MJD จ่อโอนคอนโดใหม่ใน Q2 มูลค่าโครงการ 1,350 ล้านบาท
MJD เผยล่าสุดแบ็กล็อก 5,463 ล้านบาท จ่อโอนคอนโดมิเนียม “เมทริส พัฒนาการ-เอกมัย” มูลค่า 1,350 ล้านบาท ในไตรมาส 2/64 พร้อมเดินหน้าเปิดตัว 5 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 11,300 ล้านบาท
นางสาวเพชรลดา พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MJD เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัทมียอดรอโอน (Backlog) มูลค่ารวม 5,463 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ตั้งแต่ไตรมาส 2/2564 เป็นต้นไป โดยในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ จะมีโครงการสร้างเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ใหม่ 1 โครงการ คือ โครงการเมทริส พัฒนาการ-เอกมัย เป็นคอนโดมิเนียมสูง 29 ชั้น จำนวน 341 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,350 ล้านบาท
ขณะเดียวกันบริษัทยังมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ ตามแผนทั้ง 5 โครงการ มูลค่ารวม 11,300 ล้านบาท โดยจะนำร่องเปิดตัวด้วยโครงการ Malton Gates กรุงเทพกรีฑา มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท เป็นโครงการบ้านเดี่ยว ซึ่งจะช่วยผลักดันยอดขายและยอดโอนกรรมสิทธิ์ในปีนี้ให้เป็นไปตามเป้าหมาย
สำหรับสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาส 2/2564 ยังคงเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ระลอก 3 และอาจเกิดภาวะผิดปกติครั้งใหม่ หรือ New Abnormal คล้ายกับสถานการณ์ช่วงไตรมาส 2/2563 ที่เกิดสงครามราคามากกว่าปกติ (Abnormal Price War)
อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้จะเป็นช่วงเวลาที่ผู้บริโภคใช้เวลาพิจารณาตัดสินใจซื้อมากกว่าปกติ ผู้พัฒนาโครงการจำเป็นต้องออกมาตรการช่วยเหลือผู้บริโภคที่ไม่ใช่ราคาที่ถูกที่สุด แต่เป็นราคาและมาตรการช่วยเหลือที่เข้าใจผู้บริโภคที่สุด เพื่อให้กระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้อย่างตรงจุด สร้างยอดขายและยอดโอนกรรมสิทธิ์ได้อย่างต่อเนื่อง
นางสาวเพชรลดา กล่าวต่อว่า บริษัทได้เจรจาร่วมกับพันธมิตรทางการเงินในการออกมาตรการปลดล็อก เพื่อคนอยากมีบ้าน ประกอบกับให้คำแนะนำและเป็นที่ปรึกษาด้านการเงินสำหรับการกู้ซื้อบ้าน, ช่วยลดภาระการผ่อนชำระนานสูงสุด 2 ปี, โปรแกรมเช่าพร้อมเข้าอยู่ก่อนโอนโครงการ เป็นระยะเวลา 2 ปี, พร้อมรับฟรีความคุ้มครองที่ครอบคลุมจากทิพยประกันภัย เมื่อซื้อโครงการจาก MJD และรับสิทธิ์ผ่อน 0% สำหรับเงินจองและเงินทำสัญญา นาน 6 เดือน เป็นต้น ซึ่งคาดว่าจะเริ่มใช้มาตรการดังกล่าวได้ในช่วงกลางเดือน พ.ค.นี้
นอกจากการทำกลยุทธ์ด้านการตลาดแล้ว MJD ยังเดินหน้าสู่การเป็นผู้พัฒนารูปแบบการใช้ชีวิต (Lifescape Developer) และขยายพอร์ตสู่กลุ่มธุรกิจใหม่ (Business Diversification) คือ กลุ่ม Healthscape อย่างต่อเนื่อง เพื่อกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ และก้าวเข้าสู่ธุรกิจที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคในระยะยาว โดยคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากกลุ่มธุรกิจใหม่ในช่วงปลายปี 2564
ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น
