NUSAลุยพัฒนา Tech มิติใหม่ลงทุนอสังหาฯ เดินหน้าผุดแพลตฟอร์ม
นางศิริญา เทพเจริญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA เปิดเผยว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตประจำวัน บริษัทจึงได้นำนวัตกรรมทางความคิดมาผนวกกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย จนเกิดเป็น NUSA Tech (ณุศา เทค) ซึ่งปัจจุบันเป็นแผนกหนึ่งในธุรกิจ และในอนาคตบริษัทจะเน้นให้ความสำคัญกับ “NUSA Tech” มากขึ้น
“ต่อไปนี้ NUSA จะเน้นให้ความสำคัญกับเรื่องของ Tech มากขึ้น โดยจะทำควบคู่กับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีอยู่ทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนารวม จำนวน 11 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 70,000 ล้านบาท และไม่มีแผนจะซื้อที่ดินเพิ่มแล้ว เพราะเราจะพัฒนาเฉพาะที่มีอยู่ในปัจจุบัน” นางศิริญา กล่าว
สำหรับ Nusa Tech ประกอบด้วย กลยุทธ์ 3+6+1 ประกอบด้วยแพลตฟอร์มยักษ์ 3 ด้าน เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมภายในประเทศ ทั้งด้านการท่องเที่ยว การแพทย์ และการค้าออนไลน์ ขณะเดียวกันยังมี 6 แพลตฟอร์ม ที่จะมาเป็นระบบรองรับในรูปแบบ Supply Chain และอีก 1 แพลตฟอร์ม ในการซื้อขายรูปแบบใหม่ของวงการอสังหาริมทรัพย์
โดย 3 แพลตฟอร์มแรก จะพร้อมใช้ในปี 2564 เพื่อรองรับความต้องการของนักธุรกิจและคู่ค้าทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ประกอบด้วย 1.แพลตฟอร์มที่เกี่ยวกับการค้าออนไลน์ Thailand Showroomที่จะเชื่อมต่อและผลักดันให้สินค้าไทยออกสู่ตลาดโลกผ่านโลกดิจิทัลที่ไร้พรมแดน
2.แพลตฟอร์มที่โดดเด่นด้านการแพทย์และสุขภาพ P.A.L.P by WMA (world medical alliance) โดยร่วมมือกับ Thailand Elite card และมีเป้าหมายจะดึงนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่ใส่ใจด้านสุขภาพ และ 3.แพลตฟอร์ม Safe-T Travel จะใช้เทคโนโลยีเพื่อออกแบบการท่องเที่ยวส่วนบุคคล เพื่อรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
ขณะเดียวกัน Nusa Tech ยังพัฒนาแพลตฟอร์มอัจฉริยะ 6 ด้าน ที่จะมาเติมเต็มให้ครบวงจรในรูปแบบ Ecosystem ซึ่งจะพร้อมใช้ในปี 2564 หรือปี 2565 ประกอบด้วย 1.แพลตฟอร์ม Smart factories and warehouses, 2.แพลตฟอร์มพัฒนาระบบการจัดเก็บสินค้าระดับอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยี 3.แพลตฟอร์ม Smart food agriculture ที่จะมาผลักดันการเกษตรอย่างเป็นระบบ, 4. แพลตฟอร์ม Delivery พัฒนาการขนส่งที่ครอบคลุมทุกพื้นที่, 5.แพลตฟอร์ม Export and Shipping พัฒนาการส่งออกให้สะดวกและรวดเร็ว และ 6.แพลตฟอร์ม Nusa Money ที่จะมาเชื่อมโยงทุกแพลตฟอร์มด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัลใบเดียว
นอกจากนี้ ยังมีแพลตฟอร์ม Nusa Digital Asset เป็นการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์รูปแบบใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain มาช่วยทำให้การซื้อขายสะดวกสบายขึ้น มีความคล่องตัวในการซื้อขายและโอนกรรมสิทธิ์ต่างจากการซื้อขายแบบเดิม และพิเศษสำหรับผู้ซื้อต่างชาติที่ซื้อด้วยมูลค่า1ล้านเหรียญสหรัฐ จะได้รับวีซ่า 20 ปี ทั้งนี้ Nusa Digital Asset ถือเป็นการซื้อขายรูปแบบใหม่ในยุคดิจิทัลที่จะมาทดแทนการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์แบบเดิม ๆ ในอนาคต
ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น