จีนทะลักซื้อคอนโด SIRIตั้งป้อมโกยอื้อ
ARE เอเจนซี จำหน่ายคอนโดไทยให้ลูกค้าจีนฟันธงลูกค้าจันพร้อมเข้ามาซื้อคอนโดในไทย ตั้งเป้าปีนี้ขายได้ 2,000 ยูนิต ปักธง 5 ทำเลศักยภาพในกรุงเทพฯ รวมถึงจังหวัดท่องเที่ยว ทั้งเชียงใหม่ ภูเก็ต และพัทยา ด้าน SIRI ประกาศลุยหนักเปิด 22 โครงการ 2 หมื่นล้านบาท วางเป้าโกยต่างชาติ 1.2 หมื่นล้านบาท กูรูเคาะเป้า 2.11 บาท จ่ายปันผลสูง 7.1%
นายไซม่อน ลี (Simon Lee) ประธานกรรมการ บริษัท แองเจิล เรียลเอสเตท คอนซัลแทนซี่ จำกัด หรือ ARE บริษัทที่ปรึกษาด้านการตลาดและขายของประเทศไทย โดยเฉพาะโควตาต่างประเทศ (Foreign Quota) โบรกเกอร์รายใหญ่ที่ทำตลาดในภูมิภาคเอเชีย เปิดเผยว่า การที่รัฐบาลจีนประกาศเปิดประเทศตั้งแต่ต้นปี 2566 นั้นถือเป็นปัจจัยหนุนโดยตรงต่อตลาดคอนโดมิเนียมในไทยอย่างมีนัยสำคัญ โดยกำลังซื้ออสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมของลูกค้าจีนที่จะกลับเข้ามาเป็นกลุ่มแรกๆ คือกลุ่มที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัย (Real Demand) ซึ่งมีกำลังซื้อโครงการระดับราคาระหว่าง 5-7.5 ล้านบาท โดยยังคงความสนใจโครงการบน 5 ทำเลศักยภาพ อาทิ รัชดาภิเษก, พระราม9, สุทธิสาร, สีลม, และสาธร (รวมถนนตากสิน-บางหว้า) รวมถึงโครงการในจังหวัดท่องเที่ยวที่เป็นเป้าหมายการเดินทางของจีนคือเชียงใหม่ และพัทยา
พร้อมกันนี้คาดการณ์ การกลับเข้ามาซื้อโครงการคอนโดมิเนียมในไทยเพื่อการลงทุนของกลุ่มนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์จีนในไทย จะกลับเข้ามาอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า เนื่องจากตลอดช่วงระยะเวลาที่จีนปิดประเทศ กลุ่มนักลงทุนเหล่านั้นไม่สามารถเดินทางเข้ามาดูแลการปล่อยเช่าของตัวแทน หรือผู้ดูแลผลประโยชน์ให้ได้ จึงได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนไม่ตรงตามข้อตกลง
“กลุ่มคนจีนที่มีรายได้ระดับปานกลางต้องการเข้ามาซื้อที่อยู่อาศัยในไทยเป็นจำนวนมาก แต่เนื่องจากการเดินทางยังไม่สะดวก ตั๋วเดินทางราคาสูงยังเข้ามาไม่มาก แต่ที่จะเข้าไทยเป็นจำนวนมากชุดแรกๆ คือ กลุ่มนักท่องเที่ยว ส่วนผู้ซื้อที่อยู่อาศัยคาดว่าจะเดินทางเข้ามาดู ห้องของตนเองเพิ่มมากขึ้นช่วงครึ่งหลังของปีนี้เป็นต้นไป”
ดังนั้นปี 2566 นี้ ARE จึงตั้งเป้ายอดขายคอนโดมิเนียมที่ราว 2,000 ยูนิต โดยตั้งเป้ายอดขาย ทั้งปี 7,000 ล้านบาท โดยมียอดโอนกรรมสิทธิโครงการ ไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีโครงการคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิในมือแล้ว 1,000 ห้องทั้งในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ต โดยเป็นโครงการของบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
“ARE มีหลักเกณฑ์คัดเลือกผู้พัฒนาโครงการที่เข้มงวดทั้งประวัติเจ้าของบริษัท ฐานะการเงิน ถ้าออกหุ้นกู้เป็นจำนวนมากก็ต้องตั้งข้อสังเกตไว้หน่อย การได้มาซึ่งโฉนดที่ดิน ดังนั้นการติดต่อธุรกิจกับบริษัทขนาดใหญ่ ในตลาดหลักทรัพย์ จึงเป็นการลดความเสี่ยงทางธุรกิจได้ระดับหนึ่ง อีกทั้งยังสามารถดำเนินธุรกิจร่วมกันทั้งการจอง การโอนกรรมสิทธิ์ได้อย่างคล่องตัว”
SIRI ลุยคอนโด 2 หมื่นล้านบ.
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงาน ปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า ปี 2566 นี้ SIRI วางแผนกลับมาพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมเพื่อรองรับความต้องการของ ลูกค้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ทั้งสิ้น 22 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท โดยคาดการณ์ยอดขาย ลูกค้าต่างประเทศกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท จากฐานลูกค้าที่ครอบคลุมทั้งจีน, ฮ่องกง, สิงคโปร์, กลุ่มประเทศ CLMV และรัสเซีย พร้อมกันนี้ยังมีแผนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมบนทำเลศักยภาพทั้งที่พัทยา, เชียงใหม่, และภูเก็ต อีกด้วย
“ช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมาบริษัทสามารถระบายสต๊อกโครงการคอนโดมิเนียม ออกไปได้อย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นในปีนี้จึงเป็นช่วงเหมาะสม ที่บริษัทจะกลับมารุกเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมบนทำเลศักยภาพโดยเฉพาะทำเลตามแนวรถไฟฟ้า และใจกลางเมือง รวมถึงในจังหวัดท่องเที่ยวที่มีศักยภาพการขยายตัวของเศรษฐกิจสูง รองรับความต้องการของกลุ่มนักศึกษา, คนทำงาน, รวมถึงชาวต่างชาติ ที่ต้องการที่อยู่อาศัยในไทยที่เริ่มทยอยเพิ่มขึ้น และคาดว่า จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า”
แนะ “ซื้อ” เป้า 2.11 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ มีมุมมองเชิงบวกต่อภาพรวมกำไรทั้งปี 2566 ของ SIRI จากการเปิดตัวโครงการใหม่รวม 52 โครงการมูลค่า 7.5 หมื่นล้านบาท และ Backlog รอ โอนที่มีมูลค่ารวมสูงถึง 1.58 หมื่นล้านบาท โดยสถานะ แบรนด์ SIRI ที่แข็งแกร่งในตลาดเป็นจุดเด่นสำคัญที่จะ ดึงดูดลูกค้าจีนที่กำลังกลับเข้ามาในอุตสาหกรรมอสังหาไทย SIRI จึงตั้งเป้ายอดขายต่างชาติที่ 1.2 หมื่นล้านบาท เบื้องต้นประมาณการรายได้รวมทั้งปี 2566 ของ SIRI ที่ 34,642 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% YoY และกำไรสุทธิ ที่ 4,359 เพิ่มขึ้น 9% YoY พร้อมคาดการณ์อัตราการจ่ายเงินปันผลทั้งปี 2566 ที่ 7.1%
ที่มา: หนังสือพิมพ์ทันหุ้น