อสังหาQ1กำไรโต10% SPALI-AP-LH-ORI เด่น

27 เม.ย. 2565 308 0

          จับตาผลงานไตรมาส 1/2565 กลุ่มอสังหา คาดมีกำไรสุทธิโต 7-10% จากยอดโอนโครงการที่เพิ่มขึ้นราว 7% ชู AP-LH-SPALI-ORI เด่นกำไรโต ได้ทั้งจากช่วงเดียวกันปีก่อนและจากไตรมาสก่อน มองโครงการแนวราบยังแข็งแกร่ง ขณะที่ดีมานด์คอนโด เริ่มทยอยฟื้น คาดยอดขายใหม่และยอดโอนจะเร่งตัวขึ้นต่อเนื่องได้ในงวดไตรมาส 2/2565

          นายสรพงษ์ จักรธีรังกูร ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) คาดการณ์กำไรสุทธิงวดไตรมาส 1/2565 ของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ 12 บริษัทที่วิเคราะห์จะเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 7-10% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรรวมประมาณ 7,000 ล้านบาท แต่ลดลงเมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 4/2564 ที่ทำสถิติสูงสุดที่ประมาณ 9,000 ล้านบาท หนุนจากยอดขายรวมงวดไตรมาส 1/2565 ของทั้ง 12 บริษัทเพิ่มขึ้นประมาณ 7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

          และแผนการโอนโครงการที่คาดว่าจะอยู่ที่ 6.23 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% YoY และเพิ่มขึ้น 13% QoQ ซึ่งหากเป็นไปตามประมาณการยอดขายงวดไตรมาส 1/2565 จะคิดเป็น 22% ของเป้าหมายทั้งปี 2565 แต่ยอดขายแนวราบที่มีสัดส่วนถึง 25% ของเป้าหมายทั้งปีและยอดขายคอนโดมิเนียมที่ 17% ของเป้าหมายทั้งปี เป็นปัจจัยสนับสนุนให้เห็นว่าความต้องการที่อยู่อาศัยที่แท้จริง (Real Demand) ยังคงทยอยเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับสภาพวะ เศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัว และยังมีปัจจัยหนุนคือการเปิดประเทศให้นักลงทุน นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาได้สะดวกขึ้น

          AP-LH-ORI-SPALI เด่น

          เบื้องต้นคาดว่า AP, LH, ORI, และ SPALI จะมีกำไรเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ ขณะที่ SIRI, QH, SENA, PSH, BRI, SC และ LPN จะรายงานกำไรเพิ่มขึ้น YoY แต่อ่อนตัวลง QoQ ขณะที่ ANAN มีแนวโน้มกำไรทรงตัว พร้อมกันนี้คาดการณ์ยอดขายใหม่ และยอดโอนโครงการจะเร่งตัวขึ้นต่อเนื่องได้ในงวดไตรมาส 2/2565 หนุนจากโครงการแนวราบ ส่วนยอดขายและยอดโอนคอนโดมิเนียมจะเข้ามาหนุน ต่อเนื่องช่วงครึ่งหลังของปี 2565 สะท้อนจากการทยอยเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ของผู้ประกอบการหลายบริษัทตั้งแต่ไตรมาส 4/2564 ที่ผ่านมา รวมถึงการทยอยเปิดประเทศที่จะเป็นปัจจัยเร่งความต้องการที่อยู่อาศัยแนวสูงให้ทยอยฟื้นตัว

          ฝ่ายวิเคราะห์คงมุมมองบวกต่อกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โดยคาดว่ายอดขาย-รายได้จะขยายตัวตามเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง อีกทั้งภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และกระแสการทยอยปรับราคาขายโครงการต่อหน่วยขึ้นเพื่อสะท้อนต้นทุนการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น จะเป็นปัจจัยกระตุ้นให้ผู้ที่มีศักยภาพตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยเร็วขึ้น

          ปันผลจูงใจยิลด์ 5.7% ขณะเดียวกัน โครงการพร้อมขายที่ผู้ประกอบการครอบครองอยู่ รวมถึงโครงการที่ทยอยเปิดจนถึงช่วงกลางปี 2565 นั้นผู้ประกอบการสามารถล๊อกต้นทุนวัสดุก่อสร้างไว้ตั้งแต่ปี 2564 ที่ผ่านมา และแม้ว่าต้นทุนการดำเนินโครงการในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 เริ่มเร่งตัวขึ้น แต่คาดว่าผู้ประกอบการจะทยอยปรับลดโปรโมชั่นลง รวมถึงทยอยส่งต่อราคาให้กับผู้ซื้อได้ หนุนให้ยังมีศักยภาพการทำกำไรในระดับที่น่าพอใจ

          นอกจากนี้ อัตราตอบแทนเงินปันผลในปี 2565 ที่คาดว่าจะสูงราว 5.7% จึงแนะนำ “ทยอยสะสม” AP ราคาเหมาะสม 12 บาท, ORI ราคาเหมาะสม 13.40 บาท และ LH ราคาเหมาะสม 10.40 บาท

ที่มา:

คลิกเครื่องหมาย เพื่อเพิ่มลงตะกร้าเก็บทรัพย์ที่สนใจ หรือกดอีกครั้งเพื่อลบออก
คลิกเพื่อเลือก บ้านที่ต้องการแล้วกดปุ่ม "เปรียบเทียบ" ได้เลย