ยูโทเปียฯ ทุนจีนไม่หวั่นโควิดกางแผนปี64ผุด2วิลล่าในภูเก็ต
“ยูโทเปีย คอร์ปอเรชั่น” เดินหน้ารุกธุรกิจโรงแรม-อสังหาฯ ในภูเก็ตเต็มกำลัง เตรียมผุด 2 โปรเจกต์ใหม่ “ยูโทเปีย ถลาง” ที่อยู่อาศัยสไตล์ญี่ปุ่น และ “ยูโทเปีย ยามู” วิลล่าหรูสไตล์โมร็อกโก วางเป้าแต่ละปี ทุ่มเปิดโรงแรมปีละ 3 แห่ง แย้มสนใจเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นไทย
นายฮาชิ หยิน ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร ยูโทเปีย คอร์ปอเรชั่น เผยว่า ยูโทเปีย คอร์ปอเรชั่น ก่อตั้งขึ้นในปี 58 และเติบโตอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นหนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดในภูเก็ต โดยมีโครงการด้านการบริการ ที่อยู่อาศัย ร้านค้า และความบันเทิง ตั้งอยู่ทั่วเกาะภูเก็ต มุ่งเน้นการพัฒนาบนความสร้างสรรค์ที่ฉีกกฎเดิมๆ ภายใต้สโลแกน “กล้าที่จะฝัน” เพื่อตอบรับการใช้ชีวิตของยุคปัจจุบัน ที่ขับเคลื่อนด้วยโซเชียลมีเดีย
ล่าสุด บริษัทได้เดินหน้า 2 โครงการใหม่ โครงการแรกได้แก่ ยูโทเปีย ถลาง ตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือที่เงียบสงบของภูเก็ต ใกล้กับหาดไม้ขาว และห่างจากสนามบินนานาชาติเพียงไม่กี่นาที ออกแบบตกต่างภายใต้ธีม “เซน” (Zen) ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ประกอบด้วย วิลล่าสไตล์ญี่ปุ่นที่มีเสน่ห์ 129 หลัง มีขนาดตั้งแต่ 84 -150 ตารางเมตร โครงการนี้ได้เปิดตัวในเดือนมีนาคม 63 ที่ผ่านมา และสามารถปิดการขายได้ถึง 100 ยูนิตแล้ว ผ่านวิดีโอคอลและแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้ซื้อชาวจีน ยุโรป และออสเตรเลีย
โครงการที่สอง คือ ยูโทเปีย ยามู โครงการลำดับที่ 9 ของ ยูโทเปีย คอร์ปอเรชั่น ที่อยู่อาศัยสุดหรูคอนเซ็ปต์โมร็อกโก ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกของเกาะภูเก็ต ใกล้กับอ่าวปอแกรนด์มารีน่า ประกอบด้วยวิลล่า 81 หลัง (ขนาดตั้งแต่ 68-136 ตร.ม.) ซึ่งห้องตัวอย่างจะแล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ 64 นี้
ปัจจุบัน ยูโทเปีย คอร์ปอเรชั่น ดำเนินงานการพัฒนาและขายอสังหาริมทรัพย์ 7 แห่ง รวมถึงดำเนินธุรกิจโรงแรมในเครืออีก 3 แห่งในภูเก็ต ได้แก่ ยูโทเปีย กะตะ, ยูโทเปีย ลอฟท์ และ ยูโทเปีย ในหาน ซึ่งได้รับการเสนอชื่อให้เป็นโรงแรมที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของเอเชีย “Asia’s Top Emerging Hotel” จากรางวัล Now Travel Asia ล่าสุด เตรียมเปิดให้บริการโรงแรมแห่งใหม่บนเกาะภูเก็ต ภายใต้แบรนด์ “โทนิโน ลัมโบร์กีนี” แห่งแรกในประเทศไทย
ส่วนแผนการดำเนินงานหลังจากนี้ จะมีการพัฒนาโรงแรมในช่วง 3 ปี (64-66) อย่างน้อยปีละ 3 แห่ง และมีแผนที่จะเข้าจดทะเบียน ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ ไทย (SET) ภายใน 5 ปีข้างหน้า เพื่อเป็นการสร้างความมั่นคงและความแข็งแกร่งให้กับบริษัท
ที่มา: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา