DRT ไฮซีซันดันยอดขาย เล็งออกสินค้าใหม่อัพเป้า

          DRT ฉายแววยอดขายไตรมาส 1/2565 เด่น หลังเข้า ไฮซีซัน รับเศรษฐกิจ-กำลังซื้อฟื้น ลูกค้าเอกชนเร่งส่งมอบโครงการดันยอด อวดอัตราการใช้กำลังการผลิตสูงกว่าเป้า 95% เล็งออกผลิตภัณฑ์ใหม่กลุ่มไม้สังเคราะห์รองรับความต้องการเพิ่ม รับต้นทุนวัตถุดิบและค่าขนส่งสูงขึ้นกดดันมาร์จิ้นระยะสั้น

          นายสาธิต สุดบรรทัด ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT เปิดเผยว่า ยอดขาย 3 เดือนแรกของปี 2565 เติบโตดีกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน และดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า เป็นผลจากการเข้าไฮซีซันของธุรกิจ และยังมีแนวโน้มดีต่อเนื่องมาถึงเดือนเมษายนอีกด้วย ซึ่งสอดคล้องกับเศรษฐกิจและกำลังซื้อในประเทศที่มีการปรับตัวดีขึ้นมาตั้งแต่ช่วงปลายปีก่อนแล้ว

          ประกอบกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เริ่มเร่งส่งมอบงานให้กับลูกค้ามากขึ้น รวมถึงเดินหน้าลงทุนโครงการใหม่ๆ หลังจากที่ชะลอตัวไปในปีก่อน ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทยังได้รับออเดอร์จากกลุ่มลูกค้าอสังหาริมทรัพย์เข้ามาเพิ่มเติม ขณะเดียวกันผู้ประกอบการร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างทั้งที่เป็นโมเดิร์นเทรดและรายย่อยมีการสั่งสินค้าเพื่อเก็บสต๊อกรอการขายเพิ่มขึ้น ทำให้อัตราการใช้กำลังการผลิตตอนนี้อยู่ที่เฉลี่ยกว่า 95% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมาย 90% ที่วางไว้เล็กน้อย

          จ่อปรับราคาขาย

          ส่วนแผนการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทยังมีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในกลุ่มไม้สังเคราะห์เพิ่มเติม เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้แก่ผลิตภัณฑ์ที่เน้นฟังก์ชันที่สะดวก ง่ายต่อการติดตั้ง เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่กลุ่มช่างและผู้บริโภค ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ให้มาร์จิ้นที่ดีและได้กระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้าอยู่เสมอ พร้อมกันนี้ บริษัทยังคงให้ความสำคัญในการบริหาร Product Mix เพื่อรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับ 27-29% จากปี 2564 ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ระดับ 28.29%

          อย่างไรก็ดี ด้วยต้นทุนวัตถุดิบและค่าขนส่งที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่ามีผลกดดันมาร์จิ้นในไตรมาสแรกอยู่บ้าง และจากปัจจัยดังกล่าวทำให้ในไตรมาส 2/2565 อาจต้องมีการปรับราคาขายขึ้นเล็กน้อยราว 3-5% เพื่อสอดรับกับต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวสูง ทำให้มองว่าอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้จะปรับตัวดีขึ้นได้ ทั้งนี้ในปี 2565 บริษัทมั่นใจว่าการเติบโตของผลการดำเนินงานจะไม่น้อยกว่า 5% จากปีก่อน ใกล้เคียงกับการเติบโตของอุตสาหกรรม

          แนวโน้ม Q2 ยังโตดี

          บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง DRT ว่า คาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/2565 เติบโตเท่าตัวจากไตรมาสก่อนเป็น 184 ล้านบาท จาก 1.ไตรมาส 1 เป็นฤดูกาลขาย 2.ปรับ Product Mix 3.ขยับราคาขายเฉลี่ยขึ้น 3-5% และ 4.มี Economy of Scale จาก U-Rate ที่เพิ่มเป็น 95% (จาก 70% ในไตรมาส 4/64) แต่เมื่อเทียบ YoY กำไรสุทธิจะอ่อนลง 6% จากต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น คาดยอดขายในไตรมาส 1/2565 เติบโต 1.7% YoY และเพิ่มขึ้น 21.3% QoQ โดยการเพิ่มขึ้นจาก YoY มาจากราคาขายที่ปรับขึ้น ส่วนปริมาณขายอ่อนลงเล็กน้อย

          ด้านธุรกิจในไตรมาส 2/2565 ยังไปได้ดี ผู้บริหารระบุว่ายอดขายเติบโตได้เมื่อเทียบ YoY แต่จะอ่อนลงเล็กน้อยจาก QoQ และจะมีปรับขึ้นราคาขายอีกรอบในเดือนพฤษภาคม ทำให้ GPM ในไตรมาส 2/2565 น่าจะอยู่ในระดับ 27-29% ได้ จึงปรับลด คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2565-2566 ลง 6% และ 3% สะท้อนต้นทุนที่สูงขึ้น ยังส่งผลให้กำไรสุทธิจะอ่อนลง 3% เป็น 566 ล้านบาท ในปี 2565 แล้วกลับไปเพิ่มขึ้น 9% เป็น 615 ล้านบาท ในปี 2566 ตามลำดับ จากปัจจัยที่กล่าวมาทำให้แนะนำ “ถือ” ให้ราคาพื้นฐานไว้ที่ 8.30 บาท อิงกับ P/E ปีนี้ที่ 12.5 เท่า (จากเดิม 8.80 บาท) คาดการณ์ปันผลปี 2565-2566 ไว้ที่ 0.44 และ 0.47 บาทต่อหุ้น คิดเป็น DY 5.7% และ 6.1% ต่อปี (จ่ายปีละ 2 ครั้ง)

ที่มา: หนังสือพิมพ์ทันหุ้น