NVD จับมือพาร์ทเนอร์ทำธุรกิจใหม่ สร้าง Recurring Income

11 มี.ค. 2565 600 0

          NVD มั่นใจรายได้รวมปี65 โตกว่าปีก่อน หลังตุนแบ็คล็อค กว่า 1,280 ลบ. พร้อมลุยเปิด 6 โครงการใหม่ - เล็งจับมือพาร์ทเนอร์ทำธุรกิจใหม่ สร้าง Recurring Income

          นายจิรเดช นุตสถิตย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการลงทุน บริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) NVD เปิดเผยว่า บริษัทฯคาดว่าภาพรวมผลประกอบการในปี 2565 จะมีรายได้รวมเติบโตมากกว่าปีก่อน จากการมีงานที่รอรับรู้รายได้ในปีนี้อยู่ในมือ (Backlog) ราว 1,280 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังมี 11 โครงการที่ยังเปิดขายอยู่ มูลค่ารวมกว่า 2หมื่นล้านบาท ประกอบกับการเปิด 6 โครงการใหม่ในปีนี้ มูลค่ารวมราว 8,700 ล้านบาท คาดว่าจะช่วยหนุนยอดขายและรายได้ให้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

          สำหรับ 6 โครงการใหม่ที่จะดำเนินการก่อสร้างและส่งมอบให้กับลูกค้าในปี65 จะมุ่งไปที่โครงการที่ดินพร้อมอยู่อาศัย (landed residential) และ มุ่งเน้นพัฒนาพื้นที่โครงการอสังหาริมทรัพย์ให้เป็นเสมือนชุมชน (Emphasis on township development) โดยจะมีการปรับรูปแบบซีรีย์บ้านให้มีระดับราคาลดลงมา โดยนำบ้าน Beyond รูปแบบเก่ากลับมาพัฒนา เพื่อให้เป็นโครงการในช่วงระดับราคา 10-25 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับราคาที่คนส่วนใหญ่เข้าถึงได้มากขึ้น เพื่อเข้าถึงตลาดที่กว้างขึ้น ทำให้สามารถสร้างยอดขายและยอดโอนเข้ามาได้มาก เนื่องจากรูปแบบซีรีย์ Beyond รูปแบบใหม่ระดับราคาเพิ่มขึ้นไปสูงมากที่ 25-40 ล้านบาท

          ขณะที่ปัจจุบันมีพื้นที่ดินเปล่า (Landbank) จำนวน 267ไร่ ซึ่งยังคงเพียงพอต่อการรองรับงานขยายโครงการใหม่ๆในอนาคต อีกทั้งยังได้เตรียมงบลงทุนราว 1,500 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับลงทุนธุริจใหม่ๆที่แตกต่างออกไปจากกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โดยปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ ในการศึกษาการทำธุรกิจใหม่ โดยมุ่งเน้นกลุ่มธุรกิจที่ไม่มีความเสี่ยงมากนัก และเน้นรับรู้รายได้ประจำเป็นหลัก (Recrurring Income) โดยจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหากมีความชัดเจน

          ทั้งนี้ บริษัทฯประเมินภาพรวมของสถานการณ์เศรษฐกิจในปีนี้ รวมถึงแนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้นจากปีก่อน แม้ว่าจะมีข่าวสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน แต่เชื่อว่าภายหลังที่มีผลการเจรจาออกมาเป็นไปในทิศทางที่ดีแล้วนั้น ก็ทำให้ทั่วโลกไม่น่าเป็นห่วงและตลาดฯต่างๆก็รีบาวน์กลับขึ้นมาดีขึ้น มองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นปัจจัยลบต่อตลาดในระยะสั้น

          ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในไทย ก็ไม่ได้น่ากลัวหรือสร้างความแพนิคให้กับประชาชนเท่ากับช่วงการแพร่ระบาดระลอกแรก ทำให้ผู้คนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่เชื่อว่าปีนี้กิจกรรมทางเศรษฐกิจจะกลับมาดำเนินได้ดีขึ้น สอดรับกับการเปิดโครงการใหม่ๆเพื่อรองรับความต้องการที่อยู่อาศัยที่จะฟื้นตัวขึ้นตามลำดับ

ที่มา:

คลิกเครื่องหมาย เพื่อเพิ่มลงตะกร้าเก็บทรัพย์ที่สนใจ หรือกดอีกครั้งเพื่อลบออก
คลิกเพื่อเลือก บ้านที่ต้องการแล้วกดปุ่ม "เปรียบเทียบ" ได้เลย