RICHY ยอดโอนแน่น ปักหมุดปีมังกรทอง รายได้ทะลัก 100%
RICHY เปิดแผน ปี 2567 ตั้งเป้ารายได้โตกระฉูด 100% จากปีก่อน ผลจากมียอดขายรอโอนกว่า 1,600 ล้านบาท และรับรู้รายได้จากการบริหารพื้นที่เช่าเพิ่มขึ้น ฟากซีอีโอ “พิชญา ตันโสด” เผยแคมเปญใหญ่ กระตุ้นยอดขาย 15 โครงการเดิม พร้อม คาดโครงการ “ริชพอยท์ วุฒากาศ” มูลค่ารวม 1,800 ล้านบาท ก่อสร้างแล้ว เสร็จพร้อมโอนได้ภายในปลายปีนี้ ดันยอดขายรวมแตะ 2,300 ล้านบาท
นางสาวพิชญา ตันโสด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ริชี่ เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) หรือ RICHY กล่าวว่า แผนดำเนินธุรกิจใน 2567 บริษัทได้ตั้ง เป้ายอดขายไว้ที่ 2,300 ล้านบาท จากโครงการที่มีอยู่ทั้งหมด 15 โครงการ โดยปัจจุบันบริษัทมีมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) ประมาณ 1,600 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ปี 2567 ราว 80-90% รวมทั้งเน้นออกแคมเปญ พิเศษส่งเสริมการขายให้กับลูกค้าอย่าง ต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจ ได้ง่ายขึ้น อีกทั้งมีการขยายงานด้านการบริหารงานเช่า โดยบริษัท ริชี่เพลซ พัฒนา 2562 จำกัด เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด
“ในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีรายได้ เพิ่มขึ้น เนื่องจากรับรู้ยอดขายโครงการ ในมือ และมีโครงการใหม่ที่สร้างเสร็จ ได้แก่ โครงการริชพอยท์ วุฒากาศ ซึ่งมีมูลค่าโครงการรวม 1,800 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยมีความ คืบหน้าไปพอสมควรแล้ว บริษัทคาดว่า จะสร้างเสร็จเปิดขาย พร้อมโอนได้ภายใน ปีนี้ โดยคาดว่าจะใช้งบลงทุนอีก 500- 1,000 ล้านบาท” นางสาวพิชญา กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังคงเดินหน้า โครงการ IP Program ซึ่งเป็นโปรแกรม การลงทุนรูปแบบใหม่ ที่นำมาต่อยอด สร้างช่องทางเพิ่มรายได้ให้กับลูกบ้าน เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2566 ปัจจุบัน บริษัทนำโครงการคอนโดมิเนียม เข้าโครงการ IP Program แล้วจำนวน 5 โครงการ ซึ่งแต่ละโครงการได้รับ ผลตอบรับเป็นอย่างดีเกินความคาดหมาย ส่วนโครงการ RICH WALK ซึ่งเป็น LIFESTYLE MALL ติดรถไฟฟ้าทำให้ สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย ยังคงได้รับปัจจัยบวกจากการท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคัก ส่งผลให้มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับภาพรวมธุรกิจอสังหา- ริมทรัพย์ปี 2567 คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวดีขึ้นหากเทียบกับปีก่อน โดยได้ รับปัจจัยบวกจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ของรัฐบาล เช่น ต่ออายุมาตรการลด ค่าจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์ จาก 2% เหลือ 1% และลดค่าจดทะเบียน การจำนองอสังหาริมทรัพย์จาก 1% เหลือ 0.01% ถือเป็นการลดภาระให้แก่ประชาชน ที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง และทำให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้ง่ายขึ้น
ที่มา: ทันหุ้น