ไนท์แฟรงค์ฯชี้คอนโดภูเก็ตซบยาว ลุ้นสิ้นปีจบโควิด ท่องเที่ยว-คอนโดฟื้น
ไนท์แฟรงค์ฯ เผยภาพรวมตลาดคอนโดภูเก็ตหดตัวต่อเนื่อง พบยอดเปิดตัวคอนโดใหม่ปี 63 เพียง 1,862 หน่วยจาก 7 โครงการ ลดลงจากปี 62 กว่า 65.97% ขณะปี 63 ยอดขายคอนโด 19,76 หน่วย คิดเป็น 75.7% จากซับพลายทั้งหมด 26,096 หน่วย คาดตลาดยังหดตัวต่อ ลุ้นครึ่งหลังปี 64 จบปัญหาโควิด-19 ดันท่องเที่ยวฟื้นหนุนอสังหาฯ ภูเก็ต
นายณัฎฐา คหาปนะ รองกรรมการ ผู้จัดการและหัวหน้าสำนักงานไนท์แฟรงค์ ภูเก็ต บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ตลาดคอนโดมิเนียมในภูเก็ตปี 64 คาดว่ายังคงชะลอตัวและได้รับผลกระทบอย่างหนักเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่สามารถเดินทางมาเที่ยวได้ ส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจยังไม่ขยับตัว ทำให้ภูเก็ตไม่มีรายได้จากนักท่องเที่ยวซึ่งเป็นรายได้หลัก
โดยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 64 ผู้ประกอบการยังคงชะลอการเปิดโครงการออกไปก่อนในช่วงนี้ และรอดูสถานการณ์การเปิดโครงการในช่วงครึ่งปี 64 อีกครั้ง แนวโน้มของการลงทุนจะเป็นโครงการขนาดเล็กและอาจจะเป็นการร่วมทุนกับนักลงทุนท้องถิ่นในภูเก็ต โดยคาดว่า เศรษฐกิจภูเก็ตในปี 64 ยังคงซบเซายาวไปถึงต้นปี 65
“เศรษฐกิจภูเก็ตอาจจะต้องใช้เวลาฟื้นตัวประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี และการฟื้นตัวน่าจะกลับมาเพียง 50% ของนักท่องเที่ยวเท่านั้น เพราะชาวต่างชาติยังไม่สามารถเดินทางมาท่องเที่ยว ได้ทั้งหมด และกลุ่มผู้ซื้อหลักที่คาดการณ์จากนี้น่าจะเป็นกลุ่มชาวจีน และรัสเซีย แต่ยุโรปอาจจะต้องรอไปอีกสักระยะจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 จะคลี่คลาย”
ทั้งนี้ คอนโดมิเนียมที่ชาวต่างชาติกลุ่มนี้จะซื้อนั้น จะเป็นอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยเป็นบ้านหลังที่สองมากกว่าการลงทุน เพราะมองว่าประเทศไทยเป็นเมืองที่ปลอดภัย น่าอยู่ มีมาตรฐานระบบการดูแลรักษาพยาบาลการควบคุมโรคระบาดที่ดี
ในส่วนของนักลงทุนคนไทยยังชะลอการลงทุนในด้านอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต เนื่องจากรอให้ชาวต่างชาติเริ่มกลับเข้ามาเที่ยว จึงจะเริ่มลงทุน โดยภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตจะกลับมาเติบโตได้อีกครั้งหลังปี65ตามแนวโน้มของการฟื้นตัวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ
จากผลวิจัยของไนท์แฟรงค์ฯ พบว่าปลายปี 63 ซัปพลายคอนโดฯ ภูเก็ตมีทั้งสิ้น 26,096 หน่วย เป็นคอนโดฯ เปิดขายใหม่ในปี 63 เพียง 1,862 หน่วย จากคอนโดฯ ทั้งหมด 7 โครงการ ทั้งนี้ จำนวนคอนโดฯ ที่เปิดขายในปี 63 ลดลงจากปี 62 ถึง 65.97% จากซัปพลายที่เปิดขายจำนวน 5,471 หน่วย ในปี 62 ลดลงเหลือเพียง 1,862 หน่วยในปี 63 ซัปพลายใหม่ที่ลดลงอย่างชัดเจน เนื่องมาจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ขณะที่ ในปี 63 มีคอนโดฯ ที่ขายไปทั้งสิ้น 19,761 หน่วย จากซัปพลายทั้งหมด 26,096 หน่วย คิดเป็น 75.7% ซึ่งปรับตัวเพิ่มจากปี 62 ทำให้มีจำนวนหน่วยเหลือขายประมาณ 6,335 หน่วย
อย่างไรก็ตามจำนวนหน่วยคอนโดฯ ที่ขายได้ใหม่ในปี 63 มีเพียง 1,966 หน่วย ซึ่งลดลงจากปี 62 ที่มีหน่วยขายอยู่ที่ 4,036 หน่วย ซึ่งเป็นผลมาจากขาดกำลังซื้อของชาวต่างชาติ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19
ที่มา: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา
