ลุมพินี วิสดอมฯ แนะอสังหาฯ ใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลุมพินี วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด บริษัทวิจัยและพัฒนาในเครือ บริษัท แอล. พี. เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) กล่าวถึงแนวทางการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมภายใต้กรอบแนวคิด BCG Economy หรือ เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy) ซึ่งเป็น โมเดลการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน โดยการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาเศรษฐกิจว่า การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ต้องใช้ทั้งทรัพยากรแรงงาน และ วัสดุจำนวนมาก
ในขณะที่กระบวนการก่อสร้างยังก่อให้เกิดมลภาวะทั้งฝุ่น และเสียง จากงานวิจัยของ Architecture 2030 องค์กรไม่แสวงหากำไรที่มีพันธกิจในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในอุตสาหกรรมก่อสร้างและสร้างแนวทางแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศ มาตั้งแต่ปี 2545 ระบุว่า อุตสาหกรรมก่อสร้างผลิตก๊าซเรือนกระจกหรือ CO2 ในสัดส่วนกว่า 40% ในปี 2565 โดยแบ่งเป็น 27% มาจากกระบวนการบริหารจัดการอาคาร6% มาจากกระบวนการก่อสร้าง และ 7% มาจากกระบวนการอื่นๆซึ่งลดลงจากปี 2564 ที่มีสัดส่วนการปล่อยก๊าซ CO2 ในอุตสาหกรรมก่อสร้างที่ 47%
นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าวว่า จากการที่อุตสาหกรรมก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงเกือบครึ่งของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโลก จึงเป็นหน้าที่ที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ฯ จะต้องปรับแนวทางในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ให้ลดการสร้างมลภาวะต่อ สิ่งแวดล้อม ลดฝุ่น เสียง และขยะจากกระบวนการก่อสร้างไปจนถึง การลดปริมาณการปล่อย CO2 ภายใต้กระบวนการพัฒนาโครงการไปจนถึงการบริหารจัดการอาคาร เพื่อที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการลด CO2 ของประเทศไทยภายใต้พันธสัญญา ที่รัฐบาลไทยได้ให้ไว้กับภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสมัยที่ 26 ที่กลาสโกว์ สกอตแลนด์ ประเทศอังกฤษ (The 26 of Conference of the Parties:COP26) ที่มีการประชุมระหว่างวันที่ 1-12 พฤศจิกายน 2564 ว่าประเทศไทยจะลดปริมาณ การปล่อยก๊าซ CO2 ลงมา 20-25% ภายในปี 2573 จากจำนวนก๊าซ CO2 ที่ประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากเป็นอันดับที่ 20 ของโลก หรือประมาณ 0.8% ของทั้งโลก
ในปี 2561 ตามการจัดอันดับขององค์กร Climate Watch และในปี 2563 ประเทศไทยมีการปล่อยก๊าซ CO2 224.3 ล้านตัน ลดลง 11.34% จากจำนวนการปล่อยก๊าซ CO2 253 ล้านตันในปี 2562
“การออกแบบและการเลือกวัสดุที่เหมาะสมเป็นแนวทางหนึ่งในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและลดการปล่อยก๊าซ CO2 โดยปัจจุบันผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างได้มีการพัฒนาและนำเทคโนโลยี่เข้ามาใช้ในการพัฒนาวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการผลิตไปจนถึงการนำวัสดุไปใช้ ในกระบวนการก่อสร้าง เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อาคารเป็นอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและลดการปล่อย CO2 อย่างยั่งยืน” นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าว
จากการศึกษาของ “ลุมพินี วิสดอมฯ” พบว่าปัจจุบันมี วัสดุทางเลือกใหม่ๆ ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยลดการปล่อย CO2 ในขณะเดียวกันยังเป็นวัสดุที่ทำให้เกิดแนวคิดใหม่ๆ ในการออกแบบ ตัวอย่างเช่น Wooden Bamboo เป็นนวัตกรรมที่นำผลงานวิจัยและเทคโนโลยี เข้ามาเสริม ความแข็งแรงของไม้ไผ่ด้วยการเสริมเส้นใยไผ่ประสิทธิภาพสูงเข้าไป ทำให้เปลี่ยนข้อเสียของไม้ไผ่ที่รับแรงดึงไม่ค่อยได้ เป็นความสามารถในการรับแรงดึงที่มากกว่าเหล็กได้ถึง 3 เท่า, I-Mesh Textile I-Mesh ถูกเปิดตัวและใช้งานครั้งแรกในงาน Expo 2020 ที่ประเทศดูไบ โดยใช้เป็นหลังคากันแดดบริเวณทางเดินส่วนกลาง I-Mesh ผลิตจากเส้นใย Carbon, Fiber, Cheiron, Aramid และ Basalt ทอเป็นวัสดุคล้ายใยแมงมุมโดยใช้เส้นด้ายเคลือบด้วยเรซิน ทำให้ได้สิ่งทอที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถใช้ได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง มีอายุการใช้งานยาวนานต่างจากวัสดุก่อสร้างที่เป็นสิ่งทอทั่วไป
PETG Particles PETG คือวัสดุที่อยู่ใกล้ตัวเราเป็นอย่างมาก เช่นขวดน้ำที่ทำจากพลาสติกใส (โดยเรียกอีกชื่อว่าขวด PET) โดยกระบวนการของวัสดุนี้คือการนำเอาพลาสติกใส มาผ่านกระบวนการให้กลับไปเป็นเม็ดพลาสติก ก่อนนำไปทำเป็นเส้นพลาสติก และนำใช้เป็นวัสดุในเครื่องพิมพ์สามมิติ โดยข้อดีของวัสดุชนิดนี้คือน้ำหนักที่เบา แต่มีความแข็งแรงสูง วัสดุชนิดนี้สามารถนำกลับไป Recycle ได้อย่างไม่จบสิ้น โดยจากงานวิจัยยังได้พบอีกว่า ยิ่งผ่านการใช้งานและ Recycle ไป PETG จะยิ่งปล่อยคาร์บอนน้อยลงมากกว่า 50% “ถึงแม้ธุรกิจอสังหาฯ จะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะสร้างมลภาวะที่เป็นพิษในกระบวนการก่อสร้างทั้งฝุ่น เสียง และ การปล่อยก๊าซ CO2 แต่เราเลือกที่จะเป็นอุตสาหกรรมที่ปล่อย มลภาวะที่เป็นพิษให้น้อยที่สุดได้โดยการเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกมากขึ้นทั้งวัสดุก่อสร้างและวัสดุตกแต่งภายใน พัฒนากระบวนการก่อสร้างให้สามารถ ลดมลภาวะให้น้อยที่สุด เพื่อให้เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีส่วนช่วยลดโลกร้อน และเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG อย่างยั่งยืน” นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าว
ที่มา: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา