NWR ลุยงานใหม่เติมพอร์ต ทุ่มงบพันล.รุกฐานอสังหา
NWR เล็งเป้าโดดคว้างานใหม่ครึ่งปีหลัง 2565 อีกราว 10-15% จากงานที่ติดตามทั้งหมด 31,000 ล้านบาท ต่อยอด Backlog ปัจจุบัน 11,000 ล้านบาท และขยายโครงการอสังหาเพิ่ม ตั้งงบลงทุน 1,000 ล้านบาท ขยายโครงการบ้านเดี่ยวเตรียมโอนปลายปีนี้ คงเป้าผลการดำเนินงานทั้งปี 2565 เติบโต 20-30%
นายปสันน สวัสดิ์บุรี รองกรรมการ ผู้จัดการอาวุโส บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) หรือ NWR เปิดเผยถึงทิศทางธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 ว่าบริษัทยังเดินหน้าแผนดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้บริษัทมีแผนเข้าประมูลงานใหม่ๆ เข้ามา ปัจจุบันอยู่ระหว่างติดตามงานภาครัฐ งานโครงการ โรงไฟฟ้า ทั้งขนาดใหญ่ กลาง เล็ก ทั้งของภาครัฐและเอกชน, โครงการก่อสร้างท่าเรือ, ระบบราง และทางด่วน เป็นต้น และงานอื่นๆ มูลค่ารวม 31,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยเริ่มประกาศผล และเซ็นสัญญางานในช่วงที่หลังของปีนี้ โดยบริษัทหวังว่าจะมีงานเข้ามาเพิ่มราว 10 -15%
โดยล่าสุดบริษัทได้รับงานขนาดใหญ่เข้ามา โดยเป็นกิจการร่วมค้า เอ็นที ซึ่งประกอบไปด้วย NWR และ บริษัท ถนอมวงศ์บริการ จำกัด หรือ TWS ได้ร่วมลงนามในสัญญาก่อสร้างกับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT
ในการทำโครงการก่อสร้างงานปรับปรุงคุณภาพดิน บริเวณลานจอด อากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบิน รอง หลังที่ 2 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยมีมูลค่าโครงการ 3,080 ล้านบาท ลักษณะงานจะเป็นงานปรับปรุงคุณภาพ ดิน บริเวณลานจอดอากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบิน โดยมีระยะเวลาก่อสร้าง 900 วัน นับจากวันที่แจ้งให้ เริ่มงาน
งานรัฐหนุนพอร์ต
โดยบริษัทมีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 11,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นสัดส่วนงานของบริษัทปัจจุบันยังเป็นงานภาครัฐกว่า 90% เนื่องจากสามารถคุมต้นทุนได้ เพราะเป็นสัญญาแบบปรับราคาได้ (ค่าK) และหากราคาวัสดุปรับตัวขึ้นภาครัฐจะช่วยชดเชยในส่วนต่างของบริษัทที่จะต้องแบกรับค่าใช้จ่ายนั้นแทน ซึ่งเป็นผลดีต่อสถานการณ์ปัจจุบันเนื่องจากราคาวัสดุต่างๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูง นอกจากนี้งานภาครัฐ ยังมีระยะเวลาค่อนข้างนานในการก่อสร้าง ทำให้ราคาต้นทุนมีความผวนแปร บางช่วงอาจจะราคาสูงหรือต่ำ
ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทยังมองว่าจะเติบโตตามเป้าหมายของบริษัทได้ 20 - 30% จากปีก่อนอยู่ที่ 11,212.85 ล้านบาท ประเมินจากทิศทางอุตสาหกรรมที่ทยอยฟื้นตัวขึ้น โดยเป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลาย และการรับรู้รายได้ของงานเข้ามาต่อเนื่อง
ลุยอสังหาอัพฐาน
สำหรับทิศทางด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่ดำเนินการภายใต้ บริษัท มานะ พัฒนาการ จำกัด นั้น ในปี 2565 บริษัทมีแผนจะเปิดโครงการใหม่ บ้านเดี่ยวรังสิต คลอง 3 มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ในช่วงการออกแบบและคาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างได้ในช่วงไตรมาสที่ 4/2565 รวมถึงคาดว่าจะสามารถโอนและรับรู้รายได้บางส่วนในช่วงสิ้นปีนี้
ขณะที่โครงการคอนโดมิเนียม ASPEN เฟส D สูง 20 ชั้น มูลค่าโครงการ 850 ล้านบาท ปัจจุบันยังไม่มีแผนก่อสร้างโครงการ โดยของรอทิศทางของภาคอสังหา ให้มีการฟื้นตัวที่ชัดเจนก่อนโดยคาดว่าคาดจะเปิดในปี 2566
นอกจากนี้บริษัทยังมีโครงการ คอนโดมิเนียมเหลือขาย คอนโดมิเนียม ASPEN เฟส B อีกราว 5% และคอนโดมิเนียม ASPEN เฟส c อีก 50% ซึ่งสามารถรอบรับการเติบโตของธุรกิจอสังหาของบริษัทในปีนี้ได้
ที่มา: หนังสือพิมพ์ทันหุ้น