ASW กำไรไตรมาสแรกพุ่ง25% Q2โอนคอนโดกว่า4.1พันล้าน
ASW ฟอร์มดี! ไตรมาส 1/66 โชว์กำไรสุทธิ 282.97 ล้าน เพิ่มขึ้น 25% หลังกวาดรายได้รวม 1,743 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% ส่งซิกไตรมาส 2/66 เตรียมโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมใหม่ 2 โครงการ มูลค่ารวม 4,100 ล้านบาท พร้อมเปิดใหม่ 4 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 6,450 ล้านบาท
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2566 บริษัทมีกำไรสุทธิ 282.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 225.90 ล้านบาท และมีรายได้รวม 1,743 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,270 ล้านบาทโดยยอดรับรู้รายได้จากอสังหาริมทรัพย์หลักมาจากโครงการ โมดิซ ลอนซ์ คอนโดมิเนียม 36 ชั้น ติดรั้วมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต จำนวน 463 ยูนิต โดยมีสัดส่วนรายได้ถึง 51% และโครงการเคฟ เอวา คอนโดมิเนียม 8 ชั้น 5 อาคาร 1,278 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 22% และส่วนที่เหลือมาจากโครงการอื่น ๆ
ขณะเดียวกันในไตรมาส 1/2566 บริษัทยังสามารถทำยอดขายรวม (Presale) ได้สูงถึง 3,495 ล้านบาท เติบโต 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 227% จากไตรมาสก่อน จากการเปิดตัวโครงการใหม่ 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 5,410 ล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการเคฟ เอ็มบริโอ รังสิต มูลค่าโครงการ 780 ล้านบาท2.โครงการเคฟ ทาวน์ ไอส์แลนด์ มูลค่าโครงการ 3,530 ล้านบาท และ 3.โครงการ แอทโมซ ซีซั่น ลาดกระบัง มูลค่าโครงการ 1,100 ล้านบาท ส่งผลให้ปัจจุบันมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) อย่างแข็งแกร่ง มูลค่ารวม 12,538 ล้านบาท
สำหรับแผนงานในไตรมาส 2/2566 บริษัทเตรียมโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมอีก 2 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการ แอทโมซ บางนา และ 2.โครงการ โมดิซ ไรห์ม รามคำแหง มูลค่าโครงการรวมกว่า 4,100 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาส 2/2566 บริษัทได้เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่อีก 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 6,450 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียมทั้งหมด ได้แก่ 1.โครงการเคฟ ป็อป ศาลายา 238 ยูนิต มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท, 2.โครงการ เคฟ โคโค่ บางแสน 974 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท3.โครงการแอทโมซ พาลาซิโอ ลาดพร้าว-วังหิน จำนวน 759 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,750 ล้านบาท และ 4.โครงการ โมดิซ วอลท์ เกษตร ศรีปทุม จำนวน 798 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,200 ล้านบาท
ทั้งนี้ ทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศไตรมาส 2/2566 มีแนวโน้มดีขึ้นตามลำดับ จากความคึกคักของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และการซื้อสินทรัพย์ชิ้นใหญ่ ซึ่งจากแผนธุรกิจดังกล่าว บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 15,000 ล้านบาท และยอดรับรู้รายได้ที่ 7,200 ล้านบาทอย่างแน่นอน
ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น
