ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งานเว็บไซต์ (Terms and Conditions)
วันที่มีผลใช้บังคับ: ฉบับปรับปรุง1 มิถุนายน 2565
ขอต้อนรับผู้เข้าชมและ/หรือผู้ใช้งานเว็บไซต์นี้ (ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “ท่าน”) เข้าสู่เว็บไซต์ “ตลาดนัดบ้านมือสอง” ซึ่งเป็นเว็บไซต์ในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยที่เจ้าของทรัพย์ต้องการประกาศขาย และเป็นแหล่งข้อมูลด้านที่อยู่อาศัยสำหรับผู้ที่ต้องการหาซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจซื้อหรือเช่าที่อยู่อาศัยเท่านั้น ท่านต้องอ่านและทำความเข้าใจข้อตกลงและเงื่อนไขเป็นอย่างดีและโดยละเอียดถี่ถ้วนในการใช้บริการ และ/หรือเข้าทำธุรกรรมบนเว็บไซต์นี้ ดังนั้นท่านจะต้องยอมรับและผูกพันตามข้อตกลงและเงื่อนไขบนเว็บไซต์นี้ด้วย
1. ขอบเขตในการให้บริการ
“ตลาดนัดบ้านมือสอง” ตั้งอยู่บนโดเมน “taladnudbaan.com” ต่อไปนี้จะเรียกว่า “เว็บไซต์นี้” ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นโดยศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ต่อไปนี้จะเรียกว่า “ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์” ซึ่งเว็บไซต์นี้อาจจะมีการเชื่อมต่อกับเว็บไซต์อื่นๆ ของเครือข่ายของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ และเว็บไซต์อื่นๆ ของบุคคลภายนอก (เว็บไซต์อื่นที่ไม่ได้อยู่ในความควบคุมดูแลของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์) โดยเว็บไซต์นี้ได้แสดงข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ที่ได้รับจากเจ้าของทรัพย์และข้อมูลข่าวสาร และเนื้อหาในเว็บไซต์นี้จะประกอบด้วย ข้อมูลประเภทข้อความ/ข้อเขียน แผนที่ รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว ไฟล์วีดีโอ กราฟฟิก และโปรแกรมทางคอมพิวเตอร์ และสิ่งอื่นๆ ที่แสดงอยู่ที่เว็บไซต์นี้ ได้รับความคุ้มครองในด้านลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญาอื่นๆ ของ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เท่านั้น ดังนั้น ห้ามมิให้มีการทำซ้ำ และแก้ไขสิ่งหนึ่งสิ่งใดในเว็บไซต์นี้ หรือนำข้อมูลทั้งหลายในรูปแบบต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นไปเผยแพร่ โดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์
ตราสัญลักษณ์ของเว็บไซต์นี้ เครื่องหมายการค้า และโลโก้ต่างๆ ที่แสดงอยู่บนเว็บไซต์นี้ มีทั้งที่ได้จดทะเบียนและยังไม่ได้จดทะเบียน และเครื่องหมายการค้าของผู้ที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นห้ามใช้ตราสัญลักษณ์ เครื่องหมายการค้า และโลโก้ต่างๆ ที่แสดงอยู่บนเว็บไซต์นี้อย่างเคร่งครัด มิฉะนั้น ท่านจะต้องยอมรับว่าเจ้าของเครื่องหมายการค้าสามารถดำเนินคดีเกี่ยวกับการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาตามกฎหมายอย่างถึงที่สุดได้
2. การเข้าใช้เว็บไซต์
2.1 ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ มีสิทธิในการอนุญาตให้ท่านเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย และมีขอบเขตการจำกัดการเข้าชมและใช้งานเว็บไซต์นี้แบบส่วนบุคคล ตลอดจนขอสงวนสิทธิ์และการอนุญาตใดๆ ก็ตามที่มิได้กล่าวถึงในข้อกำหนดนี้ เนื้อหาและข้อมูลในเว็บไซต์ ซอฟต์แวร์ และโครงสร้างพื้นฐานที่ใช้ในการจัดทำเนื้อหาและข้อมูลดังกล่าว ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์เป็นผู้มีสิทธิตามกฎหมายแต่เพียงผู้เดียว และท่านต้องเป็นไปด้วยความสุจริตและถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น โดยที่ท่านยินยอมที่จะไม่กระทำหรือดำเนินการ และ/หรือใช้ซอฟต์แวร์อัตโนมัติในการดำเนินการดังต่อไปนี้
2.1.1 การนำประกาศใดๆ ที่มิชอบด้วยกฎหมายเข้ามาในเว็บไซต์ หรือผ่านเว็บไซต์ หรือนำประกาศใดๆ ที่สนับสนุนการกระทำที่ผิดกฎหมาย
2.1.2 การใช้เว็บไซต์ หรือนำเนื้อหาในเว็บไซต์ ไปใช้ผิดวัตถุประสงค์และผิดกฎหมาย
2.1.3 การทำการเผยแพร่ในสิ่งที่ท่านไม่มีสิทธิที่จะกระทำภายใต้กฎหมาย หรือความสัมพันธ์ตามสัญญา หรือในการเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์
2.1.4 การทำการเผยแพร่หรือเชื่อมโยงไปยังการเผยแพร่ใดๆ ที่มีเนื้อหาข้อมูลเป็นไปในแนวทางที่เป็นอันตราย หลอกลวง เป็นเท็จ ไม่เหมาะสม ดูหมิ่น หรือต้องห้ามตามกฎหมาย
2.1.5 การใช้เว็บไซต์ไปในทางที่ส่อว่าเป็นการทำลาย ปิดกั้น หรือแทรกแซงการใช้งานเว็บไซต์ หรืออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ของผู้อื่นจนก่อให้เกิดความเสียหาย
2.1.6 ความพยายามที่จะเข้าเว็บไซต์ รวมไปถึงเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องหรือบัญชี ระบบคอมพิวเตอร์ หรือเครือข่ายที่เชื่อมต่อเว็บไซต์ของบุคคลอื่น โดยการเจาะระบบฐานข้อมูล ทำลายรหัสลับส่วนบุคคล หรือดำเนินการด้วยวิธีอื่นใดโดยมิได้รับอนุญาต
2.1.7 การกระทำการคัดตัด การคัดลอก หรือการทำสำเนา หรือสิ่งอื่นใดที่ประกอบเป็นส่วนหนึ่งของเว็บไซต์ไปยังเว็บไซต์อื่น โดยมิได้รับความเห็นชอบและได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์
2.1.8 การนำหรือการพยายามนำเนื้อหาและข้อมูลใดๆ ด้วยวิธีการใดๆ ที่ไม่มีเจตนาให้มีอยู่ในเว็บไซต์นี้ รวมไปถึงการรวบรวมหรือจัดเก็บข้อมูลของลูกค้าเข้าเยี่ยมชมและใช้งาน เจ้าของทรัพย์ที่ลงประกาศทรัพย์ ผู้ลงโฆษณา ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ และผู้ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ในเว็บไซต์นี้ เช่น ที่อยู่อีเมล์ เป็นต้น
2.1.9 การแสร้งทำเป็นบุคคลอื่น รวมถึงการใช้หัวเรื่องที่ปลอมแปลงขึ้นมา เพื่อปิดบังหรือปกปิดต้นกำเนิดของสิ่งที่ท่านนำมาเผยแพร่
2.1.10 กระทำการใดๆ ก็ตามที่ส่งผลเสีย หรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อเว็บไซต์
2.2 ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์อาจหยุดให้บริการเป็นการชั่วคราว หรือถาวร หรือยกเลิกการให้บริการแก่ท่าน หากการให้บริการดังกล่าวส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการอื่นๆ หรือขัดแย้งต่อกฎหมาย โดยไม่ต้องแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า
2.3 การหยุดหรือการยกเลิกบริการ ท่านจะไม่สามารถเข้าใช้บริการและเข้าถึงรายละเอียดบัญชีของท่าน รวมถึงไฟล์เอกสารใดๆ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่อยู่ในบัญชีของท่านได้
2.4 ในกรณีที่ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์หยุดให้บริการเป็นการถาวรหรือยกเลิกบริการแก่ท่าน ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์มีสิทธิในการลบข้อมูลต่างๆ ที่อยู่ในบัญชีของท่านได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
2.5 ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ได้ดำเนินการจัดทำและบริหารจัดการเว็บไซต์แห่งนี้ขึ้นในประเทศไทย ซึ่งจะถูกคุ้มครองและบังคับใช้ด้วยกฎหมายไทย ซึ่งมิได้รับรองว่าเว็บไซต์แห่งนี้เหมาะสมกับการใช้งานในประเทศอื่นๆ และท่านมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบในการปฏิบัติตามกฎหมายของการใช้งานเว็บไซต์ในประเทศนั้นๆ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ขอสงวนสิทธิ์ในการนำเสนอ ปรับปรุงและแก้ไขข้อมูล ซึ่งข้อมูลที่ปรากฏบนเว็บไซต์ได้ถูกจัดทำขึ้น โดยมิได้มีจุดประสงค์ให้คำแนะนำหรือชี้แนะอย่างผู้เชี่ยวชาญ อีกทั้งข้อมูลด้านผลิตภัณฑ์และบริการของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์บางชนิด อาจถูกจำกัดการขอใช้บริการ และสามารถให้บริการได้ในบางพื้นที่หรือลูกค้าเฉพาะกลุ่ม
3. ข้อมูลในเว็บไซต์
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ มีจุดมุ่งหมายและความมุ่งมั่นที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ให้มีความเที่ยงตรง และถูกต้องอยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ไม่รับประกันหรือรับรองความถูกต้องของข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์จะไม่ยอมรับหรือรับผิดชอบต่อข้อผิดพลาดใดๆ หรือการละเลยเนื้อหาส่วนหนึ่งส่วนใดในเว็บไซต์นี้
4. การจัดส่งข้อมูลในเว็บไซต์
ข้อมูลทุกชนิดที่ท่านได้จัดส่งให้ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ จะถือว่าเป็นข้อมูลที่ไม่เป็นความลับ และไม่เป็นกรรมสิทธิ์แต่อย่างใด ทุกสิ่งที่ท่านได้จัดส่งเผยแพร่หรือโพสต์ ประกาศ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ มีสิทธิที่จะสามารถพิจารณาความเหมาะสมและใช้ข้อมูลดังกล่าวได้ โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น
ท่านจะต้องยอมรับว่า ข้อมูลที่ท่านได้โพสต์ลงเว็บไซต์นี้ ไม่ได้เป็นการละเมิดสิทธิ์จากบุคคลที่สาม รวมถึงลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้า ความเป็นส่วนตัว หรือสินทรัพย์ ที่เป็นสิทธิส่วนบุคคลอื่น ซึ่งหากเกิดความเสียหายอันเกิดจากการละเมิดข้อกำหนดดังกล่าว ท่านจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในความเสียหายทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียวต่อบุคคลใดๆ รวมถึงศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์
ท่านจะต้องยินยอมให้ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับท่านและการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน และศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ มีสิทธิในการใช้ข้อมูลดังกล่าวตามที่ได้ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัว
5. การเชื่อมโยงกับเว็บไซต์อื่นๆ
เว็บไซต์นี้อาจมีการเชื่อมโยงกับเว็บไซต์อื่นๆ (เว็บไซต์อื่นที่ไม่ได้อยู่ในความควบคุมดูแลของศูนย์ข้อมูล อสังหาริมทรัพย์) ทั้งนี้ การเชื่อมโยงดังกล่าวเป็นเพียงการให้บริการเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ท่านในการค้นหาเว็บไซต์ บริการ และ/หรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ดังนั้น ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์จึงไม่มีอำนาจควบคุม รับรอง ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในเนื้อหา ยืนยันความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลเว็บไซต์นั้นๆ และธนาคารไม่รับผิดชอบต่อเนื้อหาใดๆ หรือความเสียหายใดๆ ที่แสดงบนเว็บไซต์อื่นที่เชื่อมโยงมายังเว็บไซต์นี้ การตัดสินใจว่าบริการ และ/หรือผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอผ่านเว็บไซต์เหล่านี้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของท่านหรือไม่นั้น เป็นความรับผิดชอบของ ท่านเอง ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ไม่สามารถควบคุมและจะไม่รับผิดชอบเนื้อหาของเว็บไซต์เหล่านั้นใดๆ ทั้งสิ้น และศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการกำหนดถึงการรับประกันใดๆ หรือต้องรับภาระ ค่าเสียหายที่เกี่ยวพันกับเจ้าของ หรือผู้ดำเนินงานของเว็บไซต์ใดๆ (รวมทั้งความเสียหายที่เกิดจากข้ออ้างใดๆ ก็ตามที่ละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาประเภทอื่นของเว็บไซต์ของบุคคลที่สามนั้น)
อีกทั้ง ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ไม่อนุญาตให้ใส่ลิงค์ที่ไม่ได้รับอนุญาตในเว็บไซต์นี้
ทั้งนี้ หากท่านพบข้อมูลที่ผิดกฎหมายปรากฏบนหน้าเว็บไซต์ของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กรุณาแจ้งมายังที่อยู่/เบอร์โทรศัพท์/Email ตามรายละเอียดดังนี้ เพื่อที่ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์จะได้ระงับหรือนำข้อมูลดังกล่าวออกจากระบบของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ต่อไป
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ชั้น 18 อาคาร 2 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สำนักงานใหญ่
เลขที่ 63 ถ.พระราม 9 ห้วยขวาง กรุงเทพ 10310
โทร 026459671 Email [email protected]
6.การปฏิเสธความรับผิดชอบและข้อจำกัดความรับผิดชอบ
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ รวมถึง ความเสียหาย ความสูญเสียและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากเว็บไซต์นี้ทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม ซึ่งรวมไปถึงศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ไม่รับรองถึงความถูกต้อง ซึ่งอาจมีข้อความที่คลาดเคลื่อนไม่ถูกต้องหรือการสะกดตัวอักษรผิด หรือความครบถ้วนของเอกสารของข้อมูลที่ปรากฏในเว็บไซต์นี้ ซึ่งอาจเกิดความผิดพลาดขึ้นได้ ตลอดจนไม่รับผิดชอบต่อผลใดๆ ของการนำข้อมูลจากเว็บไซต์นี้ไปใช้งาน ความถูกต้องแม่นยำของข้อมูล ความล่าช้าในการถ่ายโอนข้อมูล ระยะเวลาในการเผยแพร่ข้อมูล เหตุขัดข้องหรืออุปสรรคของการเชื่อมต่อ ความผิดพลาดในการแสดงผล ความเสถียรของระบบ
นอกจากนี้ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ไม่ขอรับประกันว่าข้อมูลหรือรายงานทางเศรษฐกิจใดๆ จะเป็นข้อมูลหรือรายงานที่ถูกต้อง วางใจได้หรือทันสมัยอยู่เสมอ รวมถึงข้อมูล สินค้า หรือบริการที่รวมอยู่ในหรือที่สามารถหาได้ผ่านทางเว็บไซต์นี้ อาจไม่ถูกต้องหรือมีความผิดพลาดในการพิมพ์ และข้อมูลที่บรรจุ อยู่ในเว็บไซต์นี้จะได้รับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอเป็นระยะ คำแนะนำใดๆ ที่ท่านได้รับผ่านทางเว็บไซต์นี้ไม่ควรได้รับความไว้วางใจเพื่อใช้ในการ ตัดสินใจของท่านไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจในทางกฎหมาย หรือในทางการเงิน ท่านควรที่จะต้องปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญในวิชาชีพนั้นๆ เพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของท่าน
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ไม่ได้ให้คำรับรองหรือรับประกันโดยชัดแจ้งหรือโดยปริยายแต่อย่างใด เกี่ยวกับความเหมาะสม ความน่าเชื่อถือ ความมีอยู่และใช้งานได้ การทันกาลทันเวลา การไม่มีไวรัสหรือสิ่งอื่นใดที่เป็นอันตราย รวมทั้งความถูกต้องของข้อมูล ซอฟต์แวร์ สินค้าและรูปแบบแผนผังใดๆ ที่เกี่ยวข้องที่ปรากฏอยู่บน เว็บไซต์นี้ทั้งนี้ไม่ว่าจะเพื่อวัตถุประสงค์ใดๆก็ตาม ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ไม่มีความรับผิดและจะไม่รับผิดสำหรับความสูญเสียหรือความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อม (รวมทั้งความสูญเสียหรือความเสียหายกรณีพิเศษ) จากการเข้าชมหรือใช้เว็บไซต์นี้ของท่าน
ดังนั้น ท่านตกลงเป็นกรณีพิเศษว่า ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์จะไม่ต้องรับผิดชอบหรือรับผิด สำหรับการเข้าสู่หรือการเปลี่ยนแปลงแก้ไขการส่งข้อมูลของท่าน หรือธุรกรรมใดๆ ที่ท่านทำผ่านทางเว็บไซต์นี้โดยปราศจากอำนาจ
7. การเปลี่ยนแปลงข้อตกลงและเงื่อนไข
เว็บไซต์นี้ได้ถูกดำเนินการจัดให้มีการพัฒนาเว็บไซต์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ที่มีความต้องการข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ได้รับข้อมูลที่ดีและถูกต้องที่สุด เพราะฉะนั้นข้อมูลและสาระสำคัญต่างๆ ในเว็บไซต์นี้จึงสามารถเปลี่ยนแปลงได้อยู่ตลอดเวลา ทางศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ จึงขอให้ท่านดำเนินการตรวจสอบทุกครั้งว่า เว็บไซต์มีความเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ เพื่อเป็นไปตามเงื่อนไขและข้อตกลงในเบื้องต้น
8. กฎหมายที่บังคับใช้
ข้อตกลงและเงื่อนไขในเว็บไซต์นี้อยู่ภายใต้การบังคับใช้และตีความตามกฎหมายไทยแห่งราชอาณาจักรไทย หากมีข้อพิพาทใดๆ ที่เกี่ยวข้องให้อยู่ภายใต้อำนาจการตัดสินคดีแบบไม่ผูกขาดของศาลไทย ท่านตกลงว่าความสัมพันธ์ที่มีอยู่ระหว่างท่านกับศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ อันเป็นผลมาจากการทำข้อตกลงนี้หรือการใช้งานเว็บไซต์ของท่านนี้ ไม่เป็นกิจการร่วมค้า หุ้นส่วน การว่าจ้าง หรือกิจการตัวแทนระหว่างท่านกับศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์แต่อย่างใดทั้งสิ้น
นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)
วันที่มีผลใช้บังคับ: ฉบับปรับปรุง1 มิถุนายน 2565
1. บทนำ
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ต่อไปในนโยบายนี้เรียกว่า “ศขอ.” หรือ “องค์กร”) ตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลอื่นอันเกี่ยวกับท่าน (รวมเรียกว่า “ข้อมูล”) เพื่อให้ท่านสามารถเชื่อมั่นได้ว่า ศขอ. มีความโปร่งใสและความรับผิดชอบในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลของท่านตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) รวมถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“นโยบาย”) นี้จึงได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อชี้แจงแก่ท่านถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผย (รวมเรียกว่า “ประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งดำเนินการโดย ศขอ. รวมถึงเจ้าหน้าที่และบุคคลที่เกี่ยวข้องผู้ดำเนินการแทนหรือในนามของ ศขอ. โดยมีเนื้อหาสาระดังต่อไปนี้
2. ขอบเขตการบังคับใช้นโยบาย
นโยบายนี้ใช้บังคับกับข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลซึ่งมีความสัมพันธ์กับ ศขอ. ในปัจจุบันและที่อาจมีในอนาคต ซึ่งถูกประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดย ศขอ. เจ้าหน้าที่ พนักงานตามสัญญา หน่วยธุรกิจหรือหน่วยงานรูปแบบอื่นที่ดำเนินการโดย ศขอ. และรวมถึงคู่สัญญาหรือบุคคลภายนอกที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของ ศขอ. (“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล”) ภายใต้ผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ ระบบ แอปพลิเคชัน เอกสาร หรือบริการในรูปแบบอื่นที่ควบคุมดูแลโดย ศขอ. (รวมเรียกว่า “บริการ”)
บุคคลมีความสัมพันธ์กับ ศขอ. ตามความในวรรคแรก รวมถึง
1) ลูกค้าบุคคลธรรมดา
2) เจ้าหน้าที่หรือผู้ปฏิบัติงาน ลูกจ้าง
3) คู่ค้าและผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา
4) กรรมการ ผู้รับมอบอำนาจ ผู้แทน ตัวแทน ผู้ถือหุ้น ลูกจ้าง หรือบุคคลอื่นที่มีความสัมพันธ์ในรูปแบบเดียวกันของนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับ ศขอ.
5) ผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์หรือบริการของ ศขอ. เช่น สมาชิกเว็บไซต์ สมาชิกวารสาร
6) ผู้เข้าชมหรือใช้งานเว็บไซต์www.reic.or.th, www.taladnudbaan.com และ www.clickthaihome.com รวมทั้งระบบ แอปพลิเคชัน อุปกรณ์ หรือช่องทางการสื่อสารอื่นซึ่งควบคุมดูแลโดย ศขอ.
7) บุคคลอื่นที่ ศขอ. เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ผู้สมัครงาน ครอบครัวของเจ้าหน้าที่ ผู้ค้ำประกัน เป็นต้น
ข้อ 1) ถึง 6) เรียกรวมกันว่า “ท่าน”
นอกจากนโยบายฉบับนี้แล้ว ศขอ. อาจกำหนดให้มีคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (“ประกาศ”) สำหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการของ ศขอ. เพื่อชี้แจงให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นผู้ใช้บริการได้ทราบถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกประมวลผล วัตถุประสงค์และเหตุผลอันชอบด้วยกฎหมายในการประมวลผล ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลพึงมีในผลิตภัณฑ์หรือบริการนั้นเป็นการเฉพาะเจาะจง
ทั้งนี้ ในกรณีที่มีความขัดแย้งกันในสาระสำคัญระหว่างความในประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและนโยบายนี้ ให้ถือตามความในประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของบริการนั้น
3. คำนิยาม
- ศขอ. หมายถึง ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์
- ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดา ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
- ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ถูกบัญญัติไว้ในมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่งได้แก่ ข้อมูลเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
- การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง การดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เก็บรวบรวม บันทึก สำเนา จัดระเบียบ เก็บรักษา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ใช้ กู้คืน เปิดเผย ส่งต่อ เผยแพร่ โอน รวม ลบ ทำลาย เป็นต้น
- เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ ศขอ. เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย
- ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
- ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
4. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่ ศขอ. เก็บรวบรวม
ศขอ. เก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ จากแหล่งข้อมูลดังต่อไปนี้
1) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ ศขอ. เก็บรวบรวมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงในช่องทางให้บริการต่าง ๆ เช่น ขั้นตอนการสมัคร ลงทะเบียน สมัครงาน ลงนามในสัญญา เอกสาร ทำแบบสำรวจหรือใช้งานผลิตภัณฑ์ บริการ หรือช่องทางให้บริการอื่นที่ควบคุมดูแลโดย ศขอ. หรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลติดต่อสื่อสารกับ ศขอ. ณ ที่ทำการหรือผ่านช่องทางติดต่ออื่นที่ควบคุมดูแลโดย ศขอ. เป็นต้น
2) ข้อมูลที่ ศขอ. เก็บรวบรวมจากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าใช้งานเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์หรือบริการอื่น ๆ ตามสัญญาหรือตามพันธกิจ เช่น การติดตามพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์หรือบริการของ ศขอ. ด้วยการใช้คุกกี้ (Cookies) หรือจากซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น
3) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ ศขอ. เก็บรวบรวมจากแหล่งอื่นนอกจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยที่แหล่งข้อมูลดังกล่าวมีอำนาจหน้าที่ มีเหตุผลที่ชอบด้วยกฎหมายหรือได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแล้วในการเปิดเผยข้อมูลแก่ ศขอ. เช่น การเชื่อมโยงบริการดิจิทัลของหน่วยงานของรัฐในการให้บริการเพื่อประโยชน์สาธารณะแบบเบ็ดเสร็จแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเอง การรับข้อมูลส่วนบุคคลจากหน่วยงานของรัฐแห่งอื่นในฐานะที่ ศขอ. มีหน้าที่ตามพันธกิจในการดำเนินการจัดให้มีศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลกลางเพื่อสนับสนุนการดำเนินการของหน่วยงานของรัฐในการให้บริการประชาชนผ่านระบบดิจิทัล รวมถึงจากความจำเป็นเพื่อให้บริการตามสัญญาที่อาจมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนบุคคลกับหน่วยงานคู่สัญญาได้
นอกจากนี้ ยังหมายความรวมถึงกรณีที่ท่านเป็นผู้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกแก่ ศขอ. ดังนี้ ท่านมีหน้าที่รับผิดชอบในการแจ้งรายละเอียดตามนโยบายนี้หรือประกาศของผลิตภัณฑ์หรือบริการ ตามแต่กรณี ให้บุคคลดังกล่าวทราบ ตลอดจนขอความยินยอมจากบุคคลนั้นหากเป็นกรณีที่ต้องได้รับความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลแก่ ศขอ.
ทั้งนี้ ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลที่มีความจำเป็นในการให้บริการของ ศขอ. อาจเป็นผลให้ ศขอ. ไม่สามารถให้บริการนั้นแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ทั้งหมดหรือบางส่วน
5. ฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
ศขอ. พิจารณากำหนดฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามความเหมาะสมและตามบริบทของการให้บริการ ทั้งนี้ ฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ ศขอ. ใช้ ประกอบด้วย
ฐานทางกฎหมาย
| รายละเอียด
|
เพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือการใช้อำนาจรัฐที่ ศขอ. ได้รับ
| เพื่อให้ ศขอ. สามารถใช้อำนาจรัฐและดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะตามพันธกิจ ศขอ. ซึ่งกำหนดไว้ตามกฎหมาย เช่น
- พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) พ.ศ. 2561
- พระราชบัญญัติการบริหารงานและการให้บริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัล พ.ศ. 2562
รวมถึง กฎ ระเบียบ คำสั่งและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น
|
เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
| เพื่อให้ ศขอ. สามารถปฏิบัติตามที่กฎหมายที่ควบคุม ศขอ. เช่น
- การเก็บรวบรวมข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560
- พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540
- พระราขบัญญัติองค์การมหาชน พ.ศ. 2542
- กฎหมายว่าด้วยภาษีอากร
รวมถึง การดำเนินการตามคำสั่งศาล เป็นต้น
|
เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
| เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของ ศขอ. และของบุคคลอื่น ซึ่งประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เพื่อการรักษาความปลอดภัยอาคารสถานที่ของ ศขอ. หรือการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อกิจการภายในของ ศขอ. เป็นต้น
|
เป็นการจำเป็นเพื่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
| เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล เช่น การให้บริการแอปพลิเคชันเพื่อเฝ้าระวังโรคระบาดตามนโยบายของรัฐบาล เป็นต้น
|
เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา
| เพื่อให้ ศขอ. สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา หรือดำเนินการอันเป็นความจำเป็นต่อการเข้าทำสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญากับ ศขอ. เช่น การจ้างงาน จ้างทำของ การทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือหรือสัญญาในรูปแบบอื่น เป็นต้น
|
เพื่อการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์ วิจัยหรือสถิติที่สำคัญ
| เพื่อให้ ศขอ. สามารถจัดทำหรือสนับสนุนการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์ วิจัยหรือสถิติตามที่ ศขอ. อาจได้รับมอบหมาย เช่น การจัดทำทำเนียบผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ หรือคณะกรรมการ การจัดทำสถิติการใช้บริการดิจิทัลภาครัฐ งานติดตามการดำเนินนโยบายรัฐบาลดิจิทัล เป็นต้น
|
ความยินยอมของท่าน
| เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่ ศขอ. จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากท่าน โดยได้มีการแจ้งวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลก่อนการขอความยินยอมแล้ว เช่น การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวด้วยวัตถุประสงค์ที่ไม่เป็นไปตามข้อยกเว้นมาตรา 24 หรือ 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือการนำเสนอ ประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์และบริการของคู่สัญญาหรือพันธมิตรทางธุรกิจแก่ท่าน เป็นต้น
|
ในกรณีที่ ศขอ. มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา การปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหรือเพื่อความจำเป็นในการเข้าทำสัญญา หากท่านปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลหรือ คัดค้านการดำเนินการประมวลผลตามวัตถุประสงค์ของกิจกรรม อาจมีผลทำให้ ศขอ. ไม่สามารถดำเนินการหรือให้บริการตามที่ท่านร้องขอได้ทั้งหมดหรือบางส่วน
6. ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่ ศขอ. เก็บรวบรวม
ศขอ. อาจเก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลดังต่อไปนี้ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับบริการที่ท่านใช้หรือบริบทความสัมพันธ์ที่ท่านมีกับ ศขอ. รวมถึงข้อพิจารณาอื่นที่มีผลกับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล โดยประเภทของข้อมูลที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้เป็นเพียงกรอบการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของ ศขอ. เป็นการทั่วไป ทั้งนี้ เฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ท่านใช้งานหรือมีความสัมพันธ์ด้วยเท่านั้นที่จะมีผลบังคับใช้
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล
| รายละเอียดและตัวอย่าง
|
ข้อมูลเฉพาะตัวบุคคล
| ข้อมูลระบุชื่อเรียกของท่านหรือข้อมูลจากเอกสารราชการที่ระบุข้อมูลเฉพาะตัวของท่าน เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ นามสกุล ชื่อกลาง ชื่อเล่น ลายมือชื่อ เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน สัญชาติ เลขที่ใบขับขี่ เลขที่หนังสือเดินทาง ข้อมูลทะเบียนบ้าน หมายเลขใบประกอบการ หมายเลขใบอนุญาตการประกอบวิชาชีพ (สำหรับแต่ละอาชีพ) หมายเลขประจำตัวผู้ประกันตน หมายเลขประกันสังคม เป็นต้น
|
ข้อมูลเกี่ยวกับคุณลักษณะของบุคคล
| ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับตัวท่าน เช่น วันเดือนปีเกิด เพศ ส่วนสูง น้ำหนัก อายุ สถานภาพการสมรส สถานภาพการเกณฑ์ทหาร รูปถ่าย ภาษาพูด ข้อมูลพฤติกรรม ความชื่นชอบ ข้อมูลการเป็นบุคคลล้มละลาย ข้อมูลการเป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ เป็นต้น
|
ข้อมูลสำหรับการติดต่อ
| ข้อมูลเพื่อการติดต่อท่าน เช่น เบอร์โทรศัพท์บ้าน เบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่ หมายเลขโทรสาร อีเมล ที่อยู่ทางไปรษณีย์บ้าน ชื่อผู้ใช้งานในสังคมออนไลน์ (Line ID, MS Teams) แผนที่ตั้งของที่พัก เป็นต้น
|
ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานและการศึกษา
| รายละเอียดการจ้างงาน รวมถึงประวัติการทำงานและประวัติการศึกษา เช่น ประเภทการจ้างงาน อาชีพ ยศ ตำแหน่ง หน้าที่ ความเชี่ยวชาญ สถานภาพใบอนุญาตทำงาน ข้อมูลบุคคลอ้างอิง หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี ประวัติการดำรงตำแหน่ง ประวัติการทำงาน ข้อมูลเงินเดือน วันเริ่มงาน วันออกจากงาน ผลการประเมิน สวัสดิการและสิทธิประโยชน์ พัสดุในครอบครองของผู้ปฏิบัติงาน ผลงาน หมายเลขบัญชีธนาคาร สถาบันการศึกษา วุฒิการศึกษา ผลการศึกษา วันที่สำเร็จการศึกษา เป็นต้น
|
ข้อมูลเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัย
| รายละเอียดเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัยผู้ปฏิบัติงาน เช่น ผู้รับประกันภัย ผู้เอาประกันภัย ผู้รับประโยชน์ หมายเลขกรมธรรม์ ประเภทกรมธรรม์ วงเงินคุ้มครอง ข้อมูลเกี่ยวกับการเคลม เป็นต้น
|
ข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางสังคม
| ข้อมูลความสัมพันธ์ทางสังคมของท่าน เช่น สถานภาพทางการเมือง การดำรงตำแหน่งทางการเมือง การดำรงตำแหน่งกรรมการ ความสัมพันธ์กับผู้ปฏิบัติงานของ ศขอ. ข้อมูลการเป็นผู้มีสัญญาจ้างกับ ศขอ. ข้อมูลการเป็นผู้มีส่วนได้เสียในกิจการที่ทำกับ ศขอ. เป็นต้น
|
ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการของ ศขอ.
| รายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของ ศขอ. เช่น ชื่อบัญชีผู้ใช้งาน รหัสผ่าน หมายเลข PIN ข้อมูล Single Sign-on (SSO ID) รหัส OTP ข้อมูลการจราจรทางคอมพิวเตอร์ ข้อมูลระบุพิกัด ภาพถ่าย วีดีโอ บันทึกเสียง ข้อมูลพฤติกรรมการใช้งาน (เว็บไซต์ที่อยู่ในความดูแลของ ศขอ. เช่น www.reic.or.th, www.taladnudbaan.com และ www.clickthaihome.com หรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ) ประวัติการสืบค้น คุกกี้หรือเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกัน หมายเลขอุปกรณ์ (Device ID) ประเภทอุปกรณ์ รายละเอียดการเชื่อมต่อ ข้อมูล Browser ภาษาที่ใช้งาน ระบบปฏิบัติการที่ใช้งาน เป็นต้น
|
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน
| ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนของท่าน เช่น เชื้อชาติ ข้อมูลศาสนา ข้อมูลความพิการ ข้อมูลความเห็นทางการเมือง ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลชีวภาพ (ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า) ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ เป็นต้น
|
7. คุกกี้
ศขอ. เก็บรวบรวมและใช้คุกกี้รวมถึงเทคโนโลยีอื่นในลักษณะเดียวกัน ในเว็บไซต์ที่อยู่ภายใต้ความดูแลของ ศขอ. เช่น www.reic.or.th, www.taladnudbaan.com และ www.clickthaihome.com หรือบนอุปกรณ์ของท่านตามแต่บริการที่ท่านใช้งาน ทั้งนี้ เพื่อการดำเนินการด้านความปลอดภัยในการให้บริการของ ศขอ. และเพื่อให้ท่านซึ่งเป็นผู้ใช้งานได้รับความสะดวกและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานบริการของ ศขอ. และข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปเพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ของ ศขอ. ให้ตรงกับความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น โดยท่านสามารถตั้งค่าหรือลบการใช้งานคุกกี้ได้ด้วยตนเองจากการตั้งค่าในเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) ของท่าน
8. ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถและคนเสมือนไร้ความสามารถ
กรณีที่ ศขอ. ทราบว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมในการเก็บรวบรวม เป็นของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ ศขอ. จะไม่ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจนกว่าจะได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ หรือผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ตามแต่กรณี ทั้งนี้ เป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด
กรณีที่ ศขอ. ไม่ทราบมาก่อนว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ และมาพบในภายหลังว่า ศขอ. ได้เก็บรวบรวมข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวโดยยังมิได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ หรือผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ตามแต่กรณี ดังนี้ ศขอ. จะดำเนินการลบทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้นโดยเร็วหาก ศขอ. ไม่มีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายประการอื่นนอกเหนือจากความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว
9. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
ศขอ. ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์หลายประการ ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทของผลิตภัณฑ์หรือบริการหรือกิจกรรมที่ท่านใช้บริการ ตลอดจนลักษณะความสัมพันธ์ของท่านกับ ศขอ. หรือข้อพิจารณาในแต่ละบริบทเป็นสำคัญ โดยวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ เป็นเพียงกรอบการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของ ศขอ. เป็นการทั่วไป ทั้งนี้ เฉพาะวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ท่านใช้งานหรือมีความสัมพันธ์ด้วยเท่านั้นที่จะมีผลบังคับใช้กับข้อมูลของท่าน
1) เพื่อดำเนินการตามที่จำเป็นในการดำเนินประโยชน์สาธารณะที่ ศขอ. ได้รับมอบหมายให้สำเร็จลุล่วง หรือเป็นการจำเป็นเพื่อใช้อำนาจทางกฎหมายที่ ศขอ. มีอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการตามพันธกิจดังปรากฏในพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) พ.ศ. 2561 และกฎหมาย กฎ ระเบียบหรือคำสั่งที่เกี่ยวข้อง
2) เพื่อให้บริการและบริหารจัดการบริการของ ศขอ. ทั้งบริการภายใต้สัญญาที่มีต่อท่าน หรือตามพันธกิจของ ศขอ.
3) เพื่อการดำเนินการทางธุรกรรมของ ศขอ.
4) ควบคุมดูแล ใช้งาน ติดตาม ตรวจสอบและบริหารจัดการบริการเพื่ออำนวยความสะดวกและสอดคล้องกับความต้องการของท่าน
5) เพื่อเก็บรักษาและปรับปรุงข้อมูลอันเกี่ยวกับท่าน รวมทั้งเอกสารที่มีการกล่าวอ้างถึงท่าน
6) จัดทำบันทึกรายการการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด
7) วิเคราะห์ข้อมูล รวมถึงแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับบริการของ ศขอ.
8) เพื่อดำเนินการตามที่จำเป็นในการบริหารจัดการภายในองค์กร รวมถึงการรับสมัครงาน การสรรหากรรมการหรือผู้ดำรงตำแหน่งต่าง ๆ การประเมินคุณสมบัติ
9) ป้องกัน ตรวจจับ หลีกเลี่ยง และตรวจสอบการฉ้อโกง การละเมิดความปลอดภัย หรือการกระทำที่ต้องห้าม หรือผิดกฎหมาย และอาจเกิดความเสียหายต่อทั้ง ศขอ. และเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
10) การยืนยันตัวตน พิสูจน์ตัวตนและตรวจสอบข้อมูลเมื่อท่านสมัครใช้บริการของ ศขอ. หรือติดต่อใช้บริการ หรือใช้สิทธิตามกฎหมาย
11) ปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการให้ทันสมัย
12) การประเมินและบริหารจัดการความเสี่ยง
13) ส่งการแจ้งเตือน การยืนยันการทำคำสั่ง ติดต่อสื่อสารและแจ้งข่าวสารไปยังท่าน
14) เพื่อจัดทำและส่งมอบเอกสารหรือข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้องและจำเป็น
15) ยืนยันตัวตน ป้องกันการสแปม หรือการกระทำที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือผิดกฎหมาย
16) ตรวจสอบว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าถึงและใช้บริการของ ศขอ. อย่างไร ทั้งในภาพรวมและรายบุคคล และเพื่อวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการค้นคว้า และการวิเคราะห์
17) ดำเนินการตามที่จำเป็นเพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ที่ ศขอ. มีต่อหน่วยงานที่มีอำนาจควบคุม หน่วยงานด้านภาษี การบังคับใช้กฎหมาย หรือภาระผูกพันตามกฎหมายของ ศขอ.
18) ดำเนินการตามที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของ ศขอ. หรือของบุคคลอื่น หรือของนิติบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับการการดำเนินการของ ศขอ.
19) ป้องกัน หรือหยุดยั้งอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลซึ่งรวมถึงการเฝ้าระวังโรคระบาด
20) จัดเตรียมเอกสารทางประวัติศาสตร์เพื่อประโยชน์สาธารณะ การค้นคว้า หรือจัดทำสถิติที่ ศขอ. ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการ
21) เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย ประกาศ คำสั่งที่มีผลบังคับใช้ หรือการดำเนินการเกี่ยวกับคดีความ การดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลตามหมายศาล รวมถึงการใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลของท่าน
10. ประเภทบุคคลที่ ศขอ. เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ภายใต้วัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ในข้อ 9 ข้างต้น ศขอ. อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลดังต่อไปนี้ ทั้งนี้ ประเภทของบุคคลผู้รับข้อมูลที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้เป็นเพียงกรอบการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของ ศขอ. เป็นการทั่วไป เฉพาะบุคคลผู้รับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ท่านใช้งานหรือมีความสัมพันธ์ด้วยเท่านั้นที่จะมีผลบังคับใช้
ประเภทบุคคลผู้รับข้อมูล
| รายละเอียด
|
หน่วยงานของรัฐหรือผู้มีอำนาจที่ ศขอ. ต้องเปิดเผยข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินการตามกฎหมายหรือวัตถุประสงค์สำคัญอื่น (เช่น การดำเนินการเพื่อประโยชน์สาธารณะ)
| หน่วยงานผู้บังคับใช้กฎหมาย หรือมีอำนาจควบคุมกำกับดูแลหรือมีวัตถุประสงค์อื่นที่มีความสำคัญ เช่น คณะรัฐมนตรี รัฐมนตรีผู้รักษาการ กรมการปกครอง กรมสรรพากร สำนักงานตำรวจ ศาล สำนักงานอัยการ กรมควบคุมโรค กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานปลัดสำนักนายก กรมการกงสุล กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เป็นต้น
|
คณะกรรมการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามกฎหมายของ ศขอ.
| ศขอ. อาจเปิดเผยข้อมูลของท่านแก่บุคคลผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการในคณะต่าง ๆ เช่น คณะอนุกรรมการสรรหา คณะกรรมการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล เป็นต้น
|
คู่สัญญาซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับสวัสดิการของผู้ปฏิบัติงานของ ศขอ.
| บุคคลภายนอกที่ ศขอ. จัดซื้อจัดจ้างให้ดำเนินการเกี่ยวกับสวัสดิการ เช่น บริษัทประกันภัย โรงพยาบาล บริษัทผู้จัดทำ Payroll ธนาคาร ผู้ให้บริการโทรศัพท์ เป็นต้น
|
พันธมิตรทางธุรกิจ
| ศขอ. อาจเปิดเผยข้อมูลของท่านแก่บุคคลที่ร่วมงานกับ ศขอ. เพื่อประโยชน์ในการให้บริการแก่ท่าน เช่น หน่วยงานผู้ให้บริการที่ท่านติดต่อผ่านบริการของ ศขอ. ผู้ให้บริการด้านการตลาด สื่อโฆษณา สถาบันการเงิน ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม ผู้ให้บริการโทรคมนาคม เป็นต้น
|
ผู้ให้บริการ
| ศขอ. อาจมอบหมายให้บุคคลอื่นเป็นผู้ให้บริการแทน หรือสนับสนุนการดำเนินการของ ศขอ. เช่น ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูล (เช่น คลาวด์ โกดังเอกสาร) ผู้พัฒนาระบบ ซอฟต์แวร์ แอปพลิเคชัน เว็บไซต์ ผู้ให้บริการจัดส่งเอกสาร ผู้ให้บริการด้านการชำระเงิน ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ผู้ให้บริการโทรศัพท์ ผู้ให้บริการด้าน Digital ID ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ ผู้ให้บริการด้านการบริหารความเสี่ยง ที่ปรึกษาภายนอก ผู้ให้บริการขนส่ง เป็นต้น
|
ผู้รับข้อมูลประเภทอื่น
| ศขอ. อาจเปิดเผยข้อมูลของท่านให้แก่บุคคลผู้รับข้อมูลประเภทอื่น เช่น ผู้ติดต่อ ศขอ. สมาชิกในครอบครัว มูลนิธิที่ไม่แสวงหากำไร วัด โรงพยาบาล สถานศึกษา หรือหน่วยงานอื่น ๆ เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อการดำเนินการเกี่ยวกับบริการของ ศขอ. การฝึกอบรม การรับรางวัล การร่วมทำบุญ บริจาค เป็นต้น
|
การเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ
| ศขอ. อาจเปิดเผยข้อมูลของท่านต่อสาธารณะในกรณีที่จำเป็น เช่น การดำเนินการที่กำหนดให้ ศขอ. ต้องประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาหรือมติคณะรัฐมนตรี เป็นต้น
|
11. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
ในบางกรณี ศขอ. อาจจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการให้บริการแก่ท่าน เช่น เพื่อส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปยังระบบคลาวด์ (Cloud) ที่มีแพลตฟอร์มหรือเครื่องแม่ข่าย (Server) อยู่ต่างประเทศ (เช่น ประเทศสิงคโปร์ หรือสหรัฐอเมริกา เป็นต้น) เพื่อสนับสนุนระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ตั้งอยู่นอกประเทศไทย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับบริการของ ศขอ. ที่ท่านใช้งานหรือมีส่วนเกี่ยวข้องเป็นรายกิจกรรม
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่จัดทำนโยบายฉบับนี้ คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลยังมิได้มีประกาศกำหนดรายการประเทศปลายทางที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ ดังนี้ เมื่อ ศขอ. มีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังประเทศปลายทาง ศขอ. จะดำเนินการเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ส่งหรือโอนไปมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเพียงพอตามมาตรฐานสากล หรือดำเนินการตามเงื่อนไขเพื่อให้สามารถส่งหรือโอนข้อมูลนั้นได้ตามกฎหมาย ได้แก่
1) เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่กำหนดให้ ศขอ. ต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
2) ได้แจ้งให้ท่านทราบและได้รับความยินยอมจากท่านในกรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอ ทั้งนี้ตามประกาศรายชื่อประเทศที่คณะกรรมการคุ้มครองส่วนบุคคลประกาศกำหนด
3) เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญากับ ศขอ. หรือเป็นการทำตามคำขอของท่านก่อนการเข้าทำสัญญานั้น
4) เป็นการกระทำตามสัญญาของ ศขอ. กับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เพื่อประโยชน์ของท่าน
5) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือของบุคคลอื่น เมื่อท่านไม่สามารถให้ความยินยอมในขณะนั้นได้
6) เป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
12. ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ศขอ. จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่ข้อมูลนั้นยังมีความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเท่านั้น ตามรายละเอียดที่ได้กำหนดไว้ในนโยบาย ประกาศหรือตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาและข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสิ้นความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวแล้ว ศขอ. จะทำการลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวตนได้ต่อไป ตามรูปแบบและมาตรฐานการลบทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่คณะกรรมการหรือกฎหมายจะได้ประกาศกำหนดหรือตามมาตรฐานสากล อย่างไรก็ดี ในกรณีที่มีข้อพิพาท การใช้สิทธิหรือคดีความอันเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ศขอ. ขอสงวนสิทธิในการเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปจนกว่าข้อพิพาทนั้นจะได้มีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุด
13. การให้บริการโดยบุคคลที่สามหรือผู้ให้บริการช่วง
ศขอ. อาจมีการมอบหมายหรือจัดซื้อจัดจ้างบุคคลที่สาม (ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ให้ทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของ ศขอ. ซึ่งบุคคลที่สามดังกล่าว อาจเสนอบริการในลักษณะต่าง ๆ เช่น การเป็นผู้ดูแล (Hosting) รับงานบริการช่วง (Outsourcing) หรือเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ (Cloud computing service/provider) หรือเป็นงานในลักษณะการจ้างทำของในรูปแบบอื่น
การมอบหมายให้บุคคลที่สามทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ศขอ. จะจัดให้มีข้อตกลงระบุสิทธิและหน้าที่ของ ศขอ. ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและของบุคคลที่ ศขอ. มอบหมายในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงกำหนดรายละเอียดประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่ ศขอ. มอบหมายให้ประมวลผล รวมถึงวัตถุประสงค์ ขอบเขตในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและข้อตกลงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามขอบเขตที่ระบุในข้อตกลงและตามคำสั่งของ ศขอ. เท่านั้นโดยไม่สามารถประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นได้
ในกรณีที่ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีการมอบหมายผู้ให้บริการช่วง (ผู้ประมวลผลช่วง) เพื่อทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้ ศขอ. จะกำกับให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจัดให้มีเอกสารข้อตกลงระหว่างผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ประมวลผลช่วง ในรูปแบบและมาตรฐานที่ไม่ต่ำกว่าข้อตกลงระหว่าง ศขอ. กับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
14. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
ศขอ. มีมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล โดยการจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลให้สามารถเข้าถึงได้โดยเจ้าหน้าที่เฉพาะรายหรือบุคคลที่มีอำนาจหน้าที่หรือได้รับมอบหมายที่มีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลดังกล่าวตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้แล้วเท่านั้น ซึ่งบุคคลดังกล่าวจะต้องยึดมั่นและปฏิบัติตามมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของ ศขอ. อย่างเคร่งครัด ตลอดจนมีหน้าที่รักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลที่ตนเองรับรู้จากการปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ โดย ศขอ. มีมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลทั้งในเชิงองค์กรหรือเชิงเทคนิกที่ได้มาตรฐานสากล และเป็นไปตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
นอกจากนี้ เมื่อ ศขอ. มีการส่ง โอนหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลที่สาม ไม่ว่าเพื่อการให้บริการตามพันธกิจ ตามสัญญา หรือข้อตกลงในรูปแบบอื่น ศขอ. จะกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความลับที่เหมาะสมและเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อยืนยันว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่ ศขอ. เก็บรวบรวมจะมีความมั่นคงปลอดภัยอยู่เสมอ
15. การเชื่อมต่อเว็บไซท์หรือบริการภายนอก
บริการของ ศขอ. อาจมีการเชื่อมต่อไปยังเว็บไซท์หรือบริการของบุคคลที่สาม ซึ่งเว็บไซท์หรือบริการดังกล่าวอาจมีการประกาศนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีเนื้อหาสาระแตกต่างจากนโยบายนี้ ศขอ. ขอแนะนำให้ท่านศึกษานโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซท์หรือบริการนั้น ๆ เพื่อทราบในรายละเอียดก่อนการเข้าใช้งาน ทั้งนี้ ศขอ. ไม่มีความเกี่ยวข้องและไม่มีอำนาจควบคุมถึงมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซท์หรือบริการดังกล่าวและไม่สามารถรับผิดชอบต่อเนื้อหา นโยบาย ความเสียหาย หรือการกระทำอันเกิดจากเว็บไซท์หรือบริการของบุคคลที่สาม
16. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ศขอ. ได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบ กำกับและให้คำแนะนำในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการประสานงานและให้ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้สอดคล้องตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
17. สิทธิของท่านตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ได้กำหนดสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้หลายประการ ทั้งนี้ สิทธิดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อกฎหมายในส่วนของสิทธินี้มีผลใช้บังคับ โดยรายละเอียดของสิทธิต่าง ๆ ประกอบด้วย
1) สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอเข้าถึง รับสำเนาและขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่ ศขอ. เก็บรวบรวมไว้โดยปราศจากความยินยอมของท่าน เว้นแต่กรณีที่ ศขอ. มีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านด้วยเหตุตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่การใช้สิทธิของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
2) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน หากท่านพบว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วนหรือไม่เป็นปัจจุบัน ท่านมีสิทธิขอให้แก้ไขเพื่อให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้
3) สิทธิในการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้ ศขอ. ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้ต่อไป ทั้งนี้ การใช้สิทธิลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนี้จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด
4) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ ในกรณีดังต่อไปนี้
ก) เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่ ศขอ. ทำการตรวจสอบตามคำร้องขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน
ข) ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถูกเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
ค) เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่ ศขอ. ได้แจ้งในการเก็บรวบรวม แต่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลประสงค์ให้ ศขอ. เก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปเพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมาย
ง) เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่ ศขอ. กำลังพิสูจน์ถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือตรวจสอบความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์สาธารณะ อันเนื่องมาจากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
5) สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน เว้นแต่กรณีที่ ศขอ. มีเหตุในการปฏิเสธคำขอโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น ศขอ. สามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะของ ศขอ.)
6) สิทธิในการขอถอนความยินยอม ในกรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่ ศขอ. ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (ไม่ว่าความยินยอมนั้นจะได้ให้ไว้ก่อนหรือหลังพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีผลใช้บังคับ) ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรักษาโดย ศขอ. เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิโดยกฎหมายให้ ศขอ. จำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลต่อไปหรือยังคงมีสัญญาระหว่างท่านกับ ศขอ. ที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่
7) สิทธิในการขอรับ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจาก ศขอ. ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยวิธีการอัตโนมัติ รวมถึงอาจขอให้ ศขอ. ส่งหรือโอนข้อมูลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น ทั้งนี้ การใช้สิทธินี้จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด
18. โทษของการไม่ปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
การไม่ปฏิบัติตามนโยบายอาจมีผลเป็นความผิดและถูกลงโทษทางวินัยตามกฎเกณฑ์ของ ศขอ. (สำหรับเจ้าหน้าที่หรือผู้ปฏิบัติงานของ ศขอ.) หรือตามข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (สำหรับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ทั้งนี้ ตามแต่กรณีและความสัมพันธ์ที่ท่านมีต่อ ศขอ. และอาจได้รับโทษตามที่กำหนดโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมทั้งกฎหมายลำดับรอง กฎ ระเบียบ คำสั่งที่เกี่ยวข้อง
19. การร้องเรียนต่อหน่วยงานผู้มีอำนาจกำกับดูแล
ในกรณีที่ท่านพบว่า ศขอ. มิได้ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิร้องเรียนไปยังคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือหน่วยงานที่มีอำนาจกำกับดูแลที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือตามกฎหมาย ทั้งนี้ ก่อนการร้องเรียนดังกล่าว ศขอ. ขอให้ท่านโปรดติดต่อมายัง ศขอ. เพื่อให้ ศขอ. มีโอกาสได้รับทราบข้อเท็จจริง
20. การปรับปรุงแก้ไขนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ศขอ. อาจพิจารณาปรับปรุง แก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ตามที่เห็นสมควร และจะทำการแจ้งให้ท่านทราบผ่านช่องทางเว็บไซต์ www.reic.or.th, www.taladnudbaan.com และ www.clickthaihome.com โดยมีวันที่มีผลบังคับใช้ของแต่ละฉบับแก้ไขกำกับอยู่ อย่างไรก็ดี ศขอ. ขอแนะนำให้ท่านโปรดตรวจสอบเพื่อรับทราบนโยบายฉบับใหม่อย่างสม่ำเสมอ ผ่านแอปพลิเคชั่น หรือช่องทางเฉพาะกิจกรรมที่ ศขอ. ดำเนินการ โดยเฉพาะก่อนที่ท่านจะทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่ ศขอ.
การเข้าใช้งานผลิตภัณฑ์หรือบริการของ ศขอ. ภายหลังการบังคับใช้นโยบายใหม่ ถือเป็นการรับทราบตามข้อตกลงในนโยบายใหม่แล้ว ทั้งนี้ โปรดหยุดการเข้าใช้งานหากท่านไม่เห็นด้วยกับรายละเอียดในนโยบายฉบับนี้และโปรดติดต่อมายัง ศขอ. เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงต่อไป
21. การติดต่อสอบถามหรือใช้สิทธิ
หากท่านมีข้อสงสัย ข้อเสนอแนะหรือข้อกังวลเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของ ศขอ. หรือเกี่ยวกับนโยบายนี้ หรือท่านต้องการใช้สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ที่
1) ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller)
- ชื่อ : ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์
- สถานที่ติดต่อ : เลขที่ 63 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สำนักงานใหญ่ อาคาร 2 ชั้น 18 ถนนพระราม 9 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
- ช่องทางการติดต่อ: [email protected] และ Call Center : 02-202-1768
2) เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO)
- สถานที่ติดต่อ : เลขที่ 63 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สำนักงานใหญ่ อาคาร 2 ชั้น 18 ถนนพระราม 9 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
- ช่องทางการติดต่อ : [email protected] และ Call Center : 02-202-1768