ORI ร่วมทุน PSH จ่อเปิดขายปี68 นำระบบพรีคาสต์มาใช้ก่อสร้าง ดันมาร์จิ้นเพิ่มขึ้น
ORI เตรียมพัฒนาและเริ่มเปิดขายโครงการร่วมทุนกับ PSH 3 โครงการ มูลค่ารวม 8,700 ล้านบาท ในปี 68 โดย PSH จะนำระบบพรีคาสต์ เทคโนโลยีการก่อสร้าง และบริหารการควบคุมงานก่อสร้างเข้ามาใช้ ส่วน ORI จะรับหน้าที่บริหารการขาย การตลาด และบริการหลังการขายในโครงการ หนุนมาร์จิ้นและต้นทุนโครงการร่วมทุนดีขึ้น
นายปิติพงษ์ ไตรนุรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยผ่าน “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” ว่า ความร่วมมือระหว่าง ORI กับบริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH เริ่มจากการปรึกษาหารือกัน โดยมองถึงจุดแข็งของแต่ละฝ่าย จึงนำมาซึ่งการร่วมทุนใน 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 8,700 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการมิกซ์ยูส ประกอบด้วย โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์และศูนย์บริการด้านสุขภาพ ทำเลสุขุมวิท เป็นที่ดินของ PSH 2.โครงการคอนโดมิเนียมระดับพรีเมียม ย่านพหลโยธิน เป็นที่ดินของ PSH และ 3.โครงการบ้านเดี่ยวระดับพรีเมียม ย่านเพชรเกษม เป็นที่ดินของ ORI โดยโครงการทั้งหมด จะเริ่มพัฒนาและจะเริ่มเปิดขายโครงการในปี 2568
ทั้งนี้ PSH มีจุดแข็งทางด้านการกระจายสินค้า ด้านสุขภาพ (Wellness) รวมถึงมีความแข็งแกร่งทางด้านความก่อสร้าง โดยมีโรงงานผลิตแผ่นพรีคาสต์ และมีความชำนาญในการควบคุมต้นทุนต่าง ๆ ในการก่อสร้าง ขณะที่ ORI มีโครงการคอนโดมิเนียมที่เป็นจุดแข็งแข็งของบริษัท มีโรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์และรีเทล ทั้งนี้ ORI ค่อนข้างจะมุ่งมั่นที่จะพัฒนาโครงการในกลุ่มที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ด้วย
ดังนั้น จึงมองว่าการร่วมทุนในครั้งนี้ จะทำให้เกิดโปรดักส์ใหม่ ๆ รวมถึงการพัฒนาโครงการในรูปแบบใหม่ โดยอาจจะมีการนำเอาโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์มาผนวกเข้ากับ Wellness ที่ PSH มีโรงพยาบาลวิมุตอยู่แล้ว ซึ่งอาจจะเกิดเป็น Wellness Hotel ขึ้นมาในอนาคต รวมถึงการจะนำเอาบริการในรูปแบบโรงแรมที่ ORI มีอยู่มาซัพพอร์ตใช้ในโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านแนวราบร่วมกัน โดยทั้ง 3 โครงการร่วมทุนดังกล่าว จะเป็นโครงการเริ่มต้นของการร่วมทุนของทั้ง ORI และ PSH ซึ่งในอนาคตบริษัทมองว่าจะมีโครงการอื่น ๆ รวมถึงความร่วมมือในธุรกิจอื่น ๆ ของทั้ง 2 บริษัท ที่มีการคุยกันอย่างต่อเนื่องต่อไป
“ความร่วมมือครั้งนี้ เราจะนำระบบพรีคาสต์ และเทคโนโลยีการก่อสร้าง รวมถึงบริหารการควบคุมงานก่อสร้างของ PSH เข้ามาใช้ ส่วน ORI จะทำในเรื่องของบริหารการขาย การตลาด และบริการหลังการขายในโครงการ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าได้รับสิ่งที่ดีที่สุดและมีคุณภาพมากที่สุด จากทั้ง 2 บริษัทที่ทำงานร่วมกัน และการร่วมกันในครั้งนี้ จะทำให้มาร์จิ้นและต้นทุนของโครงการร่วมทุนดีขึ้นด้วย รวมถึงการบริการลูกค้าของโครงการร่วมทุนนี้ก็จะดีขึ้นด้วยเช่นกัน” นายปิติพงษ์ กล่าว
นายปิติพงษ์ กล่าวถึงบริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด (มหาชน) หรือ ONEO ที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ นั้นว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงระหว่างการปิดงบการเงินผลการดำเนินงานปี 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทมีการพัฒนาและปรับปรุงการดำเนินงานในธุรกิจโรงแรม เพื่อจะได้เข้าสู่เป้าหมายในการเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ในอนาคต โดยการร่วมมือกับ PSH ในครั้งนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้บริษัทมีโครงการในมือเพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่มีโรงแรมในพอร์ตรวมจำนวน 40 โครงการ โครงการร่วมทุนจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้โครงการในพอร์ตของ ONEO เพิ่มมากขึ้นด้วย
ส่วนบริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI ซึ่งเป็นให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์แก่กลุ่มลูกค้าอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มลูกค้าที่เกี่ยวเนื่องแบบครบวงจร (One Stop Service) ในเครือ ORI จะเข้ามาช่วยในเรื่องของ Upsell Service (เพิ่มปริมาณยอดขาย) ในโครงการร่วมทุนครั้งนี้ด้วย
ที่มา: ข่าวหุ้น