ตลาดคอนโดฯ-ท่องเที่ยวรอฟื้นตัวอีก2ปี PFจ่อบุ๊กรายได้Q3ขายหุ้น รอยัลออร์คิดฯ
“ชายนิด” คาดครึ่งปีหลังอสังหาฯเริ่มเห็นสัญญาณบวก ตลาดแนวราบไปได้ดี คอนโดฯ รอฟื้นตัวอีก 2 ปี ห่วงภาคท่องเที่ยวทรุดต่อเนื่อง หากยังไม่มีวัคซีนออกมา คงรอไปอีก 2 ปี คาดผลขายหุ้นโรงแรมรอยัล ออร์คิด เชอราตัน สรุปชัดแน่ ก.ค.นี้ บุ๊ก กำไรไตรมาส 3 ช่วยลดหนี้ทั้งกลุ่มลง
นายชายนิด อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ (PF) เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในครึ่งปีหลัง ว่าเริ่มมีสัญญาณบวก โดยตลาดแนวราบทุกระดับราคายังไปได้ ส่วนคอนโดมิเนียมยังชะลอตัวลง คาดว่าจะกลับมาพลิกฟื้นอย่างน้อย 2 ปี ในส่วนของธุรกิจการท่องเที่ยวน่าจะใช้เวลา 2 ปีเช่นกัน แต่หากมีความชัดเจนและสามารถผลิตวัคซีนออกมาได้จริง ธุรกิจท่องเที่ยวน่าจะกลับมาฟื้นตัวได้เร็วภายในเวลา 1 ปี
“ภาคธุรกิจจะต้องมีการปรับตัวและจัดการ เพื่อรับมือกับวิกฤตโควิด-19 ซึ่งเราและทุกธุรกิจ ต้องเน้นเรื่องบริหารสภาพคล่องเป็นหลัก และต้องบริหารเรื่องบุคลากร และลดการเลิกจ้างพนักงาน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ในขณะนี้ ทุกคนต้องช่วยกัน ทุกคนโดนตัดเงินเดือน กันหมด ผม (ชายนิด) ก็โดนตัดเงินด้วย ทั้งนี้ หากเราไม่ลดคน นั่นหมายความว่า เราต้องพยายามสร้างรายได้ เหมือนกับที่เรา (PF) รุกขึ้นมาสู้ ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ ในการกระตุ้นภาคการ ท่องเที่ยวให้กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง เพราะส่งผลกับคนจำนวนเยอะ ไม่ว่าจะเป็นคนขับรถแท็กซี่ คนขับรถเมล์ หมอนวด รปภ. ซึ่งกระทบหมด โดยเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้รายวัน ต้องพยายามแก้ส่วนนี้ก่อน ส่วนภาคอสังหาริมทรัพย์ ผมว่า ไม่ต้องกระตุ้นแล้ว อยู่เฉยๆ แต่หากพอ 1-2 ปี เศรษฐกิจฟื้นตัว ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะกลับมา ก็แปลว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 ปีถึงจะเริ่มดีขึ้น”
สำหรับแนวทางบริหารธุรกิจในครึ่งหลังของปี 63 ของกลุ่มเพอร์เฟคนั้น นายชายนิด ระบุว่า มีหลายแนวทาง ทั้งเรื่องการขายที่ดินออกไป รวมถึงการขายหุ้นโรงแรมรอยัล ออร์คิด เชอราตัน ที่ถือหุ้นโดยบริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ROH ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ โดยคาดว่าภายในเดือนกรกฎาคมนี้ น่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับขายหุ้น ROH โดยยังคงมี 4 บริษัททั้งจากในประเทศไทยและต่างประเทศ แสดงความสนใจที่จะซื้อหุ้นทั้งหมด
“ขายหุ้นโรงแรมรอยัล ออร์คิดเชอราตัล ใกล้จบ ซึ่งจริงๆแล้วจะเรียบร้อยแล้ว แต่เกิดสถานการณ์ โควิด-19 ผู้ลงทุนก็ชะลอ แต่คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 3 ซึ่งรายการพิเศษดังกล่าวจะบันทึกภายในไตรมาสดังกล่าว การที่เราขายหุ้นออกไป ซึ่งมีมูลค่า 5,500 ล้านบาท จะมีสัดส่วนคิดเป็น 50% ของภาระหนี้ของ ROH และหากสามารถขายได้ ภาระหนี้สินต่อทุน (D/E) ของทั้งกลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จะลงไป 0.4-0.5 จากเดิม D/E อยู่ 2 เท่า ซึ่งจะมีผลให้ เพอร์เฟค ภาระหนี้ลดลงเช่นกัน รวมถึงจะนำรายได้ไปชำระหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดประมาณ 2,500 ล้านบาท”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯและบริษัทย่อย ในไตรมาสแรกของปี 63 ซึ่งได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.63 ที่ผ่านมา (ก่อนหน้านี้ บริษัทได้ขอเลื่อนแจ้งงบ) มีผลขาดทุนสุทธิจำนวน 51.7 ล้านบาท (ส่วนของผู้เป็นเจ้าของบริษัทใหญ่ มีกำไรจำนวน 76.9 ล้านบาท) เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 62 กำไรลดลงจำนวน 666.9 ล้านบาท คิดเป็น 108.4% เนื่องจากรายได้จากธุรกิจอสังหาฯ มีจำนวน 2,637.4 ล้านบาท ลดลงจำนวน 1,745.7 ล้านบาท หรือ 39.8% เมื่อเทียบกับจำนวน 4,383.1 ล้านบาท
ธุรกิจโรงแรม มีรายได้จำนวน 955.4 ล้านบาท ลดลงจำนวน 306.8 ล้านบาท กำไรขั้นต้น 350.6 ล้านบาท ลดลงจำนวน 267.7 ล้านบาท คิดเป็น 43.3% เกิดจากการเข้าพักลดลง จากมาตรการการป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีการควบคุมและจำกัดการเดินทาง รวมถึงสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว
ส่วนรายได้ค่าเช่าและบริการจำนวน 86 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 5.2 ล้านบาท คิดเป็น 6.4% ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริการจำนวน 1,033.1 ล้านบาท ลดลงจำนวน 199.7 ล้านบาท คิดเป็น 16.2% โดยค่าใช้จ่ายที่ลดลง เนื่องจากยอดขายที่ลดลง ประกอบกับมาตรการลดค่าใช้จ่ายภายในบริษัท ซึ่งในด้านค่าใช้จ่ายทางการเงินมีจำนวน 344.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 83.1 ล้านบาท คิดเป็น 31.8%
สำหรับฐานะทางการเงิน บริษัทและบริษัทย่อย มีสินทรัพย์รวม 57,968.15 ล้านบาท ลดลง 1.86% เมื่อเทียบกับวันที่ 31 ธ.ค. 62 หนี้สินรวม 42,143.63 ล้านบาท ลดลง 2.25% ส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 15,814.52 ล้านบาท ลดลง 0.80% อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อส่วนผู้ถือหุ้น 1.96.
ที่มา: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา
