BRI พันธมิตรจีบร่วมทุน Q2 ฉายแววทุบสถิติใหม่
BRI คาดยอดขาย-รายได้ ไตรมาส 2/65 ทุบสถิติใหม่ เนื่องจากจะมี 4 โครงการเตรียมโอนกรรมสิทธิ์ แถมตุนแบ็กล็อกในมือ 1.18 พันล้านบาท คาดรับรู้รายได้ทั้งหมดไตรมาส 2-3/2565 วางงบ 4 พันล้านบาท กวาดซื้อที่ดินตุนพอร์ต เนื้อหอมพันธมิตรรุมจีบร่วมทุนพัฒนาโครงการใหม่ต่อเนื่อง
นางศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2565 จะสามารถสร้างสถิติใหม่สูงสุดได้อย่างต่อเนื่อง โดยการเติบโตทั้งในแง่ของยอดขายและรายได้ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน และจากไตรมาส 1/2565 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,483 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทจะมีการโอนกรรมสิทธิ์ (Transfer) จำนวน 4 โครงการ มูลค่ารวม กว่า 4,050 ล้านบาท ซึ่ง 3 โครงการทยอยเปิดตัวไปแล้วตั้งแต่ปลายปี 2564
เล็งครึ่งปีหลังเด่น
โดยในไตรมาส 2/2565 บริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่ โครงการบริทาเนีย อมตะ - พานทอง มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเข้ามาช่วยสนับสนุนยอดขายในไตรมาสที่ 2 ให้มีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 1/2565 ที่มียอดขายอยู่ที่ 2,378 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 18% จากไตรมาสก่อนหน้า และ 14% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน โดยในไตรมาสแรกปีนี้บริษัทมีการเปิดตัว 1 โครงการ คือ โครงการบริทาเนีย ราชพฤกษ์ - นครอินทร์ มูลค่า 700 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทยังมียอดขายรอการทยอยโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) ในมือ ณ สิ้นมีนาคม 2565 อยู่ที่ 1,183 ล้านบาท จาก 20 โครงการ คาดว่าจะทยอยรับรู้เข้ามาเป็นรายได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/2565 และต่อเนื่องไปในไตรมาส 3/2565 ได้ทั้งหมด สะท้อนต่อการเติบโตที่ดีของผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2/2565 และไตรมาสถัดไป อย่างไรก็ดี ในปี 2565 บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมไว้ไม่น้อยกว่า 90% หรือแตะ 7,250 ล้านบาท จากปี 2564 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 3,815.81 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมในช่วงครึ่งหลังปี 2565 มองว่าจะเห็นการเติบโตที่ดีกว่าในช่วงครึ่งแรกปี เนื่องจากมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่อีกกว่า 10 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 10,700 ล้านบาท แบ่งเป็นในไตรมาส 3/2565 จำนวน 4 โครงการ มูลค่ารวม 4,350 ล้านบาท และไตรมาส 4/2565 จำนวน 6 โครงการ มูลค่ารวม 6,350 ล้านบาท เข้ามาช่วยหนุนยอดขาย ให้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ 11,000 ล้านบาท เติบโต 31.4% จากปีก่อน ซึ่งมองว่าจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของทั่วโลก รวมถึงการเปิดประเทศท่องเที่ยวจะทำให้กำลังซื้อกลับมาขยายตัวได้ดีขึ้น
พันธมิตรจีบร่วมทุน
ส่วนโครงการร่วมทุนกับพาร์ตเนอร์ ปัจจุบันมี 3 โครงการ ได้แก่ โครงการ บริทาเนีย โฮม บางนา กม.17, บริทาเนีย ทาวน์ บางนา กม.17 มูลค่ารวม 2,600 ล้านบาท ที่ร่วมกับ บริษัทโนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ คาดจะเปิดตัวและสร้างรายได้ในไตรมาส 3/2565 และโครงการแกรนด์ บริทาเนีย คูคต สเตชั่น ที่ทำร่วมกับทาง LofisThailand Co.,Ltd. มูลค่า 1,200 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดตัวและเริ่มสร้างรายได้ในไตรมาส 3/2565
อีกทั้งบริษัทยังคงมีการเจรจากับพันธมิตรทั้ง 2 ราย เพื่อหาแนวทางความร่วมมือในการพัฒนาโครงการที่พักอาศัยโครงการอื่นๆ เพิ่มเติมด้วยเช่นกัน ขณะเดียวกันบริษัทก็ยังได้รับความสนใจจากพันธมิตรที่มีศักยภาพรายอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศเข้ามาเจรจาอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่มองว่าการลงทุนต้องใช้ระยะเวลาในการศึกษาเพื่อที่จะสรุปข้อตกลงร่วมกันดังนั้นจึงมองว่าจะเร็วเกินไปที่จะให้รายละเอียดในตอนนี้
โดยแผนการลงทุนปี 2565 บริษัทวางงบประมาณ 4,000 ล้านบาท หลักๆ เพื่อใช้จัดซื้อที่ดินไว้รองรับการพัฒนาโครงการใหม่ในปี 2566 อย่างไรก็ดีแม้ว่าในปีนี้จะมีการเปิดตัวโครงการจำนวนมาก แต่ในปีหน้าบริษัทยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่ๆ ควบคู่ไปกับการทำการตลาดและการสร้างแบรนด์ ขณะที่สถานการณ์ราคาวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นนั้น ยังไม่ส่งผลกระทบกับต้นทุนก่อสร้างของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรกนี้ เพราะได้เจรจาล็อกรา
ที่มา: หนังสือพิมพ์ทันหุ้น