DHOUSE ดันงบฟื้นรีเทลหนุนยอด100ล.
นายพงศ์พจน์ เลิศรุ้งพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีเฮ้าส์พัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ DHOUSE ผู้นำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์เพื่อขายหลากหลายรูปแบบ อาทิ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ อาคารพาณิชย์ และคอนโดมิเนียม ในจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า คาดทิศทางธุรกิจปี 2566 จะดีกว่าปีนี้ รวมถึงผลประกอบการโดยรวมน่าจะกลับมาเป็นบวกหรือเทิร์นอะราวด์ จากการเปิดโครงการใหม่ปลายปี หากรับรู้รายได้ในปีนี้ก็อาจจะเล็กน้อย แต่เชื่อว่าในปี 2566 จะสามารถรับรู้รายได้เต็มที่
ลุยโครงการทำเงิน
โดยโครงการใหม่ เป็นโครงการประเภท Mixed-Use พื้นที่ใกล้มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ภายใต้โครงการ UPark มูลค่าราว 608 ล้านบาท รวมถึงธุรกิจรีเทล ร้านค้าปลีก ปั๊มน้ำมัน และร้านอาหาร บนเนื้อที่ 12 ไร่ 3 งาน 52 ตารางวา ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ สถานีบริการน้ำมัน และร้านค้าปลีก ภายใต้แบรนด์ ปตท.
และโครงการ UPark Street อาคาร Street Food ขนาด 1,990 ตารางเมตร ประกอบด้วย ร้านขายอาหาร 86 ร้าน และลานโล่งสำหรับวางเต็นท์ ขายสินค้า ขนาด 7,010 ตารางเมตร ประกอบด้วย ร้านอาหาร 26 ร้าน และ ร้านค้า 132 ร้าน
ในส่วนของธุรกิจรีเทล ร้านค้าปลีก ปั๊มน้ำมัน และร้านอาหาร ปัจจุบันมีร้านค้าติดต่อมาและเช่าร้านค้าแล้ว 50% โดยบริษัทจะเปิดทดลองให้บริการ และดูกระแสตอบรับก่อนว่าจะเป็นอย่างไร หลังจากนั้นจึงเปิดให้เช่าพื้นที่เพิ่มเติม ทั้งนี้บริษัทประเมินภาพรวมธุรกิจรีเทล ร้านค้าปลีก ปั๊มน้ำมัน และร้านอาหาร ในอนาคตจะสนับสนุนให้บริษัทมีกำไรแข็งแกร่ง เนื่องจากการเช่าพื้นที่ร้านค้าเป็นสัญญาระยะยาว จะทำให้บริษัทมีรายได้เข้ามาเป็นประจำ เบื้องต้นคาดธุรกิจรีเทลจะมีรายได้ให้กับบริษัทต่อปี 100 ล้านบาท
“แผนการเปิดโครงการยังเหมือนเดิม ไตรมาส 4 เราจะเปิดให้บริการปั๊มน้ำมัน และจะทำให้เรามีรายได้เข้ามาประมาณไตรมาส 4 ทันที ส่วนหลังจากนั้นจะรับรู้รายได้ประจำจากการให้เช่าร้านค้า บริเวณรอบๆ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนผลงานของเราให้กลับมาดีกว่าที่ผ่านมา” นายพงศ์พจน์ กล่าว
รุกอสังหาที่ใหม่
นอกจากนี้ในช่วงปลายปี 2565 บริษัทมีแผน ที่จะขยายการลงทุนไปยังจังหวัดอื่นๆ ในภาค ตะวันออกเฉียงเหนือที่มีศักยภาพในการเติบโต อาทิ ขอนแก่น อุบลราชธานี นครราชสีมา และอุดรธานี โดยรูปแบบการพัฒนาโครงการของบริษัทจะพิจารณาจากทำเล ที่ตั้ง แนวโน้มสภาวะตลาดของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ความต้องการของผู้บริโภค กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และความเหมาะสมของระดับราคา มุ่งเน้นการสร้างความคุ้มค่าและความประทับใจแก่ลูกค้า โดยเน้นหลักการพัฒนาโครงการที่เรียบง่ายแต่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า มีราคาเหมาะสม ให้ความสำคัญกับคุณภาพการก่อสร้าง
สำหรับแนวโน้มกำลังซื้อในจังหวัดมหาสารคาม อาจจะไม่ฟื้นตัวเร็วนัก อีกทั้งช่วงที่ผ่านมาเป็นฤดูฝน ส่งผลให้การก่อสร้างและพัฒนาโครงการเลื่อนออกไปล่าช้ากว่ากำหนด แต่คาดว่าในไตรมาสสุดท้ายแผนพัฒนาโครงการจะดำเนินการได้เป็นปกติ
นายพงศ์พจน์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันบริษัทมียอดรอโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) ไม่มาก ไม่เกิน 20 ล้านบาท โดยจะทยอยเร่งส่งมอบในช่วงที่เหลือให้ได้มากที่สุด อนึ่ง 6 เดือนแรกปี 2565 บริษัทมีรายได้แล้วที่ 17.45 ล้านบาท และมีผลขาดทุน 6.54 ล้านบาท
ที่มา: หนังสือพิมพ์ทันหุ้น