สิงห์เอสเตท ลั่นกำไรนิวไฮ

21 มี.ค. 2566 294 0

 

          มุ่งความเป็นเลิศ ‘4 ธุรกิจ’ หนุนรายได้ 1.7 หมื่นล้าน

          จ่อเปิด 5 โครงการใหม่ มูลค่า “หมื่นล้าน” สูงสุดเป็นประวัติการณ์     

          เป็นประจำทุกปีที่ “ภาคเอกชน” ทยอยเปิดแผนลงทุนประจำปี 2566 โดยล่าสุด บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S เปิดแผนสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง และมั่งคั่งในปี 2566 โดยทั้ง “4 ธุรกิจหลัก” คือ ธุรกิจที่อยู่อาศัย-ธุรกิจอาคารสำนักงาน-ธุรกิจโรงแรม-ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม จะเติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในทุกธุรกิจ หนุนผลงาน ทั้งปีโดดเด่น ทั้งในแง่ของรายได้และกำไร ซึ่งทำให้อัตรากำไร และผลตอบแทนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกด้วย

          ฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S เปิดเผยว่า สำหรับแผนธุรกิจปี 2666 บริษัทวางกลยุทธ์ “S EXCELS ” คือ การสร้างความเป็นเลิศในทุกมิติ โดยมิติแรก ผลการดำเนินงานที่เป็นเลิศ ซึ่งมีเป้าหมาย 4 พอร์ตธุรกิจ คือ ธุรกิจที่อยู่อาศัย-อาคารสำนักงาน-โรงแรม-นิคมอุตสาหกรรม มีกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All Time High) โดยจะสร้างรายได้อยู่ที่ 16,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34%

          มิติสอง คือ การเพิ่มแต้มต่อธุรกิจ โดยการเสริมแกร่งศักยภาพในการแข่งขันเน้นการสร้าง Synergy ที่เกื้อหนุนกันระหว่าง 4 ธุรกิจ และความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำ เพื่อเป็นการสร้างการเติบโตเฉลี่ยปีละ 20% ตลอด 3 ปี มิติสาม คือ การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยบริษัทตั้งเป้าบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2573 และกำหนดแผนอนุรักษ์ในพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพในบริเวณธุรกิจตั้งอยู่

          สำหรับแผนธุรกิจที่อยู่อาศัย บริษัทเตรียมต่อยอดความสำเร็จด้วยการเปิดโครงการบ้านแนวราบใหม่ จำนวน 5 โครงการมูลค่า 10,000 ล้านบาท เพื่อตอบรับความต้องการตลาดคอนโดมิเนียมที่กลับมาคึกคักอีกครั้ง บริษัทจึงได้ขยายสัดส่วนการถือครองโครงการ The ESSE Sukhumvit 36 ส่งผลให้บริษัทรับรู้รายได้และกำไรจากโครงการดังกล่าวเต็ม 100% คาดว่าโครงการที่พักอาศัยในปีนี้จะมีรายได้เติบโตขึ้นกว่า 70%

          ส่วนธุรกิจสำนักงานให้เช่า ในปีนี้มีสัญญาณฟื้นตัวต่อเนื่อง ด้วยกลยุทธ์โมเดลธุรกิจ Right sizing ซึ่งเป็นการนำเสนอพื้นที่ให้เช่าที่มีความหลากหลายควบคู่กับโมเดลธุรกิจ Ready-to-move หรือการจัดสรรพื้นที่ให้เช่าพร้อมใช้งาน โดยในปีนี้ ตั้งเป้ารายได้เติบโตธุรกิจสำนักงาน ให้เช่า 20% ด้วยอัตราการเช่าพื้นที่สูงกว่า 90% ในทุกโครงการ

          ทั้งในส่วนของสิงห์ คอมเพล็กซ์ ซันทาวเวอร์ส และ เอส เมโทร รวมถึงโครงการอาคารสำนักงานล่าสุดอย่าง เอส โอเอซิส บนถนนวิภาวดีรังสิต บริเวณห้าแยกลาดพร้าว ศูนย์กลางธุรกิจที่เปี่ยมศักยภาพแห่งใหม่ พร้อมเซ็นสัญญาผู้เช่ารายใหญ่ในไตรมาส 2 ปี 66

          กลุ่มธุรกิจโรงแรม ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท หรือ SHR จะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่โดดเด่นอย่างชัดเจนในปีนี้ โดยโรงแรมในเครือที่ ประเทศไทยทั้ง 4 แห่งจะเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ คาดรายได้เติบโตถึง60% จากปีก่อนหน้า ขณะที่รายได้จากโรงแรมในมัลดีฟส์ จะเติบโตขึ้น 30% หนุนรายได้รวมทะลุ 10,000 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นกว่า 20%

          ทั้งนี้ ในปี 2566 จะเน้นการเติบโตของอัตราการเข้าพักรวมแตะระดับ All-time High ที่ 75% ขณะที่ การหมุนเวียนและต่อยอดการลงทุนสินทรัพย์ (Asset Rotation & Enhancement) รวมถึงการปรับปรุงและยกระดับโรงแรมในเครือ ช่วยเสริมแกร่งผลประกอบการ สนับสนุนให้ SHR สามารถครองตำแหน่งผู้ประกอบธุรกิจบริหารจัดการโรงแรมรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของไทยอย่างต่อเนื่อง

          นอกจากนี้ ในช่วงปลายปีจะมีการเปิดตัว SO/ Maldives โรงแรมไลฟ์สไตล์ หรูระดับ 6 ดาว ในโครงการครอสโรดส์ มัลดีฟส์ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง SHR และพันธมิตรทางธุรกิจ คาด ผลประกอบการจะสร้างกำไรให้กับบริษัท ในระยะยาวได้ในอีกทางหนึ่ง

          และกลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน มีแนวโน้มเติบโต ต่อเนื่อง ในปี 2566 บริษัทตั้งเป้ายอดโอน กรรมสิทธิ์ที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมเอส อ่างทอง เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า หรือ ยอดขาย ที่ดิน 200 ไร่ แรงหนุนสำคัญจาก ทั้งปัจจัยมหภาค โดยบีโอไอคาดระดับ การลงทุนจากต่างประเทศคงตัวได้ ที่ราว 5-6 แสนล้านบาท ความร่วมมือ กับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.)

          รวมทั้งจุดแข็งของนิคมอุตสาหกรรม เอส อ่างทอง ซึ่งตอบโจทย์ธุรกิจที่หลากหลาย โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจที่ต้องการใช้พลังงานและน้ำจำนวนมาก และธุรกิจที่ต้องการใช้พลังงานสะอาดในการผลิตเป็นเงื่อนไขเพื่อขยายสู่ตลาดระดับสากล เนื่องจากนิคมตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ที่เป็นจุดศูนย์กลางระหว่างแหล่งวัตถุดิบและเส้นทางการขนส่ง

          รวมทั้ง บริษัทมีแผนจับมือพันธมิตร ทั้งภายในและภายนอกเครือสิงห์ เอสเตท เพื่อสร้างแต้มต่อทางธุรกิจ ยกระดับ ขีดความสามารถในการแข่งขัน นำเสนอสินค้าและบริการที่แตกต่าง

          นอกจากนี้ เพื่อสร้างแต้มต่อในการก้าวเข้าสู่ธุรกิจ Flex space บริษัทมีแผนร่วมมือกับผู้ประกอบการชั้นนำซึ่งมีสาขาครอบคลุมศูนย์กลางทางธุรกิจที่สำคัญๆ และมีระบบการบริหารจัดการที่ทันสมัยมีประสิทธิภาพอีกด้วย

          และตั้งเป้าหมายสู่การเป็นองค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2573 และสร้างความหลากหลายที่สมดุลเพื่อให้สอดคล้องกับการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยตั้งเป้าลดการปล่อยคาร์บอนได้ถึง 5% ต่อปี การเพิ่มเทคโนโลยีนำพลังงานสะอาดมาใช้ในกระบวนการธุรกิจ

          “ปีนี้ธุรกิจที่อยู่อาศัยอาคารสำนักงาน โรงแรม นิคมอุตฯ มีกำไร All Time High”



        

 

 

ที่มา:

คลิกเครื่องหมาย เพื่อเพิ่มลงตะกร้าเก็บทรัพย์ที่สนใจ หรือกดอีกครั้งเพื่อลบออก
คลิกเพื่อเลือก บ้านที่ต้องการแล้วกดปุ่ม "เปรียบเทียบ" ได้เลย