กลุ่มรร.แม่น้ำฯทุ่ม2.2พันล. ผุดคอนโดมิกซ์ยูส ศาลายา วัน
กลุ่มโรงแรมแม่น้ำเรสซิเดนท์ บุกตลาดอสังหาฯ ผุดมิกซ์ยูส ล่าสุดเปิดตัว “ศาลายา วัน เรสซิเดนท์” คอนโดพรีเมียม มูลค่า 2,200 ล้านบาท เจาะกลุ่มนักศึกษา-นักลงทุน ย่านศาลายา ใกล้ม.มหิดล ชูจุดขาย “ยืนหนึ่งย่านศาลายา” เต็มอิ่มกับเอ็กซ์คลูซีฟไลฟ์สไตล์ ด้วยส่วนกลางใหญ่ 2.6 ไร่ ที่มาพร้อมกับ 48 กิจกรรม และ Co-living space กว่า 980 ตร.ม. ในราคาเพียง 2.5-5 ล้านบาท
นายเดชโรจน์ ตั้งสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มีนำ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ทายาทกลุ่มโรงแรมแม่น้ำ กล่าวว่า ได้เปิดตัวโครงการ “ศาลายา วัน เรสซิเดนท์” คอนโดมิเนียมระดับพรีเมียม ที่อยู่ในมิกซ์ยูส โปรเจกต์ ในย่านศาลายา ใกล้ ม.มหิดล ภายใต้แนวคิด “ยืนหนึ่งย่านศาลายา” มูลค่ารวม 2,200 ล้านบาท บนทำเลศักยภาพในย่านศาลายา ปากซอยตั้งสิน ใกล้ ม.มหิดล โดยพัฒนาในรูปแบบคอนโด3 อาคาร สูง 8 ชั้น จำนวน 471 ยูนิต และยังมีอีก 2 อาคารในส่วนของมิกซ์ยูส จะดำเนินการในส่วนของโรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ หอหญิง และไลฟ์สไตล์มอลล์ ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะสร้างความแตกต่างและปลุกกระแสตลาดอสังหาฯ ให้พื้นที่กลับมาคึกคัก โดยบริษัทฯ จะผลักดันให้โครงการเป็นไอคอนิค (Iconic) ศูนย์กลางที่อยู่อาศัยและไลฟ์สไตล์แห่งใหม่ของทำเลตะวันตก
ทั้งนี้ “ศาลายา วัน เรสซิเดนท์” มีแนวคิดการพัฒนาโครงการโดยมุ่งตอบโจทย์ผู้พักอาศัยในทุกกลุ่ม โดยเน้นไปที่กลุ่มนักศึกษา (Campus Condo) ทั้งในแง่ความพิถีพิถันด้านงานออกแบบและคำนึงถึงฟังก์ชันที่ตอบโจทย์อย่างครบครัน ภายใต้จุดขาย “ยืนหนึ่งย่าน ศาลายา” ครอบคลุมทุกด้าน อาทิ “ยืนหนึ่ง” ด้านห้องพักขนาดใหญ่อยู่สบาย ฟังก์ชันครบจบทุกความต้องการมีห้องพักให้เลือกหลากหลาย ได้แก่ ห้องขนาด 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 31.5-33 ตร.ม., ห้อง 1 Bed Exclusive ขนาด 34.90 ตร.ม., ห้อง 1 Bed Exclusive -Corner ขนาด 36-40 ตร.ม., ห้อง 1 Bed Plus ขนาด 42-46 ตร.ม. และห้อง 2 Bedroom ขนาด 75 ตร.ม. มีที่จอดรถทั้งหมด 142 คัน หรือ คิดเป็น 30% (รวมซ้อนคัน) ในราคาเพียง 2.5-5 ล้านบาท หรือ เฉลี่ยประมาณ 80,000 บาทต่อ ตร.ม. นับเป็นราคาที่สามารถเอื้อมถึง
“ศาลายา วัน เรสซิเดนท์” ยืนหนึ่งด้วยเอ็กซ์คลูซีฟไลฟ์สไตล์ ส่วนกลางใหญ่ที่สุดในย่านศาลายากว่า 2.6 ไร่ มาพร้อมกับ 48 กิจกรรม ที่ตอบโจทย์ของกลุ่มนักศึกษาและ ผู้อยู่อาศัยอย่างครบครัน และ Coliving space กว่า 980 ตร.ม.”
ทั้งนี้ การพัฒนาโครงการ บริษัทฯ ได้ทำการศึกษาทำเล วิเคราะห์พฤติกรรมของผู้อยู่ และความต้องการของกลุ่มเป้าหมายอย่างเจาะลึก ร่วมกับ “ไนท์แฟรงค์” ที่ปรึกษาบริหารงานขายฯ ซึ่งมั่นใจว่าจุดขายของโครงการจะแตกต่างจากทุกโครงการในทำเลนี้ ทั้งการพัฒนาในรูปแบบอาคารสีเขียวโดยความร่วมมือกับ CPAC การเพิ่มระบบความปลอดภัยและให้ความเป็นส่วนตัวสูงสุด ขณะที่ความ โดดเด่นของคอนโดพรีเมียม คือ ทำให้ชั้น 8 เป็น Strong Point สามารถเดินเพียง 1 ชั้น ถึง “สวนลอยฟ้า” ซึ่งเป็นส่วนกลางไฮไลต์พรีเมียมโปรดักต์ ที่แตกต่างและพรีเมียมมากกว่า “ยืนหนึ่ง” ที่สุดในทำเล ทั้งนี้ โครงการคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมเข้าอยู่ในปี 66 นี้
นายณัฎฐา คหาปนะ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบัน ตลาดอสังหาฯ ปล่อยเช่าคอนโดในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตามแนวรถไฟฟ้า หรือ ประเภทแคมปัสคอนโดใกล้มหาวิทยาลัย ส่วนใหญ่จะได้ผลตอบแทนจากราคาค่าเช่า หรือ Gross Rental Yield อยู่ที่ 3-4% หากได้สูงกว่า 4% ขึ้นไป ถือว่ามีความคุ้มค่าน่าลงทุน และปัจจัยที่ต้องพิจารณาถัดมา คือ Capital Gain ซึ่งปัจจัยสำคัญที่จะทำให้โครงการมีมูลค่าสูงขึ้นนอกจากค่าที่ดินที่มีมูลค่าปรับขึ้นทุกปีก็คือการดูแลรักษาโครงการที่ดี โดยโครงการ มิกส์ยูส หรือ โรงแรม จะได้เปรียบในข้อนี้ เพราะเป็นโครงการที่ให้ความสำคัญกับการบำรุงรักษาสภาพแวดล้อมให้ดีอยู่เสมอ และอีกปัจจัยสำคัญคือทำเลที่ตั้งของโครงการ หากเป็นทำเลแห่งอนาคตที่มีปัจจัยสนับสนุนให้พื้นที่เติบโตขึ้น โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้า จะผลักดันให้ราคาคอนโดในอนาคตพุ่งสูงขึ้น สำหรับผลสำรวจเจาะลึกอสังหาฯ ปล่อยเช่าคอนโดในย่านศาลายา โดยเฉพาะบริเวณโดยรอบ ม.มหิดล พบว่ามีอัตราการเช่าอพาร์ตเมนต์สูงถึง 89% มีราคาค่าเช่าสำหรับอพาร์ตเมนต์ทั่วไปเฉลี่ย 3,000-7,500 บาทต่อเดือน และอพาร์ต เมนต์เกรดสูงขึ้นมามีราคาค่าเช่า อยู่ที่ 10,000-15,000 บาทต่อเดือน
สำหรับผู้ปกครองของนักศึกษา ม.มหิดล ที่มีความพร้อมและเห็นโอกาสการลงทุน เมื่อเทียบกับค่าเช่าระยะเวลา 4-6 ปี ค่าเช่าเดือนละ 12,000 บาท เทียบกับ คอนโดฯ ใหม่ ราคาประมาณ 2.55 ล้านบาท จะคิดเป็นประมาณ 22% ของราคาซื้อขาดแล้ว ดังนั้น มองว่า “การซื้อ” ถือว่าคุ้มค่ามากกว่า เพราะได้ใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่าในระหว่างเรียน และหลังเรียนจบก็ยังสามารถปล่อยเช่า หรือ ขายต่อได้ในราคาที่ดี
ที่มา: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา