DHOUSE ปลุกผลงานฟื้นตุนที่ดินรอพัฒนา500ล.
DHOUSE เร่งเครื่องดันผลงานฟื้น เตรียมเปิดตัว UPark โครงการใหม่ ไตรมาส 3/2565 มูลค่า 608 ล้านบาท ตั้งเป้ารายได้โต 20% กำที่ดินพร้อมพัฒนา 5 แปลง มูลค่า 500 ล้านบาท เปิดกระเป๋ารับทรัพย์ธุรกิจรีเทลเต็มปี ส่องทิศทางอสังหา มหาสารคามโตต่อ
นายพงศ์พจน์ เลิศรุ้งพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ดีเฮ้าส์พัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ DHOUSE ผู้นำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดมหาสารคาม ประเภทที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์เพื่อขายหลากหลายรูปแบบ อาทิ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ และอาคารพาณิชย์ เปิดเผยว่า บริษัทจะผลักดันผลประกอบการปี 2565 ให้กลับมาเป็นบวก จากปีก่อนที่ขาดทุน 6.83 ล้านบาท จากการทยอยรับรู้รายได้การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย และเร่งก่อสร้างโครงการใหม่ เพื่อเพิ่มรายได้ให้เติบโตขึ้น
รอบุ๊กยอดโอน
โดยสิ้นปี 2564 บริษัทมียอดรอโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) อยู่ที่ 20.20 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการเดอะแรนด์ คาแนล ยอดจองกรรมสิทธิ์ 5 ยูนิต มูลค่า 10.64 ล้านบาท และโครงการพฤกภิรมย์ ศาลากลาง ยอดจองกรรมสิทธิ์ 3 ยูนิต มูลค่า 9.56 ล้านบาท
ส่วนไตรมาส 3/2565 บริษัทมีแผนจะเปิดโครงการใหม่ ประเภท Mixed-Use พื้นที่ใกล้มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ภายใต้โครงการ UPark มูลค่าราว 608 ล้านบาท รวมถึงธุรกิจรีเทล ร้านค้าปลีก ปั๊มน้ำมัน และร้านอาหาร บนเนื้อที่ 12 ไร่ 3 งาน 52 ตารางวา ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ สถานีบริการน้ำมัน และร้านค้าปลีก ภายใต้แบรนด์ ปตท. และโครงการ UPark Street อาคาร Street Food ขนาด 1,990 ตารางเมตร ประกอบด้วย ร้านขายอาหาร 86 ร้าน และลานโล่งสำหรับวางเต็นท์ ขายสินค้า ขนาด 7,010 ตารางเมตร ประกอบด้วย ร้านอาหาร 26 ร้าน และ ร้านค้า 132 ร้าน
ฉายภาพธุรกิจรีเทล
ทั้งนี้บริษัทประเมินภาพรวมธุรกิจรีเทล ร้านค้าปลีก ปั๊มน้ำมัน และร้านอาหารในอนาคตจะสนับสนุนให้บริษัทมีกำไรเฉลี่ยต่อปีประมาณ 6 ล้านบาท และจะหนุนให้บริษัทมีกระแสเงินสดเข้ามาในระยะยาว ทั้งนี้บริษัทประเมินการพัฒนาโครงการ Mixed-Use พื้นที่ใกล้มหาวิทยาลัยมหาสารคาม สามารถพัฒนาโครงการได้ถึงระดับ 2-3 พันล้านบาท แต่ต้องใช้เวลาในการพัฒนา
ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีที่ดินพร้อมพัฒนาโครงการทั้งสิ้น 5 แปลง มูลค่าที่ดิน 500 ล้านบาท และเป็นพื้นที่ที่สามารถพัฒนาโครงการได้ทันที ทั้งนี้บริษัทยังเป็นผู้นำในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดมหาสารคาม เพราะบริษัทเป็นผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการ และการจัดหาที่ดินที่เหมาะสม
ดันรายได้โต 20%
สำหรับรายได้ปี 2565 บริษัทตั้งเป้าเติบโต 20% จากปี 2564 ที่ 62 ล้านบาท โดยการเติบโตจะมาจากการรับรู้รายได้จากโครงการที่รอโอน และโครงการใหม่ที่เตรียมเปิดตัวในปีนี้ อีกทั้งบริษัทจะรับรู้รายได้จากธุรกิจรีเทลเข้ามาเต็มปี ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของบริษัทให้เพิ่มขึ้น
นายพงศ์พจน์ กล่าวต่อว่า บริษัทประเมินทิศทางอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดมหาสารคามระยะสั้นจะยังทรงตัว เพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 และเศรษฐกิจที่ไม่ฟื้นตัว แต่คาดว่าระยะยาวอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดมหาสารคามจะเติบโตไปได้ เนื่องจากจำนวนประชากรและผู้อยู่อาศัยในจังหวัดดังกล่าวมีเพิ่มขึ้นตลอดทุกปี เพราะเป็นสถานศึกษา
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
