ASW จ่อเปิดคอนโดใหม่ 2 โครงการคาดยอดขายไตรมาสแรก 2พันล้าน
ASW ประเมินตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 65 ฟื้นตัว รับอานิสงส์มาตรการกระตุ้นภาครัฐ เตรียมเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ 2 โครงการ มูลค่า 3,829.2 ล้านบาท หวังสร้างยอดขายไตรมาสแรก 2,000 ล้านบาท หนุนทั้งปียอดขายโตตามเป้า 8,400 ล้านบาท
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2565 มีแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดี จากมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ การประกาศลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองบ้าน-คอนโดมิเนียม เหลือ 0.01% ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 รวมทั้งมาตรการ LTV สำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัย 100% ถึงสิ้นปี 2565 นี้ เป็นปัจจัยบวกสนับสนุนกำลังซื้อฟื้นตัว สอดคล้องกับบริษัทที่มีเอกลักษณ์และแนวคิดของแต่ละแบรนด์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของลูกค้าได้อย่างลงตัว
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้า ASW เปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่จำนวน 2 โครงการ รวมมูลค่าโครงการ 3,829.2 ล้านบาท ประกอบด้วย
1.โครงการ แอทโมซ คาแนล (Atmoz Kanaal) มูลค่าโครงการ 1,640.9 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียมใหม่สไตล์รีสอร์ท ในพื้นที่ทำเลใจกลางเมืองรังสิต ติดถนนใหญ่ ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง จำนวน 978 ยูนิต ราคาขายเริ่มต้นที่ 1.39 ล้านบาทต่อยูนิต
2.โครงการ Atmoz Oasis Onnut มูลค่าโครงการ 2,188.3 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียมภายใต้คอนเซ็ปต์ “สุขโดย…ธรรมชาติ” ตั้งอยู่ใจกลางอ่อนนุช ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง จำนวน 1,110 ยูนิต ในราคาขายเริ่มต้นที่ 1.49 ล้านบาทต่อยูนิต โดยจะเปิดขาย Pre-sale ภายในไตรมาส 1/2565 นี้
“เราเชื่อว่าทั้ง 2 โครงการ Atmoz Kanaal และโครงการ Atmoz Oasis Onnut ภายใต้แบรนด์แอทโมซ จะเป็นที่ชื่นชอบ ด้วยทำเลที่ตั้งประกอบกับการออกแบบอาคารที่โดดเด่นสวยงาม ฟังก์ชันใช้สอยพื้นที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ฟังก์ชันการใช้งานเต็มรูปแบบ ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ และการปรับเข้ากับ New Normal ในราคาที่เหมาะสม จึงน่าจะสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างดี” นายกรมเชษฐ์ กล่าว
ขณะเดียวกัน มาตรการต่าง ๆ ที่กระตุ้นทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีความคึกคักขึ้น ช่วยผลักดันยอดขายเพิ่มขึ้น โดยบริษัทวางเป้าหมายยอดขาย (Presale) ในไตรมาส 1/2565 ไว้ที่ 2,000 ล้านบาท และเชื่อว่าทั้งปี 2565 จะสามารถสร้างยอดขายได้ที่ระดับ 8,400 ล้านบาท ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น
