ANAN ยอดโอนโตสวนโควิดเปิด7โครงการ2.84หมื่นล.
ANAN กางแผนปี 2565 เตรียมเปิดโครงการใหม่ 7 โครงการ มูลค่ากว่า 2.84 หมื่นล้านบาท ตุนแบ็กล็อกในมือ 6.4 พันล้านบาท โชว์ผลงานปี 2564 มียอดโอนทะลุ 1 หมื่นล้านบาท และมียอดขายกว่า 1.27 หมื่นล้านบาท สวนวิกฤติโควิด ระบุไตรมาส 4/2564 ยอดโอนปรับตัวเพิ่มขึ้น 37%
นายเสริมศักดิ์ ขวัญพ่วง ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ AANN เปิดเผยว่า ในปี 2565 บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่ 7 โครงการ มูลค่ากว่า 28,400 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการคอนโดมิเนียม 5 โครงการ และโครงการแนวราบ 2 โครงการ ด้วยกลยุทธ์ ANANDA NEW BLUE มองหาโอกาสใหม่ๆ พร้อมแนวคิดการพัฒนาที่อยู่อาศัยและบริการในรูปแบบใหม่ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการชีวิตคนเมืองที่ปรับเปลี่ยนไปหลังโควิด รวมถึงการผนึกความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำระดับอินเตอร์เนชั่นแนล อาทิ มิตซุย ฟูโดซัง บีทีเอส กรุ๊ป เพรสซิเดนท์ ดี เวนเจอร์ ดุสิตธานี สแครทช์ เฟิร์สท์ และดิ แอสคอทท์ เป็นต้น
ฐานะการเงินแกร่ง
ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมา บริษัทประสบความสำเร็จในการขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิมซึ่งใช้สิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน จำนวน 1,274 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจของผู้ถือหุ้นที่จะเติบโตไปพร้อมกับบริษัท ซึ่งเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับสถานะการเงิน รวมทั้งยังทำให้บริษัทมีโครงสร้างเงินทุนหรืออัตราส่วนทางการเงินที่เหมาะสมต่อการขยายธุรกิจตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้
อีกทั้งในเดือนมกราคม ปี 2565 บริษัทยังประสบความสำเร็จในการออกหุ้นกู้ จำนวน 5,000 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและบริษัทยังคงได้รับการสนับสนุนต่อเนื่องจากสถาบันการเงินชั้นนำ และมีทางเลือกในการจัดหาแหล่งเงินทุนที่หลากหลายสามารถเลือกใช้ได้ตามสถานการณ์ นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายในการรักษาอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนไว้ไม่ให้สูงเกินไปภายใต้เป้าหมายระยะยาวที่ 1:1
ยอดโอนโต 37%
ส่วนผลการดำเนินการปี 2564 บริษัทสามารถทำผลงานใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ไว้ แม้ว่ามีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจ และประชาชนในวงกว้าง อย่างไรก็ตามผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2564 มีแนวโน้มที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2564 โดยมียอดโอนถึง 2,433 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 37% โดยเฉพาะยอดโอนจาก แนวราบที่ 593 ล้านบาท เติบโตกว่า 70% จากไตรมาส 3/2564
สำหรับในปี 2564 บริษัทมียอดโอน 10,014 ล้านบาท โดยยอดโอนแนวราบเพิ่มขึ้น 27% รวมถึงมียอดขายรวม 12,717 ล้านบาท ใกล้เคียงกับประมาณการ ซึ่งยอดขายส่วนใหญ่มาจากโครงการพร้อมอยู่ที่ความต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์มีอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังได้มีการปิดการขาย 4 โครงการ ได้แก่ โครงการไอดีโอ โมบิ วงศ์สว่าง-อินเตอร์เชนจ์ มูลค่า 1,573 ล้านบาท โครงการไอดีโอ โมบิ บางซื่อ-แกรนด์ อินเตอร์เชนจ์ มูลค่า 2,272 ล้านบาท โครงการไอดีโอ โมบิ อโศก มูลค่า 3,235 ล้านบาท และโครงการเอลลิโอ เดล มอสส์ มูลค่า 3,468 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์และกำลังซื้อของผู้บริโภคเริ่มฟื้นตัวกลับมา
คุมต้นทุนอยู่หมัด
สำหรับปี 2564 ที่ผ่านมา บริษัทได้มีการปรับตัวตามสถานการณ์เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา รวมถึงการรับมือกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่อาจจะเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายให้ลดลงได้ถึง 18% จากปีก่อน โดยในปี 2565 ได้มีสถาบันวิจัยหลายแห่ง เชื่อว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง
ซึ่งมีสัญญาณที่ดีจากการเริ่มทยอยเปิดโครงการใหม่ในช่วงปลายปี 2564 และตัวเลขความเชื่อมั่นของผู้บริโภคมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างชัดเจน ทำให้บริษัท เชื่อว่าในปี 2565 สถานการณ์จะเริ่มดีขึ้น ทุกอย่างจะกลับสู่ภาวะปกติ ผู้คนจะเริ่มกลับมาใช้ชีวิตในเมืองซึ่งสอดคล้องกับแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัท
ที่มา: หนังสือพิมพ์ทันหุ้น