เซ็นทรัลพัฒนา เปิดแผนธุรกิจอสังหาฯ 5 ปี ผุด 50 โครงการ จุดแข็งติดศูนย์การค้า
“เซ็นทรัลพัฒนา” รุกแผนธุรกิจ Residential ภายใน 5 ปี เปิดตัว 50 โครงการใหม่ เร่งสร้างมาตรฐานโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพทั่วประเทศ ชูจุดแข็งโครงการติดศูนย์การค้าและอยู่ในมิกซ์ยูสชั้นนำ พร้อมบุกเมืองรองเปิดตัว 6 โครงการใหม่ทั้งแนวราบและแนวสูง วางเป้าปี 65 รับรู้รสยได้3,000ล้านบาทยอดขายรวม5,500 ล้านบาท
นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ปีนี้เซ็นทรัลพัฒนาได้เน้นย้ำการ เป็น Retail-Led Mixed-Use Developer ของเราด้วยแผนลงทุนต่อเนื่อง 120,000 ล้านบาท ใน 5 ปี สำหรับอีกหนึ่งธุรกิจหลักคือ Residential โครงการที่อยู่อาศัย เป็นส่วนหนึ่งในโครงการมิกซ์ยูสที่เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเซ็นทรัลพัฒนา โดยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอด 4 ปีที่ผ่านมา สร้างรายได้รวมกว่า 10,000 ล้านบาท และภายในปี 69 ธุรกิจ Residential จะขยายเพิ่มกว่า 50 โครงการ และเติบโตอย่างยั่งยืนไม่น้อยกว่า 20% ต่อปี
เพื่อความเป็นผู้นำ RetailLed Mixed-Use Development บริษัทยังคงเดินหน้าแผนธุรกิจ Residential โดยชูจุดแข็งของกลุ่มธุรกิจสร้าง ‘The Ecosystem of Quality Living’ มาตรฐานโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพทั่วประเทศ พร้อมยกระดับการใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ โดยในแผน 5 ปี ขยายเพิ่มกว่า 50 โครงการ ทำให้ในอนาคตจะมีโครงการทั้งสิ้นครอบคลุม 27 จังหวัด มากกว่า 70 โครงการ และมีลูกบ้าน 20,000 ครอบครัว โดยในปีนี้ ตั้งเป้าว่าจะมียอดขาย 5,500 ล้านบาท และรายได้ 3,000 ล้านบาท พร้อมเปิดตัวโครงการใหม่ปี 65 นี้ รวม 6 โครงการ ได้แก่ 4 โครงการคอนโดมิเนียมแบรนด์ ESCENT ที่สุราษฎร์ธานี, สุพรรณบุรี, ฉะเชิงเทรา และตรัง พร้อมโครงการแนวราบ 2 โครงการคือ นินญา ราชพฤกษ์ และนิรติ เชียงใหม่
ร.อ.กรี เดชชัย President, Residential Business กล่าวว่า การทำธุรกิจ Residential ของเราสอดคล้องกับทิศทางการทำธุรกิจของเซ็นทรัลพัฒนาที่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน สังคม และชุมชน ดังนั้น เราจึงให้ความสำคัญกับ “คุณภาพ” ในทุกส่วนทั้งการพัฒนาโครงการบ้าน, คุณภาพชีวิตและไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัย ทั้งนี้ “บ้านเซ็นทรัล” โดยเซ็นทรัลพัฒนามีจุดแข็งที่โดดเด่นในการเชื่อมต่อ Retail & Residential Integration ด้วย 3 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่ 1. Best in Town แบรนด์แข็งแกร่ง เจาะทำเล New CBD & Downtown, 2. Beyond Quality คุณภาพ-ไลฟ์สไตล์-ความปลอดภัยที่เหนือความคาดหมาย และ 3. Strong Synergy ผนึกกำลังในเครือเซ็นทรัล เติมเต็ม Lifestyle Journey ต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ลูกค้าที่ซื้อที่อยู่อาศัย กับบริษัทจะได้รับสิทธิประโยชน์จากกลุ่มเซ็นทรัล ด้วยบริการที่มีความเชื่อมโยงต่อเนื่องตั้งแต่ วันแรกของการเข้ามาเป็น “ลูกบ้านเซ็นทรัล” อาทิ เตรียมแผนบริการครั้งแรก Central Pattana Concierge บริการผู้ช่วยส่วนตัว, แม่บ้าน, และบริการอื่นๆ ที่เชื่อมโยงกับธุรกิจในโครงการมิกซ์ยูส รับสิทธิ์อัปเกรดเป็น The 1 Exclusive หลังจากโอนบ้าน มาพร้อมสิทธิพิเศษมากมาย, ส่วนลดพิเศษจาก Central, Robinson, Tops Online, PowerBuy และบริการเพื่อคนรักบ้านจาก Home Service และ BnB Home
“Central Pattana Residential มุ่งมั่นที่จะส่งมอบโครงการคุณภาพ ทั้งแนวสูงและแนวราบ ได้แก่ ESCENT คอนโดฯ และทาวน์โฮม ติดศูนย์การค้า ระดับราคา 2 ล้านบาทขึ้นไป เจาะกลุ่มลูกค้า ที่เน้นความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต ไลฟ์สไตล์คนเมือง, PHYLL คอนโดมิเนียม ระดับราคา 3 ล้านบาทขึ้นไป เจาะกลุ่มลูกค้าคนเมืองที่ต้องการความสะดวกในการเดินทางไปยังจุดหมายต่างๆ, NIYHAM บ้านระดับ 25 ล้านบาทขึ้นไป เจาะกลุ่มลูกค้า Wealth ที่เป็นครอบครัวใหญ่, NINYA บ้านระดับ 10 ล้านบาทขึ้นไป เจาะกลุ่มลูกค้า YOUNG GENERATION ที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน และ NIRATI บ้านระดับ 5 ล้านบาทขึ้นไป เจาะกลุ่มลูกค้าครอบครัวเริ่มต้นที่ต้องการสร้างครอบครัว”
ที่มา: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา