TAKUNI รับทรัพย์กัญชงบุ๊กกำไรอสังหาปั๊มมาร์จิ้น

30 มี.ค. 2565 358 0

          TAKUNI เปิดกรุรับทรัพย์ธุรกิจกัญชงต้นไตรมาส 3/2565 นี้ พร้อมขยายแปลงปลูกเพิ่มเป็น 2 พันตารางเมตร ฟากผู้บริหาร “นิตา ตรีวีรานุวัฒน์” ส่งซิกแนวโน้มผลงานปีนี้ดีกว่าก่อน เตรียมรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หนุนมาร์จิ้นพุ่ง

          นางสาวนิตา ตรีวีรานุวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทาคูนิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TAKUNI เปิดเผยว่า คาดจะเก็บผลผลิตจากต้นกัญชง กัญชาได้อีกประมาณ 2-3 เดือนข้างหน้า และจะมียอดขายเข้ามาประมาณต้นไตรมาส 3/2565 เบื้องต้นบริษัททดลองปลูกบนพื้นที่ 320 ตารางเมตร ขณะที่ปัจจุบันขออนุญาตขยายพื้นที่ปลูกอีก 2 พันตารางเมตร เพื่อรองรับการขยายตลาดในอนาคต

          ขายดอกกัญชง

          ล่าสุดบริษัทได้เซ็นสัญญากับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไว้ 2 บริษัท เพื่อขายดอกกัญชงให้บริษัทดังกล่าว ทั้งนี้ยอดขาย ดอกกัญชงในปี 2565 จะเห็นสัดส่วนไม่มาก เพราะเป็นช่วงเริ่มต้นธุรกิจ อีกทั้งสัดส่วนรายได้ TAKUNI ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจก่อสร้างดำเนินการ ภายใต้ บริษัท ซี เอ แซด (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CAZ

          อนึ่ง บริษัท วัชพืช ไทย จำกัด เป็นบริษัทร่วมทุนของ TAKUNI ถือหุ้นอยู่ 50% และบริษัทอื่นๆ ถืออีก 50% ประกอบธุรกิจผลิต นำเข้า-ส่งออก ขนส่ง แปรรูป ครอบครอง และจำหน่าย กัญชา กัญชง เพื่อใช้ในทางการแพทย์ หรือการศึกษา วิจัย พัฒนา นวัตกรรมทางการแพทย์ เพื่อการรักษาผู้ป่วยหรืองานวิจัยอื่น

          สำหรับทิศทางไตรมาส 1/2565 โดยรวม TAKUNI และบริษัทย่อยยังดำเนินการได้ปกติ โดยในปี 2565 จะเห็นสัดส่วนรายได้หลักมาจากธุรกิจก่อสร้างให้ลูกค้าในอุตสาหกรรมน้ำมัน ก๊าซ และปิโตรเคมี ซึ่งมีลูกค้าเป็นกลุ่มบริษัท Oil & Gas ปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) กว่า 4.15 พันล้านบาท โดยจะสามารถทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้กว่า 2 พันล้านบาท หรือกว่า 60% ของมูลค่างานทั้งหมด ในขณะเดียวกัน CAZ ยังคงเดินหน้าประมูลงานใหม่ๆ โดยปี 2565 เตรียมประมูลงานใหม่อีกกว่า 8 โครงการ รวมอีกประมาณ 4.7 พันล้านบาท

          บุ๊กส่วนแบ่งกำไร

          อีกทั้งในปี 2565 บริษัทจะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท เอ็กซ์แซคท์ เรียลเอสเตท จำกัด ซึ่ง TAKUNI ถือหุ้นในสัดส่วนราว 30% และบริษัท เอซ เอสเตท กรุ๊ป จำกัด ในสัดส่วน 70% โครงการแรกมีมูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท เปิดก่อสร้าง 3 เฟส จากทั้งหมด 4 เฟส ปัจจุบันมียอดจองซื้อบ้านแล้วจำนวน 73 หลัง จากทั้งหมด 95 หลัง และคาดจะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ได้เร็วๆ นี้

          ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนจะเปิดโครงการอสังหาริมทรัพย์โครงการใหม่ เบื้องต้นคาดจะมีมูลค่าใกล้เคียงกับโครงการแรกที่ 700-800 ล้านบาท โดยบริษัทเตรียมเงินไว้สำหรับซื้อที่ดินและก่อสร้างโครงการรวม 100 ล้านบาท

          “ปีนี้เราจะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากอสังหา เข้ามา ถ้าได้เข้ามาตามแผน น่าจะช่วยผลักดัน มาร์จิ้นให้เติบโตเพิ่มขึ้น เพราะปีก่อนผล ประกอบการเราเติบโตดี แม้จะยังไม่มีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมทุนอสังหา เข้ามา” นางสาวนิตา กล่าว

ที่มา:

คลิกเครื่องหมาย เพื่อเพิ่มลงตะกร้าเก็บทรัพย์ที่สนใจ หรือกดอีกครั้งเพื่อลบออก
คลิกเพื่อเลือก บ้านที่ต้องการแล้วกดปุ่ม "เปรียบเทียบ" ได้เลย