สิงห์ เอสเตท ต่อจิ๊กซอว์ เอส อ่างทอง ปั้นนิคมฯอาหารเสริมแกร่ง3ธุรกิจหลัก

28 มิ.ย. 2565 383 0

          บุษกร ภู่แส

          กรุงเทพธุรกิจ


          “สิงห์ เอสเตท” เดินเครื่องปั้นธุรกิจแห่งอนาคต! เสริมแกร่ง 3 ธุรกิจหลัก อสังหาริมทรัพย์ โรงแรม สำนักงานให้เช่าและพื้นที่ค้าปลีก

          ฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้ได้ขยายการลงทุนพัฒนานิคมอุตสาหกรรมอาหาร “เอส อ่างทอง” สานนโบายภาครัฐมุ่งส่งเสริมธุรกิจอาหารและผลักดันให้ประเทศไทยเป็นครัวโลก โดยทำเลที่ตั้งของนิคมฯ “เอส อ่างทอง” บนพื้นที่ 1,776 ไร่ ริมถนนสายเอเชีย กม.63 ต.ไชยภูมิ อ.ไชโย จ.อ่างทอง นับเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญใจกลางใจกลางห่วงโซ่อุปทานอาหารและวัตถุดิบของประเทศ ทั้งเป็นแหล่งสำคัญในการผลิตข้าว ผลิตภัณฑ์จากนม และสัตว์ปีก ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา

          “เมื่อเปิดประเทศถือเป็นประโยชน์ต่อนิคมอุตสาหกรรมฯ เอส อ่างทอง ที่กำลังเปิดตัวทำให้มีโอกาสชักชวนชาวต่างชาติเข้ามาลงทุน นอกเหนือจากผู้ประกอบการไทย ซึ่งพบว่ามีนักลงทุนต่างๆ ทั้งจีน เกาหลี ญี่ปุ่น เข้ามาดูนิคมฯ และซัพพลายเชน ที่เกี่ยวข้องอาหาร”

          ภายใต้แนวคิด Enriching Tomorrow ของ สิงห์ เอสเตท ที่เน้นการสร้างคุณค่า ที่ยั่งยืนเป็นแนวทางและเป้าหมายของ “เอส อ่างทอง” มุ่งสู่ “เวิลด์ ฟู้ด วัลเลย์” สอดคล้องนโยบายภาครัฐที่ต้องการให้ประเทศไทยเป็น ศูนย์กลางครัวโลก เพราะหัวใจสำคัญคือ การส่งออก ที่สำคัญการเป็นพาร์ทเนอร์ กับผู้ประกอบการอาหารขนาดกลางและเล็ก เพื่อให้สามารถเข้าไปแข่งขันในตลาดโลกได้

          โครงการ เอส อ่างทอง นิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศสำหรับอาหาร และโครงสร้างพื้นฐาน แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ 1.ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน ครอบคลุมธุรกิจผลิตกระแสไฟฟ้า ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจบริการด้านวิศวกรรม และ ธุรกิจบริการรวมถึงนวัตกรรมต่างๆ 2.ธุรกิจโรงไฟฟ้าในลักษณะการร่วมทุนเพื่อดำเนินงานโรงไฟฟ้า จำนวน 3 โรง ขนาดกำลังการผลิตรวมกว่า 400 เมกะวัตต์ ซึ่งมีสัญญาซื้อขายกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แล้วราว 70% เป็นเวลา 25 ปี โดยบริษัทจะมีการรับรู้ผลการดำเนินงานของธุรกิจ ผ่านส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจร่วมค้า และ 3.นิคมอุตสาหกรรม

          “เรามีจุดเด่นที่แตกต่าง คือ เป็นนิคมอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งที่ผ่านมาไม่มีนิคมฯ อาหารเฉพาะ ขณะที่ผู้ประกอบการอาหารส่วนใหญ่เป็นรายใหญ่ที่ทำธุรกิจมานานและมีโรงงานผลิตเป็นของตนเอง และปัจจุบันมีผู้ประกอบการขนาดกลางที่ผลิตอาหาร ส่งออกมากขึ้น ต่างมองหานิคมฯ ที่ตอบโจทย์ในทุกมิติ ทั้งเชิงนิเวศและการทำงานร่วมกับภาครัฐที่มีอำนาจควบคุมกฎระเบียบ เช่น การนิคมอุตสาหกรรม การได้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี ฉะนั้นการเข้ามาอยู่ในพื้นที่นิคมฯ จะตอบโจทย์ผู้ประกอบการ”

          ในแง่กายภาพนิคมอุตสาหกรรม เอส อ่างทอง มีจุดเด่นและความแตกต่างคือ ราคาที่ดินที่ถูกกว่า ซึ่งเป็นต้นทุนที่สำคัญของผู้ประกอบการ ซึ่งถือเป็นประโยชน์ทางด้านการเงินในระยะยาว ให้กับผู้ประกอบการจากต้นทุนโรงงานที่ต่ำกว่า

          “เอส อ่างทอง เป็นรอยต่อ Climate change ซึ่งเป็น 3 องค์ประกอบที่สร้างความโดดเด่นตอบโจทย์ตลาดในปัจจุบันและอนาคต เป็นธุรกิจใหม่ที่เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับ 3 ธุรกิจอสังหาฯ โรงแรม สำนักงานให้เช่าและพื้นที่ค้าปลีก ของสิงห์ เอสเตท”

          กำจร ลีประพันธ์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส. ไอเอฟ. จำกัด กล่าวเสริมว่า เอส อ่างทอง เน้นการส่งเสริมผู้ประกอบการ ขนาดกลางเล็กได้มีพื้นที่เพื่อผลิตอาหารโดยปีแรกนี้ (2565) ตั้งเป้ายอดขาย 15% ของพื้นที่ทั้งหมด คิดเป็นมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท ซึ่งยอดขายส่วนหนึ่งมาจาก โรงไฟฟ้า 2 โรง รับรู้รายได้ไตรมาส 3 ปี 2565 ส่วนที่เหลือจะทยอยขายตามแผนในปีถัดๆไป

          ในส่วนด้านหน้าโครงการมีพื้นที่ 30 ไร่  ทำคอมเมอร์เชียล คาดมียอดรับรู้รายได้จากรีเทลในพื้นที่ 10 ล้านบาทต่อปี หรืออาจมากกว่านั้น รวมทั้งรายได้ประจำ (Recurring income ) ที่เกิดจากการใช้สาธารณูปโภคในนิคมฯ เช่น น้ำประปา การบำบัดน้ำทิ้ง ราว 150 ล้านบาท ต่อปี

          แผนต่อไป จะเปิดตัวนิคมฯ ให้กับธุรกิจอาหารภายใต้สภาอุตสาหกรรมและหอการค้า ที่ต้องการขยายโรงงาน หรือ สร้างใหม่ คาดว่าภายใน 5 ปี จะปิดการขาย พื้นที่ได้หมด

          เอส อ่างทอง เป็นนิคมฯ เชิงนิเวศสำหรับอาหารแตกต่างและโดดเด่นภายในแนวคิด “เวิลด์ ฟู้ด วัลเลย์“สอดคล้องนโยบายรัฐมุ่งผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางครัวโลก

ที่มา:

คลิกเครื่องหมาย เพื่อเพิ่มลงตะกร้าเก็บทรัพย์ที่สนใจ หรือกดอีกครั้งเพื่อลบออก
คลิกเพื่อเลือก บ้านที่ต้องการแล้วกดปุ่ม "เปรียบเทียบ" ได้เลย