กลุ่มทุนสิงคโปร์ นายไลโอเนล ลี หวนวงการ ก่อตั้งบริษัทใหม่ ภายใต้ อาลียาห์ คอร์ป ในฐานะพัฒนาอสังหาฯบูติกระดับไฮเอนด์ เปิดตัวโครงการแรก ‘ALIYAH RESERVE’ วิลล่าระดับอัลตร้าลักชัวรี จำนวน 6 ยูนิต มูลค่า 1.4 พันล้านบาท ขนาด 5 ไร่ บนทำเลพัฒนาการ 32 แหล่งบ้านหรูสุดฮอต ด้วยพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ 1,370-1,900 ตารางเมตร เปิดราคาขายยูนิตละ 200-300 ล้านบาท เน้นพื้นที่สีเขียว เทรนด์ครอบครัวขนาดใหญ่ เจาะโอกาสซัพพลายหรู กลางเมืองมีน้อย แต่ดีมานด์คับคั่ง ครอบคลุมความต้องการของชาวต่างชาติ และนักลงทุนด้วย โดยโครงการจะแล้วเสร็จปี 2567
“บริษัทมองว่า ตลาดลักชัวรีของไทย โดดเด่นและมีโอกาส จากจำนวนซัพพลายที่มีไม่เพียงพอกับดีมานด์ ขายที่ดีมาก เติบโตอย่างต่อเนื่องจาก 68% ปี 2562 มาเป็น 75% ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 ซึ่งบางส่วน มาจากการเข้ามาลงทุนของคนไทยและต่างชาติ”
อีกด้านอีกทำเลทอง สำหรับกำลังซื้อ ‘กลุ่มต่างชาติ’ โดย บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ก็กำลังปั้น ‘โครงการมอลตัน เกทส์ กรุงเทพกรีฑา’ บ้านเดี่ยวราคา 38-80 ล้านบาท มูลค่า 2.1 พันล้านบาท จำนวน 49 ยูนิต สู่ Luxury Wellness Residence หลังจาก ประกาศผนึกกับกลุ่ม ‘รพ.สมิติเวช’ และ ‘ปัญญ์ปุริ’ ชูจุดแข็งให้บริการด้านการแพทย์ และการดูแล บำบัดตัวเอง คาดหวังตอบสนองเมกะเทรนด์ด้าน Well-Living แนวคิดที่อยู่อาศัยใหม่ ที่กำลังเป็นที่ต้องการทั้งจากฝั่งผู้ซื้อคนไทยและคนต่างชาติระดับบนเช่นกัน
จับตากลุ่มพราว - แสนสิริ ผุดคอนโดแพงสุด
ขณะก่อนหน้าตลาดระดับลักชัวรี ของคอนโดมิเนียมกลางเมือง ซึ่งหดตัวไปมาก จากสถานการณ์โควิด19 พบขณะนี้กำลังกลับมาร้อนแรงอีกครั้งเช่นกัน โดย บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) กลุ่ม ลิปตพัลลภ ประกาศเตรียมพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมหรู สูง 34 ชั้น มูลค่า 3.9 พันล้านบาท บนทำเลไพร์มกลางเมือง หลังจากซื้อที่ดิน บริเวณซอยคอนแวนต์ สีลม ตรงข้ามโรงพยาบาลบีเอ็นเอช (BNH) พื้นที่ 1.5 ไร่ ต่อมาในราคา 1.7 ล้านบาทต่อตารางวา คาดจะเปิดพรีเซลในเร็วๆ นี้ ในรูปแบบการพัฒนาโครงการ ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน จากมูลค่าของที่ดิน
เช่นเดียว กับบมจ.แสนสิริ ซึ่งมีรายงานข่าวว่า เตรียมปั้นที่ดินแปลงสารสิน หลังจากซื้อต่อมาจาก บมจ.เอ็ม บีเค ในราคารวมทั้งที่ดินและอาคารประมาณ 1,560 ล้านบาท หรือ ตารางวาละ 3.9 ล้านบาท เมื่อปี 2563 สู่ คอนโดฯที่แพงที่สุดในประเทศไทย คาดจะสร้างความร้อนแรงและความน่าสนใจของอสังหาฯไทยอย่างมากในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า
อสังหาฯภูเก็ตร้อน บิ๊กชนบิ๊ก
ส่วนทำเลระดับท็อปของไทยในกลุ่มต่างชาติกระเป๋าหนัก ทั้งซื้อลงทุนและอยู่อาศัย อย่างจังหวัดภูเก็ต นั้น พบตลาด Branded Residence (โครงการที่มีเชนโรงแรมดังบริหารจัดการ) กำลังคึกคักอย่างมาก หลังจากเอเชียและไทยกลายเป็นเป้าหมาย 1 ใน 3 ของ Branded Residence ทั่วโลก เพราะผู้ซื้อมองเป็นกลุ่มสินทรัพย์ประเภทเกรด A มีมูลค่าสูงในอนาคต โดย นอกจากกลุ่ม ไรมอน แลนด์ ประกาศ ร่วมลงนามกับ ‘โรจนะ พร็อพเพอร์ตี้’ เพื่อพัฒนาโรงแรมและเรสซิเดนซ์ระดับลักชัวรี่ ในรูปแบบ Branded Residence บนที่ดินขนาดประมาณ 50 ไร่ ติดทะเลใน จ.ภูเก็ต
และพร้อมสานต่อโครงการอื่นๆ เพิ่มเติมในพื้นที่นั้น
ล่าสุด กลุ่มมอนท์เอซัวร์ ภูเก็ต ยังร่วมกับเชนโรงแรมดังระดับโลก ‘แอคคอร์’ ยังประกาศเดินหน้าก่อสร้างและเพิ่มยอดขาย โครงการ “เอ็มแกลเลอรี เรสซิเดนซ์ มอนท์เอซัวร์” ซึ่งเป็นเอ็มแกลเลอรี เรสซิเดนซ์ แห่งแรกในประเทศ ไทย โดยโครงการดังกล่าวตั้งอยู่บนหาดกมลา เป็นมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ 454 ไร่ ทำเลสุดพรีเมียมของเมืองตากอากาศ ที่กำลังเป็นที่ต้องการของนักลงทุนทั้งชาวไทยและในเอเชีย โดยเฉพาะกลุ่ม ลูกค้าที่มีความมั่งคั่งสูง (High-Net-Worth Individual) ที่มีแนวโน้มที่จะลงทุนในโครงการ Branded Residence ด้วยผลกำไรที่น่าดึงดูดในระยะยาวมากขึ้นนั่นเอง
คน สปป.ลาว แห่ซื้อบ้าน อุดรธานี
ทั้งนี้ ความคึกคักของ ‘กำลังซื้อต่างชาติ’ ในภาคอสังหาฯ ยังมีความเคลื่อนไหว ในพื้นที่รอยต่อประเทศเพื่อนบ้านของไทยด้วยเช่นกัน โดย นายมีศักดิ์ ชุนหรักษ์โชติ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เผย ‘ฐานเศรษฐกิจ’ ว่า นอกจากใน กทม. และเมืองท่องเที่ยวแล้ว พบล่าสุด ในจังหวัดอุดรธานี ก็มีการซื้อ - ขายบ้านเดี่ยวระดับบน ให้คน สปป.ลาว ในรูปแบบ ‘นอมินี’ หลายหลัง ทำให้ผู้พัฒนาในพื้นที่ตื่นตัวอย่างมาก
ซึ่งรัฐควรใช้โอกาสนี้ เร่งนำความต้องการดังกล่าวขึ้นมาอยู่บนโต๊ะอย่างถูกกฎหมาย เพราะนี่ถือเป็นส่วนสนับสนุนเศรษฐกิจในท้องถิ่นโดยตรง จากการเข้ามากินอยู่อาศัยและท่องเที่ยว เสนอนำร่องให้โควต้าเดียวกับการถือครองกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียม ในลักษณะสัดส่วน ผ่านการกำหนดระยะเวลา และใช้กฎกระทรวงดูแล เพื่อศึกษาผลประโยชน์ และผลกระทบ ก่อนการประกาศใช้ระยะยาว หรือปรับแก้ยกเลิกตามความเหมาะสมได้ เป็นต้น
ที่มา: หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ