คอนโดหรู ทองหล่อระอุแห่จ่อเปิดตัว10โครงการ
คอนโดซูเปอร์ลักชัวรี ย่านทองหล่อ-เอกมัยเดือด โครงการ ไฮด์ เฮอริเทจ ผุดโปรฯ ซื้อคอนโดแจกรถยนต์ไฟฟ้า เทสลา โมเดล 3 ขณะดีเวลลอปเปอร์ แห่จ่อคิวเปิดตัว 10 โครงการ กว่า 3,000 ยูนิต มูลค่ากว่า 4 หมื่นล้านบาท รอบบีทีเอสทองหล่อ-เอกมัย ลุ้นหลังโควิดกำลังซื้อจีน ฟื้นตลาด
นายภัทรชัย ทวีวงศ์ รองผู้อำนวยการแผนกวิจัย บริษัทคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า แม้ตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯจะชะลอตัว ทั้งในส่วนของการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง (เรียลดีมานด์) และในส่วนของนักลงทุน รวมถึง กำลังซื้อจากต่างชาติ แต่ผู้ประกอบการยังคงมองหาที่ดินในพื้นที่กรุงเทพฯชั้นใน เพื่อนำมาพัฒนาโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง
ประเมินจากภาพรวมตลาดคอนโด ซูเปอร์ลักชัวรี ระดับราคาขายเฉลี่ยมากกว่า 250,000 บาทต่อตารางเมตร (ตร.ม.) ในไตรมาสที่ 1 ปี2563 มีการกระจายตัวอยู่ในโครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างการขายทั่วกรุงเทพฯ 35 โครงการ จำนวน 6,027 ยูนิต มูลค่า 163, 370 ล้านบาท ซึ่งขายไปแล้ว 4,050 ยูนิต คิดเป็น 67% ของอุปทานที่อยู่ระหว่างการขายทั้งหมด เหลือขาย 1,977 ยูนิต คิดเป็น 33% โดย ส่วนใหญ่มีการพัฒนาอยู่ในย่านศูนย์กลางธุรกิจ ทำเลสุขุมวิท ชิดลม ราชดำริ หลังสวน สีลม สาทร และริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเน้นการพัฒนาห้องพักขนาดใหญ่
จากอุปทานที่อยู่ระหว่างการขายทั้งหมด 35 โครงการ ประมาณ 6,027 ยูนิต ยังพบว่า พัฒนาเป็นประเภท 1 ห้องนอน มากที่สุดจำนวน 2,581 ยูนิต หรือคิดเป็น 42.8% รองลงมาเป็นประเภท 2 ห้องนอน 2,509 ยูนิต หรือคิดเป็น 41.6% และรูปแบบ 3 ห้องนอนขึ้นไปที่ประมาณ 901 ยูนิต หรือประมาณ 14.9%
ทั้งนี้ การสำรวจพบว่า รูปแบบสตูดิโอเป็นประเภทห้องมีอัตราการขายที่สูงที่สุด 77.7% เนื่องจากอุปทานที่อยู่ระหว่างการขายทั้งหมดเพียงแค่ 36 ยูนิตเท่านั้น รองลงมา คือ ประเภท 2 ห้องนอน พบว่าขายไปแล้วประมาณ 1,750 ยูนิต หรือคิดเป็น 69.7% จากอุปทานทั้งหมด 2,509 ยูนิต และประเภท 3 ห้องนอนขึ้นไป ที่สามารถขายไปแล้วประมาณ 1,676 ยูนิต หรือคิดเป็น 66.1%
นายภัทรชัย กล่าวว่า ทำเลย่านทองหล่อเอกมัย ถือว่าเป็นทำเลที่ดี (Prime location) แห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ พบว่า ช่วงครึ่งแรกของปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการหลายรายสามารถปิดการขายได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ โครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จที่นำมาจัด โปรโมชันส่วนลดราคาพิเศษ
ในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 ทำเล ย่านทองหล่อ-เอกมัย ยังคงเป็นทำเลที่มี การแข่งขันอย่างต่อเนื่อง พบว่าผู้ประกอบการ รายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และผู้ประกอบการรายใหม่ๆ ยังคงเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ในทำเลย่านดังกล่าว เพื่อรองรับความต้องการทั้งกลุ่มนักลงทุนชาวไทยและต่างชาติ โดยมีอุปทานเปิดใหม่ในพื้นที่ 7 โครงการจำนวน 1,556 ยูนิต แต่พบว่า ยอดขายส่วนใหญ่ของโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในพื้นที่ย่านทองหล่อ-เอกมัย ในช่วงปี 2562 ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่สามารถปิดการขายได้ไม่ถึง 45% ของยูนิตทั้งหมดในโครงการ ซึ่งเป็นสิ่งที่ ค่อนข้างสร้างความกังวลใจให้กับผู้ประกอบการ เป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ ยังพบว่า พื้นที่โดยรอบ BTS สถานีทองหล่อ-เอกมัย จะยังคงเป็นทำเล ที่ผู้ประกอบการหลายรายต่างพากันจับจองที่ดินเพื่อรอการเปิดตัวโครงการใหม่บนทำเลนี้ ในเวลาที่เหมาะสมอีกกว่า 10 โครงการ จำนวน 3,000 ยูนิต มูลค่าการลงทุนกว่า 40,000 ล้านบาท อาทิ โครงการสโคป ทองหล่อ ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนระหว่าง บจ. สโคป และบมจ. เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น คอนโดมิเนียมหรู 30 ชั้น จำนวน 101 ยูนิต มูลค่า 2,400 ล้านบาท โครงการจากออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ที่เตรียมพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมไฮไรส์ 2 โครงการ โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ 1โครงการ ค่ายอนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ เตรียมเปิดตัวโครงการ Ideo Q ทองหล่อ 1 โครงการ สุขุมวิท 38 , แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ 1 โครงการภายใต้ แบรนด์ไคลน์ ทองหล่อ เป็น คอนคอนโดมิเนียมสูงประมาณ 52 ชั้น 466 ยูนิต, ไรมอน แลนด์โครงการใหม่บริเวณสุขุมวิท38 ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมเกือบ 10,000 ล้านบาท อีก 1 โครงการเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ ยังมีคอนโดมิเนียมจากแลนด์แอนด์เฮ้าส์ บริเวณซอยสุขุมวิท 59 และ เอเบิ้ล แอสเสท กรุ๊ปเตรียมเปิดตัวคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ เดอะ รีมาร์คเอเบิ้ล ทองหล่อ 13 อีก 1 โครงการ ซึ่งจะ ส่งผลให้บริเวณ BTS สถานีทองหล่อ-เอกมัยจะยังคงเป็นทำเลที่คึกคักอย่างต่อเนื่อง
“ผู้ประกอบการ ต้องควระมัดระวังในเรื่องของการกำหนดราคาของโครงการเป็นอย่างมากในภาวะที่ตลาดชะลอตัว เช่นปัจจุบันนี้หากราคาเสนอขายที่สูงเกินไป อาจส่งผลให้โครงการไม่ได้รับความสนใจอย่างที่คาดหวังไว้ ขณะเดียวกันก็ต้องมีโปรโมชันที่ดึงดูดใจ”
นายภัทรชัย กล่าวว่า จากความสำเร็จในการควบคุมสถานการณ์การระบาดของ โควิด-19 ของประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมาส่งผลให้หลายประเทศมองว่า ประเทศไทยจะเป็นบ้านหลังที่สองที่ปลอดภัยโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าจีนได้เข้ามาเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของตลาดคอนโดมิเนียมในประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมา คาดว่าหลังโควิด-19 กำลังซื้อต่างชาติอาจกลับมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คอนโดระดับ ซูเปอร์ลักซ์ชัวรี “ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ” ที่เป็นโครงการร่วมทุนญี่ปุ่นซูมิโตโม ฟอเรสทรี บริษัทชั้นนำในธุรกิจป่าไม้ และรับสร้างบ้าน ของญี่ปุ่น แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ พร็อพเพอร์ตี้ และบริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) ที่มูลค่าลงทุนกว่า 6,000 ล้านบาท ล่าสุดได้ทำโปรโมชั่น ซื้อคอนโดมิเนียมสามารถเป็นเจ้าของ รถยนต์ไฟฟ้า TESLA Model 3 ฟรี พร้อมการันตีดูแลสูงสุด ถึง 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร ออกมาจูงใจกลุ่มลูกค้า สำหรับโครงการนี้จะมีกำหนดสร้างเสร็จ ปลายไตรมาส 2 ปี 2565 ส่วนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 9.6 ล้านบาท
ผู้ประกอบการ ต้องควระมัดระวังในเรื่องของการกำหนดราคา ของโครงการในภาวะที่ตลาดชะลอตัว หากราคาเสนอขายสูงเกินไป อาจส่งผลให้โครงการไม่ได้รับความสนใจอย่างที่คาดไว้
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ