TPOLYชิงงานเติมแบ็กล็อก บิ๊กโปรเจ็กต์รัฐ-เอกชนหนุน
TPOLY มองอุตสาหกรรมปี 2566 การแข่งขันยังมีความรุนแรง เดินหน้ายื่นซองประมูลงานใหม่ในไตรมาสแรกปีนี้แล้วกว่า 1.6 พันล้านบาท คาดหวังได้งานใหม่เติมพอร์ตไม่ต่ำกว่า 50% คาดปลายเดือนมกราคม 2566 มีข่าวดี แย้มยัง มีแบ็กล็อกในมืออีกกว่า 2.5 พันล้านบาท คาดรับรู้เป็นรายได้ปีนี้ 70-80%
นายปฐมพล สาวทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยโพลีคอนส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPOLY ผู้รับเหมา ก่อสร้าง ครอบคลุมถึงงานวิศวกรรมโยธา และงานติดตั้งงานระบบวิศวกรรมต่างๆ ชั้นนำ เปิดเผยว่า บริษัทประเมินภาพรวมอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างในปี 2566 มองว่ายังคงมีการแข่งขันที่ค่อนข้างรุนแรงอยู่ แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมางานโครงการลงทุนต่างๆ ทั้งจากภาครัฐและเอกชนจะมีทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง
แบ็กล็อกแน่น
โดยยังมีหลายปัจจัยที่มีผลกระทบ ต่ออุตสาหกรรมในปี 2566 มีทั้งในเรื่องของต้นทุนวัสดุก่อสร้าง เช่น ซีเมนต์ และโดยเฉพาะเหล็กที่ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง แม้ว่านับตั้งแต่ปลายปี 2565 จะปรับตัวลดลงมากบ้างแล้ว แต่ก็ยังถือว่าสูงกว่าเมื่อเทียบกับปี 2564 ดังนั้นจึงมีผลกระทบต่ออัตราการทำกำไรอยู่ ในขณะที่ต้นทุนแรงงานนั้น บริษัทมองว่ามีผลกระทบน้อยมากเพราะปกติให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าอยู่แล้ว
ทั้งนี้ บริษัทยังมีงานในมือที่รอการทยอยส่งมอบ (Backlog) รวม อีกกว่า 2,400-2,500 ล้านบาท เบื้องต้น คาดว่าจะทยอยรับรู้เป็นรายได้เข้ามาในปี 2566 ประมาณ 70-80% ในส่วนที่เหลือคาดว่าจะรับรู้ทั้งหมดในปี 2567 นอกจากนี้ บริษัทยังคงมีความสนใจและมองหาโอกาสในการเข้าร่วมเสนอราคางานโครงการใหม่ๆ ทั้งจากภาครัฐและเอกชน เพิ่มเติมอย่าง ต่อเนื่อง คาดว่าภายในปีนี้จะได้เห็นการรับสัญญางานใหม่ๆ เข้ามาเรื่อยๆ
ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้มีการยื่นเสนอประกวดราคาในงานโครงการต่างๆ ไปมูลค่ารวมมากกว่า 7,300 ล้านบาทแล้ว ซึ่งเป็นกำหนดงานในช่วงไตรมาส 1/2566 มูลค่าประมาณ 1,600 ล้านบาท เบื้องต้นบริษัทคาดหวัง ว่าจะมีโอกาสได้รับงานใหม่มาเติมพอร์ต เพิ่มไม่น้อยกว่า 50% ของมูลค่างานที่เสนอไป อย่างไรก็ดี คาดว่าในช่วงปลายเดือนมกราคม 2566 จะได้เห็นอะไรใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติม
ขายที่ดินในมือ
ขณะที่ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ นั้น ในปี 2566 ยังไม่มีแผนที่จะพัฒนา โครงการใหม่ เนื่องจากใช้ต้นทุนที่ค่อนข้างสูง พร้อมกันนี้บริษัทยังมีแผนที่จะจำหน่ายที่ดินคงเหลือที่มีอยู่ในมืออีกด้วย
สำหรับความคืบหน้าในการรับงานโครงการเกี่ยวเนื่องกับชลประทาน บริษัทมองว่าในปี 2566 อาจยังไม่มีความชัดเจนเพิ่มเติม เนื่องจากกระบวนการใหม่จำเป็นต้นขึ้นทะเบียนผู้รับเหมาก่อสร้างกับทางกรมบัญชีกลาง ดังนั้นการเตรียมเอกสารจึงต้องเริ่มต้นใหม่
“เรามองว่าอุตสาหกรรมปี 2566 ยังคงเป็นความท้าทาย แม้ว่าการลงทุนโครงการใหม่จะเกิดเพิ่มขึ้น แต่ด้วยการแข่งขันที่ยังคงรุนแรง ทำให้งานที่ได้มามาร์จิ้นก็ไม่สูงมาก อีกทั้งด้วยต้นทุนวัสดุหลักที่ยังทรงตัวในระดับสูง แม้ลดลงกว่าปีก่อน แต่ก็สูงกว่าเมื่อเทียบกับปี 2564 อย่างไรก็ดี แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2566 มองว่าจะปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ในเรื่องของบรรทัดล่างอาจต้องใช้เวลา แต่ปีนี้ จะขาดทุนลดลงแน่” นายปฐมพล กล่าว
ที่มา: หนังสือพิมพ์ทันหุ้น
