ตลาดอสังหา พูลวิลล่าไทย เข้ายุคอิ่มตัว
รอกำลังซื้อต่างชาติ-จีนคัมแบ๊ก
พลิกเกมผุดโฉมบ้านราคาเอื้อมถึง
ศูนย์ข้อมูลวิจัย AREA เผยผลสำรวจตลาดพูลวิลล่าไทย เข้าภาวะอิ่มตัว ทั้งเช่าและขายสะสม 8 พันยูนิต มูลค่า 6.4 หมื่นล้าน กระจายปักหมุดเมืองท่องเที่ยว ‘ออเนอร์กรุ๊ป‘แลนด์ลอร์ดพัทยา ทุ่ม 1.4 พันล้าน ผุด 2 โครงการ เริ่ม 8-40 ล้าน รับจีนคัมแบ๊ก ‘ฮาบิแทท‘ลุยเฟส 2 เพิ่มบ้านแพงเจาะเศรษฐีไทย-เทศ ราคาที่ดินติดหาดจอมเทียนพุ่งวาละ 1 ล้าน
นายโสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด (AREA) เปิดเผยว่า ปัจจุบันโครงการพูลวิลล่าเป็นอสังหาริมทรัพย์ประเภทหนึ่ง ที่มีการพัฒนามากขึ้น ซึ่งในประเทศไทยมีทั้งขายและให้เช่าประมาณ 8,000 หน่วย ราคาเฉลี่ย 8 ล้านบาทต่อหลัง รวมมูลค่าตลาด 64,000 ล้านบาท โดยแต่ละโครงการเป็นจำนวนเงินลงทุนไม่มากนัก กระจายอยู่ตามเมืองท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต กระบี่ พังงา สมุย หัวหิน ชะอำ พัทยา ระยอง เป็นต้น ซึ่งกลุ่มชาญอิสระเป็นรายแรกนำแนวคิดพูลวิลล่าเข้ามาในประเทศไทย คือ โครงการศรีพันวา ภูเก็ต และหัวหิน ต่อมามีผู้สร้างพูลวิลล่าราคาย่อมเยา เช่น 5 ล้านบาท ทำให้แนวคิดสร้างพูลวิลล่าเปลี่ยนไปจากหรูหรา เป็นบ้านจัดสรรแบบบ้านเดี่ยวมีสระว่ายน้ำส่วนตัวแทน
“การขายพูลวิลล่าในปัจจุบันอาจ ไม่คึกคักเท่าก่อนปี 2563 หรือช่วงโควิด-19 คงไม่ใช่เพราะต่างชาติไม่ได้มาซื้อ แต่เป็นความอิ่มตัวของตลาดมากกว่าและ ผู้ประกอบการปรับตัวโดยสร้างตามยอดที่ลูกค้าจอง ไม่ได้สร้างเพื่อรอการขยายแบบบ้านจัดสรรทั่วไป” นายโสภณกล่าว
นายคริส เชิดสุริยา ประธานที่ปรึกษากรรมการบริหารบริษัท ออเนอร์กรุ๊ป จำกัด ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เมืองพัทยา กล่าวว่า ปัจจุบันการท่องเที่ยวเมืองพัทยาฟ้นตัวแล้ว 80% แม้ไม่มีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามามากนัก คาดว่าในครึ่งปีหลังนี้จะฟ้น 100% หลังนักท่องเที่ยวจีนเข้ามามากขึ้น และจากการฟ้นตัวดังกล่าว ทำให้ในปีนี้บริษัทเดินหน้าลงทุนพัฒนาโครงการพูลวิลล่า 2 โครงการ มูลค่ารวม 1,400 ล้านบาท รองรับตลาดต่างชาติทั้งยุโรป สแกนดิเนียเวีย รัสเซีย จีน และคนไทย ได้แก่ ทำเลนาจอมเทียนซอย 2 ห่างทะเล 900 เมตร เนื้อที่ 8 ไร่ จำนวน 30 ยูนิต ราคา 30-40 ล้านบาท มูลค่า 600 ล้านบาท และบริเวณรอบอ่างเก็บน้ำมาบประชัน เนื้อที่ 32 ไร่ จำนวน 110 ยูนิต ราคา 8-10 ล้านบาท มูลค่า 800 ล้านบาท ยังมีที่ดินสมุยอีก 2 แปลง เนื้อที่ 8 ไร่ จะนำมาพัฒนาเป็นพูลวิลล่าเช่นกัน ขณะที่ราคาที่ดินมีการปรับตัวสูงขึ้นและหายาก อย่างพัทยา ที่ดินติดทะเลอยู่ที่ 1 ล้านบาทต่อตารางวา (ตร.ว.) ส่วนสมุยอยู่ที่ 13-14 ล้านบาทต่อไร่
“ตลาดพูลวิลล่าพัทยาบูมมาก และซัพพลายยังไม่เยอะ ขณะที่ความต้องการยังมีอีกมาก โดยเฉพาะดีมานด์จากต่างชาติที่ต้องการซื้อเป็นบ้านหลังที่ 2 ซึ่งจีนยังคง เป็นกำลังซื้อหลัก เราจะเริ่มทำตลาดร่วมกับเอเยนต์ก่อนเปิดขายโครงการ” นายคริส กล่าว
นายชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า โครงการพูลวิลล่าเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าต่างชาติซื้อเป็นบ้านหลังที่ 2 ปัจจุบันบริษัทได้ลงทุนพัฒนาโครงการ ไฮแลนด์ พาร์ค พูลวิลล่า พัทยา เนื้อที่ 50 ไร่ โดยเฟสแรกมีจำนวน 20 ยูนิต ราคา 10-20 ล้านบาท ปิดการขายแล้ว มียอดขายต่างชาติ 30-40% ทั้งยุโรป รัสเซีย ส่วนจีนคาดจะเข้ามาในไตรมาส 3 และ 4 ขณะนี้กำลังเปิดขายเฟส 2 และเพิ่มบ้านราคา 40 ล้านบาท ให้ครอบคลุมตลาดมากขึ้น นอกจากนี้ บริษัทยังมีที่ดินติดทะเลอีก 2 แปลง เนื้อที่ 14 ไร่ ปัจจุบันราคาที่ดินอยู่ที่ไร่ละ 100 ล้านบาท สำหรับพัฒนาโครงการในอนาคต เป็นมิกซ์ยูสมีทั้งคอนโดมิเนียมและโรงแรม
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน