J ลุยปั้นโปรเจ็กต์มิกซ์ยูส ต่อยอดดันปีนี้โตเท่าตัว

         J เดินเกมปั้นโครงการ มิกซ์ยูสย่านนนทบุรี หวังเพิ่มมูลค่า ต่อยอดธุรกิจ บิ๊ก “สุพจน์ สิริกุลภัสสร์” จ่อทุ่มงบ 300 ล้านบาท ช็อปที่ดินแปลงสวยลุยอสังหาแนวราบ เติม Backlog เพิ่ม แจงเพิ่มทุน-แจก วอร์แรนต์ชี้นำเงินเพิ่มความสามารถลงทุนเท่าตัว แถมปักธงปี 2565 ผลงานโต 100% จากปีก่อน รับคอมมูนิตี้มอลล์ใหม่-อสังหาหนุน

          นายสุพจน์ สิริกุลภัสสร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาพัฒนาโครงการแบบผสมผสาน (มิกซ์ยูส) ซึ่งจะประกอบด้วย โครงการศูนย์การค้าชุมชน (คอมมูนิตี้มอลล์), ศูนย์ฟื้นฟูและดูแลสุขภาพ, โครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย เพื่อเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มและต่อยอดธุรกิจให้มีศักยภาพยิ่งขึ้น ตลอดจนยังสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและสนับสนุนการเติบโตในระยะยาว ซึ่งคาดน่าจะได้เห็นความชัดเจนภายในปี 2565

          เปิดโครงการใหม่

          โดยเบื้องต้นในปีนี้ทาง J เตรียมพัฒนาโครงการคอมมูนิตี้มอลล์แห่งใหม่ ซึ่งถือเป็นแห่งที่ 6 ในย่านบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ซึ่งโครงการดังกล่าวมีพื้นที่ราว 15 ไร่ ซึ่งนับเฉพาะขนาดพื้นที่เช่าของคอมมูนิตี้มอลล์จะอยู่ที่ประมาณ 10,000 - 15,000 ตารางเมตร หลังมองเห็นโอกาสในการช่วยขยายช่องทางสร้างรายได้ให้กว้างขึ้นและสนับสนุนการเติบโตในอนาคต

          อีกทั้งยังมีแนวทางพัฒนาโครงการศูนย์ฟื้นฟูและดูแลสุขภาพสำหรับครอบครัวและผู้สูงอายุควบคู่กันไป ตลอดจนบริษัทมีแผนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อจำหน่ายในพื้นที่ใกล้เคียงเพิ่มเติม เพื่อเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มและต่อยอดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รองรับการสนับสนุนการเติบโตในอนาคตให้ดียิ่งขึ้น

          ทุ่ม 300 ล.ซื้อที่ดิน

          ดังนั้น บริษัทจึงทุ่มเงินลงทุนประมาณ 200-300 ล้านบาท เพื่อจัดหาที่ดินแปลงใหม่เพิ่มเติมประมาณ 2-3 แปลง ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รองรับการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประเภทแนวราบ อาทิ บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด, ทาวน์โฮม เพื่อช่วยเพิ่มยอดขายที่รอโอน (Backlog) จากเดิมที่มีอยู่ราว 10 ยูนิตในส่วนของโครงการ Newera ซึ่งมีราคาเริ่มต้นราว 2.29 ล้านบาท (อิงข้อมูลเพจของโครงการดังกล่าว)

          ส่วนประเด็นเกี่ยวกับโครงการบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่เพื่อดำเนินโครงการ “SENERA VIMUT HEALTH SERVICE” โครงการศูนย์ฟื้นฟูและดูแลสุขภาพสำหรับครอบครัวและผู้สูงอายุ โดยตั้งอยู่ภายใน พื้นที่โครงการ SENERA SENIOR WELLNESS ถนนคู้บอน แบ่งเป็น 3 อาคาร รวมราว 140 เตียง เพื่อตอบโจทย์การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ในด้านการฟื้นฟู โดยมีทาง J ถือหุ้นในสัดส่วน 49% และที่เหลือคือโรงพยาบาลวิมุต 51% ซึ่งทาง J รับผิดชอบในส่วนของการจัดสรรพื้นที่ ทำเล และออกแบบก่อสร้าง ส่วนทาง “วิมุต” รับหน้าที่บริหารงานศูนย์ฟื้นฟูข้างต้นนั้นเชื่อจะดำเนินการก่อสร้างเสร็จและสามารถเปิดให้บริการได้ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4/2565

          รายได้ปีนี้โต 100%

          อย่างไรก็ดี ในปี 2565 บริษัทยังคงเป้าการเติบโต 100% จากปีก่อนที่มีกำไรราว 161 ล้านบาท เพราะได้ปัจจัยหนุนของการเปิดให้บริการโครงการ JAS Green Village คู้บอน ที่เป็นโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ แห่งที่ 5 ซึ่งจะรับรู้รายได้เข้ามาในปี 2565 เต็มปี นอกเหนือจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เข้ามาสนับสนุนอีกทางหนึ่ง

          เพิ่มทุนหนุนโตเท่าตัว

          นายสุพจน์ กล่าวเสริมว่า ในแง่ประเด็นที่ล่าสุดคณะกรรมการได้มีมติกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (RO) ในราคาหุ้นละ 4.25 บาท ซึ่งหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวจะเสนอขายควบคู่กับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทครั้งที่ 2 (J-W2) และครั้งที่ 3 (J-W3) โดยกำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้น และใบสำคัญแสดงสิทธิ J-W2 และ J-W3 (Record Date) คือวันที่ 26 เมษายน 2565 และกำหนดวันจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นตามสัดส่วนการถือหุ้น คือวันที่ 17 พฤษภาคม 2565 ถึงวันที่ 20 พฤษภาคม 2565 และวันที่ 23 พฤษภาคม 2565 นั้น

          สำหรับเงินเพิ่มทุนดังกล่าวหลักๆ จะนำไปใช้ในการเพิ่มความสามารถในการลงทุนของธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น จากเดิมที่สามารถเปิดคอมมูนิตี้มอลล์ได้เพียงปีละ 1 แห่ง เป็นมากกว่า 1 แห่ง หรือคิดเป็นความสามารถในการลงทุนที่เพิ่มขึ้นเท่าตัว หวังสนับสนุนและเพิ่มโอกาสในการลงทุนของ J ในระยะยาว

ที่มา: หนังสือพิมพ์ทันหุ้น