SC เร่งปั๊มยอดโค้งท้ายเปิดตัว2โครงการใหม่
SC มั่นใจยอดพรีเซลปี 2564 เข้าเป้าเติบโต 20,000 ล้านบาท ปัจจุบันรอรับรู้งานในมือมูลค่า 8,694 ล้านบาท คาดรับรู้ปีนี้ประมาณ 5,239 ล้านบาท พร้อมส่งท้ายปี 2564 เตรียมเปิด 2 โครงการ ใหม่ ลุยซื้อที่ดินเพิ่มพัฒนาโครงการใหม่ปีหน้า เล็งเปิด 3 โครงการทั้งแนวราบ - คอนโด มุ่งเพิ่มพอร์ตรายได้ประจำ และเดินหน้าลงทุนในต่างประเทศ
นางปรารถนา แพทย์สมาน หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC เปิดเผยว่า บริษัทยังมั่นใจว่า ยอดพรีเซล (Pre-Sale) ปี 2554 จะเติบโตที่ 20,000 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่ วางไว้ ส่วนรายได้คาดว่าจะอยู่ที่ 19,000 ล้านบาท
สำหรับทิศทางผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสที่ 4/2564 บริษัทยังเน้นขายโครงการแนวราบ ซึ่งเป็นพอร์ตหลักของทางบริษัท ในขณะเดียวกันบริษัทก็ยังเร่งการขายโครงการคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จพร้อมขาย เพื่อเร่งสร้างรายได้ กลับมา
นอกจากนี้บริษัทได้วางแผนการซื้อที่ดินเพิ่มเพื่อพัฒนาโครงการในปีถัดไป โดยในปี 2564 บริษัทได้วางเป้างบซื้อที่ดินไว้กว่า 10,000 ล้านบาท เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทมีโครงการที่ปิดการขายจำนวนหลายโครงการ ซึ่งบริษัทต้องเตรียม เปิดโครงการใหม่ทั้งแนวราบ และคอนโดมิเนียมเพื่อรองรับการเติบโต
Q4 เปิดโครงการเพิ่ม
สำหรับในช่วงไตรมาสที่ 4/2564 บริษัทเตรียมเปิดโครงการใหม่จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ เวนิว ไอดี พระราม 5 จำนวน 66 ยูนิต มูลค่า 500 ล้านบาท และโครงการ เวนิว ไอดี เวสท์เกต จำนวน 189 ยูนิต มูลค่า 1,290 ล้านบาท ซึ่งในปี 2564 บริษัทมีการเลื่อนเปิดโครงการออกไปบางส่วน ในปี 2565 สำหรับปี 2565 บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่เบื้องต้นจำนวน 3 โครงการ ปัจจุบันมีที่ดินรองรับแล้ว
ทั้งนี้บริษัทมีโครงการที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 ทั้งหมด 8,694 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการ คอนโดมิเนียม 4,123 ล้านบาท และโครงการแนวราบ 4,571 ล้านบาท ซึ่งคาดว่า จะรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 5,239 ล้านบาท หรือประมาณ 60% ส่วนที่เหลือ 3,455 ล้านบาท เป็นโครงการคอนโดมิเนียม ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง จำนวน 3 โครงการ ซึ่งจะทยอยรับรู้ในครึ่งปีหลังของปี 2565
นอกจากนี้บริษัทยังต้องการเพิ่มพอร์ตรายได้ประจำ (Recurring Income) จากปัจจุบันบริษัทมีอาคารสำนักงานให้ เช่าจำนวน 6 แห่ง ซึ่งมีอัตราการเช่า (Occupancy) อยู่ที่ 92% ปัจจุบันมีรายได้ เฉลี่ยประมาณ 200 ล้านบาทต่อไตรมาส
ลงทุนต่างประเทศ
ด้านการลงทุนในต่างประเทศ บริษัท ได้จัดตั้ง SC ALPHA INC. ในประเทศสหรัฐ ซึ่งจะลงทุนด้านในอสังหาริมทรัพย์ โดยบริษัทตั้งงบลงทุนไว้จำนวน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อใช้ลงทุนในช่วง ปี 2564-2566 โดยที่ผ่านมาได้ซื้อเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์แล้วจำนวน 2 แห่ง มูลค่า 24 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปัจจุบันมี อัตราการเช่า (Occupancy) อยู่ประมาณ 93%
และบริษัทยังได้เข้าไปลงทุนใน กองทุนอสังหา เพื่อเช่ามูลค่าการลงทุนจำนวน 7.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นประมาณ 5% ของมูลค่ากองทุนทั้งหมด ซึ่งยังเหลืองบลงทุนเพื่อใช้อีกราว 68 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง
บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 4/2564 จะเป็นจุดสูงสุดของปีที่ 550-600 ล้านบาท+/- หนุนจาก Backlog ที่คาดรับรู้เป็นรายได้ในช่วงไตรมาส 4/2564 ที่ 5.2 พันล้านบาท (แบ่งเป็นแนวราบ- แนวสูงที่ 4.6 พันล้านบาทและ 668 ล้านบาท) คิดเป็น Secured Revenue กว่า 104% เมื่อเทียบกับประมาณการรายได้ปี 2564 ของเราที่ 1.8 หมื่นล้านบาท และ 98% เมื่อเทียบกับเป้าหมายรายได้ปี 2564 ของบริษัทที่ 1.9 หมื่นล้านบาท
และการปลดล็อกมาตรการ LVT ของธปท.ในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2564 (สิ้นสุดในวันที่ 31T.8.2565) จะเป็น แรงหนุนสำคัญในการระบาย Inventory โดยเฉพาะสินค้าแนวสูงพร้อมโอน (Ready-to-Move) ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ราว 5.4 พันล้านบาท อีกทั้งแผนการเปิดตัวโครงการแนวราบใหม่ในช่วงไตรมาส 4/2564 จำนวน 1.8 พันล้านบาท คาดว่าจะสามารถรับรู้ยอดโอนได้ภายในไตรมาส คงคำแนะนำ"ซื้อ” ราคาเป้าหมาย ปี 2565 ที่ 4.50 บาทต่อหุ้น
ที่มา: หนังสือพิมพ์ทันหุ้น
