บ้านไม่เกิน3ล้านแชมป์ขายดี 65
อานิสงส์รัฐลด ‘ค่าโอน-จดจำนอง’
‘บ้านหรู’ มูลค่าทะลักกว่า4.8แสนล.
สำรวจบ้านมือสองปี’65 พุ่งกว่า 1.62 แสนหน่วย มูลค่า 8.6 แสนล้าน ราคาไม่เกิน 3 ล้านแชมป์ขายดี รับอานิสงส์รัฐลดค่าโอน “บ้านหรู” ขายลดลง แต่มูลค่าทะลัก 4.8 แสนล้าน เปิด 10 จังหวัดประกาศขายมากสุด “กทม.” มาแรง สุราษฎร์ฯ ราคาขยับ
วันที่ 8 กุมภาพันธ์ นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคาร และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยผลสำรวจข้อมูลที่อยู่อาศัยมือสองทั่วประเทศ สิ้นไตรมาส 4 ปี 2565 ว่ามีจำนวนหน่วยประกาศขาย 162,787 หน่วย มูลค่า 860,415 ล้านบาท ลดลง -0.1% จากไตรมาส 3 ปี 2565 มีจำนวน 162,923 หน่วย มูลค่า 962,188 ล้านบาท หากเทียบช่วงเดียวกันปี 2564 จำนวนเพิ่มขึ้น 13.4% แต่มูลค่าลดลง -7.2%
นายวิชัยกล่าวว่า ที่อยู่อาศัยที่ประกาศขายมากที่สุด คือบ้านเดี่ยว 67,907 หน่วย มูลค่า 461,011 ล้านบาท ทาวเฮาส์ 44,722 หน่วย มูลค่า 109,616 ล้านบาท และห้องชุด 44,016 หน่วย มูลค่า 257,896 ล้านบาท ส่วนอาคารพาณิชย์ และบ้านแฝดพบน้อยที่สุด ด้านระดับราคาที่ประกาศขายมากที่สุด คือราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 40,364 หน่วย มูลค่า 21,807 ล้านบาท ราคา 2.01-3 ล้านบาท จำนวน 25,417 หน่วย มูลค่า 63,941 ล้านบาท และราคา 3.01-5 ล้านบาท 24,998 หน่วย มูลค่า 97,964 ล้านบาท ขณะที่ระดับตั้งแต่ 5 ล้านบาท จนถึงมากกว่า 10 ล้านบาท ถูกประกาศขายลดลง โดยราคา 5.01-7.5 ล้านบาท มีจำนวน 12,906 หน่วย ลดลง -11.7% ราคา 7.51-10 ล้านบาท จำนวน 6,446 บาท ลดลง -14.6% และระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาท จำนวน 15,458 หน่วย ลดลง -16.4% อย่างไรก็ตาม ระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาท มีมูลค่าขายสูงสุดถึง 485,183 ล้านบาท มีราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วย 31.4 ล้านบาท
ส่วนใหญ่มีการขยายตัวในกลุ่มราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท
จากปัจจัยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ในการลดค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนอง เหลือ 0.01% แบ่งเป็น ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.8 % ราคา 1.01-1.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% และราคา 2.01-3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.3% ยกเว้นราคา 1.51-2 ล้านบาท ลดลง -0.4% เป็นห้องชุดและทาวเฮาส์ สอดคล้องกับข้อมูลการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยมือสองในช่วง 11 เดือนของปี 2565 เพิ่มขึ้นอย่างมากในกลุ่มราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ขยายตัว 24.9% ราคา 1.01-1.5 ล้านบาท ขยายตัว 24.7% ราคา 1.51-2 ล้านบาท ขยายตัว 19.4% และราคา 2.01-3 ล้านบาท ขยายตัว 36.2%”
นายวิชัยกล่าวว่า สำหรับ 10 จังหวัดที่มีมูลค่าที่อยู่อาศัยมือสองประกาศขายสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี สมุทรปราการ ชลบุรี ภูเก็ต ปทุมธานี เชียงใหม่ ประจวบคีรีขันธ์ นครราชสีมา และสุราษฎร์ธานี โดยกรุงเทพฯ มีจำนวน 55,852 หน่วย มูลค่า 518,480 ล้านบาท ขณะที่จังหวัดอันดับที่ 2-10 มีสัดส่วนจำนวนหน่วยและมูลค่าของแต่ละจังหวัดอยู่ระหว่าง 0.8-6.8% และยังพบว่าเกือบทั้งหมดมีอัตราการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าลดลง มีเพียงจังหวัดสุราษฎร์ธานีเพียงจังหวัดเดียวที่มีอัตราการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น ขยายตัวได้ 3.8% และนอกเหนือจาก 10 จังหวัดนี้ ก็มีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน