ตลาดคอนโดฯหัวหินฟื้นไนท์แฟรงค์ชี้ยูนิตเหลือขายลดลง
นายณัฏฐา คหาปนะ กรรมการผู้จัดการ บริษัทไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดคอนโดมิเนียมในพื้นที่หัวหินในปี 2565 นี้ บริษัทมองว่ามีการฟื้นตัวที่ดีขึ้นและเริ่มมีกำลังซื้อมากขึ้น ทำให้ยูนิตเหลือขายในตลาดลดน้อยลง โดยเฉพาะโครงการติดทะเลที่มียูนิตเหลือขายไม่มาก และที่ดินในการพัฒนาโครงการติดทะเลในบริเวณตัวเมืองหัวหินหรือเขาตะเกียบ ก็เหลือน้อยและยากที่จะพัฒนาได้
ทั้งนี้หากมีการพัฒนาโครงการที่ติดทะเล ราคาขายจะมีทิศทางในการปรับตัวที่สูงขึ้น อาจจะมีราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร (ตร.ม.) สูงกว่า 150,000 บาท เนื่องจากที่ดินที่เหลือน้อยและราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่โครงการบริเวณโซนชะอำ อาจจะต้องใช้เวลาในการระบายยูนิตเหลือขาย ซึ่งจะเห็นได้ในบางโครงการที่ราคาอาจจะปรับลง เนื่องจากอายุของคอนโดมิเนียมในขณะที่โครงการที่สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ในหัวหิน ณ ต้นปี 2565 ยังคงมีการจัดรายการส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง เพื่อปิดโครงการ
โดยสะท้อนให้เห็นว่าคอนโดมิเนียมบริเวณชะอำ-หัวหิน-เขาตะเกียบ อยู่ในภาวะที่สมดุล ทั้งในแง่อุปทานและอุปสงค์ ทั้งนี้จากการสำรวจพบว่า จะมีโครงการแนวสูงเปิดตัวใหม่บริเวณสวนน้ำ “วานานาวา” โดยจุดเด่นคือวิวจากห้องพักอาศัยที่เห็นทะเล ซึ่งจะเป็นอุปทานใหม่ของตลาดในครึ่งปีหลัง 2565 และน่าจะทำให้เกิดสีสันในตลาดคอนโดมิเนียมหัวหินพอสมควร
“จากการเปิดตัวของโครงการดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่าแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของคอนโดมิเนียมกำลังขยายตัวไปยังบริเวณฝั่งที่ไม่ติดทะเลมากขึ้น เนื่องจากยังคงมีที่ดินเหลือให้พัฒนาอีกค่อนข้างมาก และหากสามารถทำราคาขาย รวมถึงการมีจุดเด่นของโครงการที่น่าสนใจ อาจจะทำให้ผู้ซื้อให้การตอบรับที่ดีมากขึ้น” นายณัฏฐา กล่าว
อย่างไรก็ตามในช่วงครึ่งปีแรก 2565 เริ่มมีการปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เนื่องจากอุปทานคอนโดมิเนียมที่เหลือน้อยในตลาด และผู้ประกอบการมีการจัดรายการส่งเสริมการขายอยู่ตลอด เพื่อลดจำนวนยูนิตเหลือขาย และพบว่าโครงการเปิดตัวใหม่ในช่วงครึ่งปีแรก 2565 มีเพียง 1 โครงการเท่านั้น คือโครงการ “เฮย์ หัวหิน” จำนวน 252 ยูนิต มีราคาขายเริ่มต้นประมาณ 1.39 ล้านบาท เป็นโครงการฝั่งไม่ติดทะเล แต่ยังไม่พบโครงการฝั่งติดทะเลที่เปิดใหม่ในครึ่งปีแรก 2565 แม้อุปทานในตลาดจะเหลือน้อยก็ตาม จากการสำรวจและรวบรวมข้อมูล พบว่าจะมีการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ในไตรมาสที่ 3 ปี 2565 ซึ่งน่าจะเพิ่มภาวการณ์แข่งขัน และความหลากหลายของตลาดคอนโดมิเนียมในบริเวณหัวหิน
ทั้งนี้อุปทานสะสมของคอนโดมิเนียมในบริเวณชะอำ-หัวหิน-เขาเต่า ในช่วงก่อนปี 2551 จนถึงช่วงครึ่งปีแรก 2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 28,307 ยูนิต ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรก 2565 ได้มีการขายแล้วจำนวน 22,344 ยูนิต โดยคิดเป็นอัตราการขายอยู่ที่ 79% โดยอัตราการขายได้ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2564 ที่ผ่านมา
ส่วนราคาขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมที่เห็นวิวทะเล มีระดับราคาเสนอขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 143,000 บาทต่อ ตร.ม. ราคาขายปรับตัวเพิ่มขึ้น 1% จากปี 2564 โดยโครงการใหม่ที่เห็นวิวทะเลมีระดับราคาขายต่อห้องเฉลี่ยสูงถึง 250,000 บาทต่อตร.ม. ส่วนราคาขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมที่ไม่เห็นวิวทะเล มีระดับราคาขาย เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 69,800 บาทต่อตร.ม. โดยราคาขายค่อนข้างทรงตัวและลดลงมาเล็กน้อยในอัตรา 1.3% จากปี 2564 เนื่องจากโครงการที่ยังมียูนิตว่างเหลือขายเกิน 50% ซึ่งอยู่บริเวณโซนชะอำ ผู้ประกอบการยังคงจัดโปรโมชั่นและส่วนลดอย่างต่อเนื่อง เพื่อปิดการขายโครงการ และโครงการใหม่ที่ตั้งอยู่ฝั่งไม่ติดทะเล มีการทำราคาขายประมาณ 52,000 บาทต่อตร.ม. ทำให้ราคาเฉลี่ยโซนไม่เห็นทะเลปรับตัวลดลงเล็กน้อย
ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า