LPN ประกาศปรับโครงสร้างองค์กร กางโรดแมป 5 ปี ผุด 70 โครงการ 50,000ล.
LPN ปรับโครงสร้างองค์กร เดินหน้าขับเคลื่อนตามแผน “Turnaround” ปี 65-69 พร้อมเปิดตัว 16 โครงการใหม่ในปี 65 มูลค่ารวม 11,000 ล้านบาท กางโรดแมป 5 ปี ลุยพัฒนาโครงการใหม่ไม่ต่ำกว่า 70 โครงการ มูลค่าไม่น้อยกว่า 50,000 ล้านบาท ยอดขายสะสมไม่ต่ำ 50,000 ล้านบาท วางเป้ายอดขายปี 65 ที่ 13,000 ล้านบาท โต 46% จากปีก่อน
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวล ลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) กล่าวว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้ LPN มีการปรับโครงสร้างภายใน และปรับแผนยุทธศาสตร์ใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยปรับเปลี่ยนแผนจาก 3 ปี เป็น 5 ปี (2565-2569) โดยยังคงเป้าหมายการเติบโต ทั้งด้านรายได้ กำไร ผ่านการบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพโดยใช้ Big Data มาวิเคราะห์ความต้องลูกค้า เพื่อการพัฒนาบ้านพักอาศัยและอาคารชุด ให้มีฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าในทุกมิติ และมีราคาที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่
ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ LPN มีการเปลี่ยนโครงสร้างองค์กร รวมไปถึงการปรับแนวคิดในการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้ตอบโจทย์กับความต้องการของผู้ซื้อ โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้ในการปรับปรุงกระบวนการทำงาน เพื่อให้การทำงานมีความคล่องตัวในการตัดสินใจ เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารค่าใช้จ่าย และต้นทุนในการดำเนินงาน ยกระดับบริหารประสบการณ์ลูกค้า สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมีเป้าหมายในการสร้างรายได้ไม่น้อยกว่า 16,000 ล้านบาทในปี 69 หลังจากก้าวข้ามความเสี่ยงทางธุรกิจที่เกิดขึ้นในปี 64 สามารถรักษาความสามารถในการสร้างรายได้และกำไรไว้ได้ในอัตราที่เหมาะสมท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19
โดยในปี 65 จะเป็นปีของการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญใน 5 ประเด็นคือ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างธุรกิจ การบริหารจัดการ การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการพัฒนาโครงการ การปรับปรุงระบบเทคโนโลยีดิจิทัล และการสร้างแบรนด์ โดยในปี 65 จะมีการแยกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กับธุรกิจบริการออกจากกันเพื่อให้มีความชัดเจนในการบริหารจัดการ และเพื่อประโยชน์ในการขยายธุรกิจในอนาคต ภายใต้โครงสร้างธุรกิจใหม่ บริษัท แอล. พี. เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) มุ่งพัฒนาอาคารชุดพักอาศัย และบ้านพักอาศัย โดยรายได้หลักมาจากการขายที่อยู่อาศัย ขณะที่ธุรกิจบริการ บริหารจัดการโครงการ ดำเนินการโดย บริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด (LPP) มีนายสุรวุฒิ สุขเจริญสิน เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ LPP
“แม้จะเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง แต่ LPN ยังคงถือหุ้นใน LPP 100% ขณะที่ LPP สามารถที่จะบริหารงานได้อย่างอิสระ โดยเฉพาะการสร้างโอกาสในธุรกิจบริการใหม่ๆ โดยกลุ่มบริษัท LPN ทั้งในส่วนของธุรกิจอสังหาฯ และธุรกิจบริการ ตั้งเป้าหมายการเติบโต ต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 10% ต่อปี ทั้งในส่วนของธุรกิจอสังหาฯ และธุรกิจบริการ”
นายโอภาส กล่าวว่า สำหรับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการบริหาร LPN ได้ปรับโครงสร้างการบริหารในส่วนของธุรกิจอสังหาฯ จากโครงสร้างการทำงานตามหน้าที่ สู่การบริหารงานในรูปแบบของหน่วยธุรกิจ (Business Unit) ซึ่งเป็นการปรับโครงสร้างอย่างต่อเนื่องจากปี 64 โดยแบ่งออกเป็น 3 หน่วยธุรกิจ ประกอบด้วย หน่วยธุรกิจรับผิดชอบการพัฒนาอาคารชุดพักอาศัย หน่วยธุรกิจการพัฒนาบ้านพักอาศัยราคา ต่ำกว่า 10 ล้านบาท และหน่วยธุรกิจ รับผิดชอบในการพัฒนาบ้านพักอาศัยราคาเกิน 10 ล้านบาท
ทั้งนี้ แผนการพัฒนาดังกล่าวจะนำมาใช้ในการเปิดตัวโครงการในปี 65 โดยจะเปิดตัวโครงการใหม่ 16 โครงการ มูลค่า11,000 ล้านบาท แบ่งเป็นอาคารชุดพักอาศัย 5 โครงการมูลค่า 7,000 ล้านบาท โครงการบ้านพักอาศัยระดับราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท 10 โครงการ มูลค่า 3,300 ล้านบาท และโครงการบ้านพักอาศัยราคาเกิน 10 ล้านบาท 1 โครงการ มูลค่า 700 ล้านบาท โดยมีงบลงทุนซื้อที่ดิน 4,000 ล้านบาทเพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในปี 65-66 และ ภายใต้แนวคิดดังกล่าวบริษัทวางแผนการพัฒนาโครงการใหม่ตั้งแต่ปี 65-69 จำนวนไม่น้อยกว่า 70 โครงการ มูลค่ารวมไม่น้อยกว่า 50,000 ล้านบาท ยอดขายรวมสะสม 5 ปี ไม่น้อยกว่า 50,000 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายยอดขายในปี 65 ที่ 13,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46% เมื่อเทียบกับยอดขายที่ 8,900 ล้านบาท ในปี 64”
“การปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ในปี 65 นี้ LPN ให้ความสำคัญกับการสร้างการรับรู้แบรนด์ของ LPN ในฐานะผู้พัฒนาที่อยู่อาศัยภายใต้แนวคิด “น่าอยู่” (Livable Home) ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีอายุประมาณ 25-35 ปี (Gen Y) ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่เริ่มต้นทำงาน สร้างธุรกิจเอง รวมไปถึงกลุ่ม Startups โดยมีแผนที่จะเปิดตัวแบรนด์ใหม่ทั้งอาคารชุดพักอาศัย และบ้านพักอาศัยในปีนี้” นายโอภาส กล่าว
ที่มา: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา