SENA เดินหน้าลุยโค้งท้าย เปิด 4 โครงการใหม่อัพขาย
SENA ฉายภาพไตรมาส 4/2565 คึกคัก เตรียมเปิดตัว 4 โครงการใหม่ หวังดันยอดขายรวมแตะ 1.39 หมื่นล้านบาท แย้มมาตรการ LTV ที่กำลังจะหมดลงเข้ามาช่วยเร่งการโอนปลายปี พร้อมยังมีอีก 4 โครงการสร้างเสร็จพร้อมโอนเข้ามาเพิ่ม หนุนยอดโอนเข้าเป้า 1.21 หมื่นล้านบาท อวดแบ็กล็อกหนา 8.9 พันล้านบาท กว่า 62% รับรู้เข้าเป็นรายได้ในปีนี้
นางสาวอธิกา บุญรอดชู ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดสรรเงินทุนและการลงทุน บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เปิดเผยว่าภาพรวมธุรกิจและอุตสาหกรรมในช่วงไตรมาส 4/2565 คาดว่าจะมีการขยายตัวที่ดีอย่างต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,046.5 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 76.9 ล้านบาท โดยมียอดขายสะสมรวมอยู่ที่ 42,331.2 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 30,184.4 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 71.3% และสัดส่วนที่เหลือ 28.7% เป็นโครงการแนวราบ ประกอบด้วย บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และอาคารพาณิชย์ 12,146.8 ล้านบาท
แบ็กล็อกแน่น โดยแผนการดำเนินงานในไตรมาส 4/2565 บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มอีก 4 โครงการ ได้แก่ โครงการ Sena Ville Ramindra Phase3, Flexi Suksawat 13, Flexi Sathon - Charoen - nakhon Phase 2 และ Sena Kith Rattanathibat-Bangbuathong เป็นต้น ซึ่งคาดว่าจะเข้ามาช่วยสร้างยอดขายใหม่ได้เพิ่มอย่างต่อเนื่อง จากในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 ที่เปิดตัวโครงการใหม่ไปแล้วจำนวน 9 โครงการ สร้างสามารถสร้างยอดขายไปได้แล้วกว่า 8,857 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 63% ของเป้ายอดขายรวมทั้งปีนี้ที่บริษัทวางไว้ที่ 13,979 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทมียอดการโอนกรรมสิทธิ์อยู่ที่ 4,205 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 35% ของเป้าหมายยอดโอนทั้งปีนี้ที่วางไว้ที่ 12,188 ล้านบาท โดยในช่วงไตรมาส 4/2565 จะมีโครงการใหม่ที่จะสร้างเสร็จและเริ่มทยอยโอนกรรมสิทธิ์ให้กับลูกค้าเพิ่มเติมอีกจำนวน 4 โครงการ ได้แก่ Niche Mono Ramkhamhaeng มูลค่า 5,128 ล้านบาท, Sena Kith Westgate Bangbuathong มูลค่า 340 ล้านบาท, Flexi Rattanathibet มูลค่า 1,262 ล้านบาท และ Sena Kith MRT Bangkae 805 ล้านบาท ที่จะเข้ามาสนับสนุนให้ยอดการโอนกรรมสิทธิ์เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
รวมถึงมีโครงการที่โอนต่อเนื่องมาจากไตรมาส 3/2565 อีกจำนวน 2 โครงการ คือ Niche Mono Chaengwatthana มูลค่า 2,466 ล้านบาท และ Sena Kith Thepharak Bangbo มูลค่า 345 ล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทยังมียอดขายในมือที่รอการโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) ณ สิ้นเดือนกันยายน 2565 อยู่ที่ 8,907 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนออกเป็นโครงการคอนโด Sena Hankyu JV 82%, Condo Sena 10%, Housing Sena 6% และ Housing Sena Hankyu JV 2% เป็นต้น ซึ่งคาดว่ากว่า 62.8% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 5,593 ล้านบาท จะสามารถทยอยโอนกรรมสิทธิ์และรับรู้เข้ามาเป็นรายได้ในปี 2565
LTVกระตุ้นโอน
นอกจากนี้ บริษัทยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและพร้อมขายในมือ มูลค่ารวมกว่า 22,758 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนออกเป็นโครงการคอนโด Sena Hankyu JV 54%, Housing Sena 25%, Condo Sena 14% และ Housing Sena Hankyu JV 7% เป็นต้น ซึ่งส่วนหนึ่ง เป็นโครงการที่สร้างแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่ มูลค่าประมาณ 5,563 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการคอนโด Sena Hankyu JV 71%, Condo Sena 17%, Housing Sena 10% และ Housing Sena Hankyu JV 2% เป็นต้น ที่คาดว่าจะเข้ามาช่วยสร้างยอดขายและยอดโอนได้เพิ่มในช่วงที่เหลือของปีนี้
“บรรยากาศในช่วงปลายปี 2565 นี้ จะค่อนข้างคึกคัก หลักๆ เป็นเพราะการผ่อนคลายมาตรการ LTV ของภาครัฐที่กำลังจะสิ้นสุดลงในเดือนธันวาคมปีนี้ ทำให้ลูกค้าเริ่มเร่งการโอนกรรมสิทธิ์กันจำนวนมาก ซึ่งก็คาดว่าจะเป็นอีกแรงขับเคลื่อนที่เข้ามาช่วยสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานในปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ อย่างไรก็ดี ปัจจุบันเรามียอดการปฏิเสธสินเชื่ออยู่ที่ประมาณ 13-15% ซึ่งกว่า 5-8% นั้นเป็นส่วนที่กู้ไม่ผ่าน สำหรับในปี 2566 ยังเป็นปีที่ต้องให้การติดตามต่อไปว่าภาครัฐจะมีการออกมาตรการใหม่เข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจและอสังหา เพิ่มเติมอีกหรือไม่” นางสาวอธิกา กล่าว
ที่มา: หนังสือพิมพ์ทันหุ้น