อนันดา ชี้อสังหาฟื้นครึ่งหลังปี65 เร่งระบายสต็อกขายบิ๊กล็อตลูกค้า จีน
บุษกร ภู่แส
อสังหาริมทรัพย์เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับ ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา แต่เมื่อสถานการณ์ หลายๆ อย่าง คลี่คลาย ผู้ประกอบการก็เริ่มมองเห็นทิศทางที่ดีขึ้น และโอกาสฟื้นตัว ในปี 2565 อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้ก็ยังมีเรื่องให้ต้องจับตาอย่างใกล้ชิดเพิ่มเติม นั่นคือ ไวรัสกลายพันธุ์ตัวใหม่ที่ชื่อ โอมิครอน
ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท อนันดาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) มองว่า แนวโน้มตลาดอสังหาฯ ปี2565 ในช่วงครึ่งปีแรก โอมิครอนจะเป็นปัจจัยลบที่ทุกคนกังวลว่าอาจจะทำให้การระบาดระลอกใหม่หลังปีใหม่ เพราะเห็นได้จากโมเดลในต่างประเทศ
ดังนั้นทุกคนคงต้องมอนิเตอร์อย่าง ใกล้ชิด ด้วยโหมดรอและมองดูสถานการณ์ หรือ wait and see แม้ว่าปัจจุบันจะเห็นการรีบาวด์ จากการที่ยอดขายไม่ว่าจะเป็น ทาวน์เฮ้าส์ หรือ บ้านเดี่ยวเริ่มกลับมาบวก เป็นผลมาจากการเปิดประเทศ
“รถเริ่มติด คนเริ่มกลับมาเดินห้างฯ ร้านค้าเปิด แต่ยังขาดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่ยังไม่เข้ามาเต็มที่ เพราะหลายประเทศยัง ปิดประเทศ แต่เริ่มเห็นการฟื้นตัวแล้ว”
ทั้งนี้การรีบาวด์ของอสังหาฯ และทุกคนกลับมามั่นใจในการเปิดตัวโครงการมากขึ้น เพราะเห็นว่าคนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ มีการซื้อเพิ่มมากขึ้นทั้งคนในประเทศและ ต่างประเทศที่ทำงานในไทย (Expats) และมีรูปแบบแตกต่างจากเดิมคือ การซื้อบิ๊กล็อตค่อนข้างสูง ล่าสุดช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมามีคนจีนเข้ามาซื้อบ้านและคอนโดบิ๊กล็อตมูลค่า 300-400 ล้านบาท รวมถึงในส่วนของรีเทลในโครงการอีก100 ล้านบาท เพื่อลงทุนทำธุรกิจ
“กลุ่มนักลงทุนจีนเก่งในการจับจังหวะถูก หากสายพันธุ์โอมิครอนไม่มีผลร้ายแรงถึงชีวิต หลังจากที่เกิดโควิดระลอกใหม่ทุกอย่างจะจบ เพราะสถานการณ์รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตในเชิงจิตวิทยาคนยังกลัว เป็นฝันร้าย แต่ถ้าสามารถผ่านตรงนี้ไปได้การฟื้นตัวชัดเจนขึ้นและตลาดอสังหาฯ จะกลับมาฟื้นตัวในครึ่งหลังปี 2565”
และไม่ใช่แค่อสังหาฯ แต่อีกหลายธุรกิจเริ่มรีบาวด์ ที่สำคัญราคาน้ำมันในตลาดโลกเริ่มลดลง จากเดิมที่ขยับขึ้นสูงทำให้กำลังซื้อคนไปไม่ถึงล่าสุดลดลงมาเหลือ 70 ดอลลาร์/บาเรล ซึ่งเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้เกิดการรีบาวด์เร็วขึ้น ยิ่งถ้าสามารถผ่านโอมิครอนไปได้ การเติบโตต่อจากนี้จะเป็นไปอย่างยั่งยืน โดยในครึ่งแรกทุกคนอาจจะอยู่โหมดรอดูสถานการณ์และเตรียมพร้อมที่จะเทคออฟ
ในส่วนของอนันดา วางแผนว่าครึ่งแรกปี 2565 จะเน้นการระบายสต็อกสินค้าที่ พร้อมอยู่มูลค่า 2.8 หมื่นล้านบาทั้งโครงการบ้านและคอนโด ส่วนแผนการเปิดตัวโครงการจะอยู่ในช่วงครึ่งปีหลัง
“การเปิดตัวจะถอยไม่ได้ ไม่มีการยูเทิร์น ฉะนั้น ปีหน้า 7 โครงการใหม่จะเปิดตัว ในไตรมาส 3 และ 4 พร้อมกับการพัฒนาโครงการใหม่ต่อไป”
นอกจากนี้อนันดายังให้ความสำคัญกับระบบปฏิบัติการ Ananda Sure ที่เข้ามา ปฏิวัติธุรกิจอสังหาฯ ต่อจากนี้ เพื่อพัฒนาความเป็นเลิศด้านปฏิบัติการดูแลลูกค้า ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่พร้อมตอบโจทย์การทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งที่ผ่านมา ได้วัดและประเมินผลจากการนำ ANANDA SURE มาใช้ โดยสามารถวัดค่าความพึงพอใจในการให้บริการ เพิ่มขึ้น 6% จากเดิม 88.0% เป็น 93.4% ขณะเดียวกัน สามารถลดต้นทุนการดำเนินการได้ด้วยระบบแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์การทำงานคนรุ่นใหม่และการบริการลูกค้าได้อย่างถูกต้องแม่นยำ
รวมถึงการพัฒนาโปรเจค X หรือการ คอลลาบอเรชั่น (collaboration) กับพาร์ทเนอร์ ในธุรกิจที่ใกล้เคียงและเกื้อหนุนกัน โดยไม่ต้อง ลงทุนเอง เพราะในยุคนี้ไม่มีใครลงทุนเอง เหมือน การที่ เอสซีบี เอกซ์” (SCBX) คอลลาบอเรชั่น กับพันธมิตร ต่อไปในอสังหาฯ จะมีการ X กับธุรกิจ ข้างเคียง เพื่อไม่ต้องแบกรับน้ำหนักเหมือนในอดีตที่ทุกอย่างทำเองหมด
สำหรับภาพรวมปีนี้ ตลาดอสังหาฯ ทั้งยอดโอนและยอดขายติดลบในส่วนของลาดคอนโดค่อนข้างมาก ทาวน์เฮ้าส์เล็กน้อย ขณะที่บ้านเดี่ยวเติบโต โดยเฉพาะตลาดลักชัวรี ที่เป็นกลุ่มลูกค้าที่ไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด
“ต้องยอมรับว่าโควิดรอบนี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมอสังหาฯ รุนแรง หลังจากที่เติบโต 24 ปีต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2540 โดยผลกระทบในช่วง 1-2 ปี ที่เกิดโควิด”
ประเสริฐ กล่าวว่า ปัจจุบันการคาดการณ์ปีหน้าต้องมีระยะสั้นๆ 6 เดือน โดยเชื่อว่า 6 เดือนแรก ทุกคนอยู่ในโหมดการเตรียมตัว เพื่อผ่านโอมิครอนไปให้ได้ หลังจากนั้น ทุกคนจะโปรเจคคอลลาบอเรชั่น จับมือพันธมิตรที่เกี่ยวกับธุรกิจตัวเอง แต่ถ้าข้ามห้วย ตายหมด ขนาดเสืออยู่ในป่ายังตาย ถ้าลงทะเลต้องเป็นอาหารปลา อย่างเสือที่อยู่ในป่าก็ต้องคอลลาบอเรชั่นกับสิงห์ เพื่อคุมพื้นที่ไว้ให้ได้ คาดว่า ในปีหน้าจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่มากขึ้นกว่าปีนี้
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ