รัฐบาลใหม่มาช้าป่วน อสังหาฯ
สัญญาณลังเลซื้อเริ่มลามถึงบ้านหรู
‘แสนสิริ-โนเบิล’ งัดกลยุทธ์ชิงยอด
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหาร สายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ทั้งตลาดระดับล่างถึงระดับบนผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย เนื่องจากยังไม่มีความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจและรอดูการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ทำให้ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วง ไตรมาส 3 น่าจะชะลอตัว และหลังมีรัฐบาลใหม่แล้ว คาดว่าไตรมาส 4 น่าจะกลับมาคึกคักมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดระดับกลางและระดับบนที่ยังมีกำลังซื้อและตลาดยังพอไปได้ แต่ยังไม่ดีมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ตลาดระดับล่างยังมีปัญหากู้ไม่ผ่านจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม ในครึ่งปีแรก ของปี 2566 บริษัทสร้างยอดขายได้แล้ว 25,000 ล้านบาท เติบโต 37% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 ยังมั่นใจตลอด ทั้งปีนี้จะมียอดขายตามเป้า 55,000 ล้านบาท
นายอุทัยกล่าวว่า สำหรับบริษัทได้กระตุ้นกำลังซื้อในไตรมาส 3 โดยนำ บ้าน ทาวน์โฮม คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ รวม 76 โครงการ จัดโปรโมชั่นพิเศษ เช่น บ้านเดี่ยว บ้านแฝด 33 โครงการ จัดโปร ติดสปีด ดีลด่วนทันใจ มอบส่วนลดสูงสุด 3 ล้านบาท ดอกเบี้ยต่ำ 1.99% นาน 3 ปี ทาวน์โฮมพร้อมอยู่ 25 โครงการ จัดโปรหมูๆ กู้เกิน 100% รับเงินคืนสูงสุด 3 แสนบาท กู้เกิน 100% ดอกเบี้ยต่ำ 0% นาน 1 ปี เป็นต้น จัดถึงวันที่ 30 กันยายน 2566 ตั้งเป้ายอดโอนไตรมาส 3 ไว้ที่ 11,000 ล้านบาท
นายธงชัย บุศราพันธ์ รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ บริษัทมียอดขาย 13,000-14,000 ล้านบาท คาดถึงสิ้นปี 2566 จะมียอดขาย 23,000 ล้านบาท และรายได้รวม 15,000 ล้านบาท ตามเป้าที่วางไว้ ซึ่งบางส่วนมีรับรู้รายได้จากการขายหุ้นและการบริหารโครงการต่อเนื่องในโครงการ นิว ดิสทริค อาร์ 9 และโครงการนิว ครอส คูคต สเตชัน ให้บริษัท พราว เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ประกอบกับภาพรวมตลาดอสังหาฯอีก 6 เดือนจากนี้ น่าจะดีขึ้น เนื่องจากเลยจุดต่ำสุดช่วงโควิดมาแล้ว รวมถึงสถานการณ์การเมืองน่าจะคลี่คลาย หลังมีรัฐบาลใหม่ในเดือนสิงหาคมนี้ จึงทำให้ความเชื่อมั่นต่างๆ กลับมา ขณะที่อัตราดอกเบี้ยน่าจะถึงจุดสูงสุดแล้วปลายปีนี้
“ตอนนี้ดีมานด์ต่างชาติเริ่มกลับมาแล้ว บริษัทมียอดขายจากลูกค้าต่างชาติสูงพอสมควร โดย 6 เดือนที่ผ่านมา มียอดขายกว่า 4,000 ล้านบาท จากเป้ายอดขายต่างชาติทั้งปีนี้ไว้ที่ 7,000 ล้านบาท ลูกค้าหลักมาจากหลายสัญชาติ อย่าง ฮ่องกง ไต้หวัน เมียนมา ส่วนจีนยังมีไม่มาก คงเป็นเพราะความไม่สะดวกในการเดินทาง หวังว่าครึ่งหลังปีนี้ ลูกค้าจะกลับมาคึกคักมากขึ้น” นายธงชัยกล่าว
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน