RML ลุย 2 โครงการ 1.3 หมื่นล.เจาะตลาดต่างแดนอัพฐานเพิ่ม

28 ธ.ค. 2564 441 0

          RML เล็งเปิดโครงการใหม่ อัลตร้าลักชัวรี่ 2 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท ปลื้ม แคมเปญ “RAIMON LAND COLLECTION” กระแสตอบรับ ดีจากลูกค้าทั้งไทยและต่างชาติ สวนกระแสโควิด-19 มั่นใจกำลังซื้อระดับบนยังคึกคัก รุกเจาะตลาดฮ่องกง, สิงคโปร์, จีน และไต้หวัน

          นายกรณ์ ณรงค์เดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ RML เปิดเผยว่า สำหรับแนวโน้มธุรกิจช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2564 บริษัท ยังคงอัดแคมเปญสนับสนุนการขายต่อเนื่อง สำหรับโครงการ “ดิ เอสเทล พร้อมพงษ์” คอนโดมิเนียมทำเลศักยภาพใจกลางสุขุมวิทรายล้อมด้วยไลฟ์สไตล์ ฮับระดับเวิล์ดคลาส และเทตต์ สาทร ทเวลฟ์ คอนโดมิเนียมใจกลางย่านธุรกิจอย่างสาทร

          อีกทั้งบริษัทมีแผนการเปิดโครงการใหม่ อสังหาอัลตร้าลักชัวรี่จำนวน 2 โครงการ ในบริเวณใจกลางเมืองซอยสุขุมวิท 38 และ โอเชี่ยน ฟรอนท์ ลักชัวรี่ วิลล่า มูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท

          ทั้งนี้เพื่อตอบรับนโยบายกระตุ้นอสังหาของภาครัฐ บริษัทได้จัดแคมเปญส่งท้ายปลายปี 2564 “RAIMON LAND COLLECTION” รวมโครงการ ลักชัวรี่ 2 โครงการ โดยมี กระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้าผู้มีกำลังซื้อทั้งชาวไทยและ ต่างชาติที่สนใจลักชัวรี่คอนโดมิเนียมทำเลใจกลางเมือง แม้อยู่ในช่วงเฝ้าระวังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19

          เจาะตลาดต่างแดน

          ขณะที่กลุ่มเป้าหมายได้ขยายตลาดไปที่ฮ่องกง, สิงคโปร์, จีน และไต้หวัน ที่มองหาบ้านหลังที่สอง และต้องการลงทุนอสังหาริมทรัพย์บนทำเลศักยภาพ จึงทำบริษัทสามารถปิดการขายโครงการพร้อมอยู่อย่างต่อเนื่อง (Sold Out) ทั้งหมด 7 โครงการ ได้แก่ เดอะ ริเวอร์, เดอะ ดิโพลแมท 39, เดอะ ดิโพลแมท สาทร, เดอะ ลอฟท์ สีลม, เดอะ ลอฟท์ อโศก, ซายร์ วงศ์อมาตย์ และยูนิกซ์ พัทยา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าศักยภาพของตลาดระดับบนยังคงไปได้ดี

          “การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ที่เริ่มตั้งแต่ช่วงต้นปี 2563 ต่อเนื่องถึงปี 2564 ถือเป็นช่วงเวลาที่ ท้าทายตลาดอสังหา และผู้พัฒนาอสังหาส่วนใหญ่มีการปรับกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์การตลาด และการขาย เน้นใช้ ออนไลน์ ผ่านช่องทางวิดีโอคอลหรือรับชม ห้องตัวอย่างเสมือนจริงแบบ 360 องศา โดยได้รับการตอบรับที่ดีทั้งจากลูกค้าชาวไทย และกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่ให้ความสนใจแม้ในช่วงสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 จึงทำบริษัทสามารถปิดการขายโครงการพร้อมอยู่อย่างต่อเนื่อง” นายกรณ์ กล่าว

          ตุนแบ็กล็อก 5.6 พันล.

          ด้านผลประกอบการ 9 เดือนของปีนี้ พลิกมีกำไร 4.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 100.65% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 645.87 ล้านบาท สำหรับรายได้รวมไตรมาส เท่ากับ 2,208 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการ ขายอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่ 1,979.7 ล้านบาท ส่วนยอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ของบริษัท มีมูลค่ารวม 5,643.1 ล้านบาท ขณะที่ยอดขาย 9 เดือนเท่ากับ 1,645.2 ล้านบาท ลดลง 2,475 ล้านบาท โดยบริษัทกำลังเร่งเตรียมการเปิดโครงการใหม่ คาดว่าจะเปิดตัวได้ภายในต้นปี 2565

          อย่างไรก็ดีในช่วงที่ผ่านมาบริษัทประสบความสำเร็จกับการขายอสังหาริมทรัพย์ใน สต๊อกค่อนข้างมาก ทำให้ขณะนี้สต๊อกหมด แล้ว หลังจากที่บริษัทได้จัดทำฟีเจอร์ภาพ เสมือนจริง (virtual) เพื่อขายออนไลน์ ซึ่งเป็น เทรนด์ใหม่ในการขายอสังหาริมทรัพย์ลักซ์ ชัวรี่ผ่าน virtual ที่บริษัทได้รับการตอบรับที่ดี ดังนั้นจะเดินหน้าเรื่องออนไลน์ในการพัฒนาโครงการใหม่ๆ ด้วย

ที่มา:

คลิกเครื่องหมาย เพื่อเพิ่มลงตะกร้าเก็บทรัพย์ที่สนใจ หรือกดอีกครั้งเพื่อลบออก
คลิกเพื่อเลือก บ้านที่ต้องการแล้วกดปุ่ม "เปรียบเทียบ" ได้เลย