บิ๊กศุภาลัยคอนเฟิร์มอสังหาฯปี65ฟื้นตัวขยายพอร์ต ให้เช่าคอนโดฯ เจาะกลุ่มนักลงทุน
“ประทีป ตั้งมติธรรม"ประเมินอสังหาฯปี 64 เริ่มดีขึ้นและจะชัดเจนในปีหน้า หลังได้รับปัจจัยหนุน คลายล็อก LTV ส่งเสริมให้ต่างชาติซื้ออสังหาฯ ท่องเที่ยวฟื้นตัว เผยกลยุทธ์สานต่อนิวเอสเคิร์ฟให้ธุรกิจเติบโต พัฒนาดีไซน์แบบบ้านที่มุ่งการอยู่อาศัยที่ปลอดโปร่ง โล่งสบาย ตอบโจทย์ลูกค้า ต่อยอดเทคโนโลยีเชื่อมการอยู่อาศัย สร้างพอร์ตให้เช่าคอนโดฯ หลังประสบความสำเร็จโครงการนำร่อง“ออเรนทอล สุขุมวิท39” จ่ออนาคตรวมกองขายให้ผู้ที่สนใจ
ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ภายหลังเปิดการแสดงนิทรรศการภาพถ่ายเพื่อการกุศล โดยได้รีวิวภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2564 และแนวโน้มของตลาดอสังหาฯในปี 2565 ว่า ในปีนี้ (64) ตลาดอสังหาฯเกิดสะดุดจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เจอเรื่องการปิดเมือง(ล็อกดาวน์) ประชาชนไม่สามารถเดินทางออกไปทานอาหารนอกบ้านได้ ช่วงนั้นลำบาก และมาเจอเหตุการณ์การปิดแคมป์คนงานก่อสร้าง ทำให้สะดุดลงไปบ้าง แต่ในปัจจุบัน ทุกอย่างก็เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
“เรามองโลกในแง่ดี ก็หวังว่าทุกอย่างต้องดีขึ้น และหวังว่า ปี 2565 ทุกอย่างต้องดีกว่าปีนี้ ซึ่งปัจจัยที่เข้ามาขับเคลื่อนให้ภาคอสังหาฯเติบโตได้ เช่น การผ่อนคลายมาตรการ LTV ที่เป็นปัญหาอุปสรรคหายไป เรื่องรัฐบาลที่ส่งเสริมให้คนต่างชาติเข้ามาซื้ออสังหาฯ เข้ามาท่องเที่ยวในเมืองไทยมากขึ้น ซึ่งการซื้ออสังหาฯในเมืองไทย โดยที่ต่างชาติซื้อคอนโดมิเนียมได้เป็นหลัก ยังไม่สามารถซื้อบ้านจัดสรรได้ ยกเว้นจะเข้าหลักเกณฑ์ของ BOI ทั้งนี้ การซื้อคอนโดฯในเมืองไทย เทียบเท่ากับการส่งเสริมการส่งออก โดยที่สินค้า(อสังหาฯ)ยังอยู่เมืองไทย เท่ากับเป็นการส่งเสริมให้คนนำเงินเข้ามาลงทุนในบ้านเรา เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างถาวรด้วย สิ่งที่รัฐบาลดำเนินนโยบายในปีนี้ จะค่อยๆ เห็นผลต่อเนื่องไปถึงปี 65 แต่การฟื้นตัวต้องใช้เวลา"ดร.ประทีป กล่าว
สำหรับทิศทางการแข่งขันในภาคธุรกิจอสังหาฯนั้น ดร.ประทีป กล่าวว่า แต่ละคน(บริษัทอสังหาฯ)ต้องไปคิดของตนเอง แต่ละคนต้องไปคิดวิธีการออกสินค้าใหม่ ซึ่งในส่วนของบริษัทศุภาลัยฯ สิ่งที่เราทำ กำลังนำไปสู่นิวเอสเคิร์ฟใหม่ๆ เริ่มจาก มีการออกโปรดักส์ใหม่ๆมาตลอด เช่น การพัฒนาโครงการในรูปแบบที่มุ่งเชิงตากอากาศมากขึ้น เน้นในหัวเมืองท่องเที่ยว ดีไซน์ของโครงการที่เป็นบ้านพักอารมณ์ตากอากาศ อย่างเช่น ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี กับโครงการศุภาลัย ริเวอร์ วิลล์ สุราษฎร์ธานี บ้านรีสอร์ตที่อยู่ริมแม่น้ำ ,โครงการที่จังหวัดเชียงใหม่ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา หรือโครงการที่มีทะเลสาบใหญ่ (เลควิว) อย่างโครงการศุภาลัย เลค วิลล์ ภูเก็ต
“เรากำลังออกแบบรวมบ้านชานเมือง รวมบ้านตากอากาศไว้อยู่ในหลังเดียวกัน คอนเซ็ปต์ จะโล่งโปร่งแบบบ้านชานเมือง รื่นรมณ์แบบบ้านตากอากาศ แต่ไม่ได้ทำทุกโครงการ เราจะทำเท่าที่เราทำได้ และอีกส่วน เราจะทำบ้านและปรับปรุงประโยชน์ใช้สอยของบ้านให้ดีขึ้น อีกด้าน เราเกาะติดกับเทคโนโลยี บ้านอัจฉริยะ มีระบบเทคโนโลยีที่ช่วยเรื่องการประหยัดพลังงานมากขึ้น รวมถึงพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวราคาแพง”
นอกจากนี้ ทางศุภาลัย ยังมีการกระจายโอกาสในเรื่องการทำคอนโดมิเนียมปล่อยเช่าผ่านนวัตกรรมการเงินแบบใหม่ เป็นแพ็กเกจ Supalai Smart Solution เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้ารายได้สูง อย่างเช่น โครงการศุภาลัย ออเรนทอล สุขุมวิท39 เป็นการขายสิทธิการเช่าในห้องชุดคอนโดฯระยะ 30 ปีแทนการซื้อกรรมสิทธิ์ขาดตามปกติ หรือแม้แต่โครงการคอนโดฯที่จังหวัดเชียงใหม่ พัทยา ที่มีบริการเรื่องห้องเช่าเช่นกัน
“ตอนนี้ ยังบริหารห้องเช่าภายใต้ศุภาลัย แต่หากในอนาคต พอร์ตใหญ่ขึ้นและมากพอ เราอาจจะขายให้บริษัทลูก หรือขายให้กับกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ก็ได้ ขาย 100 ล้านบาทให้กอง REIT ก็ได้ กองเหล่านี้ สนใจอสังหาฯให้เช่า มีรายได้จากการเช่า บวกกับราคาในอนาคต จะปรับสูงขึ้น ตามต้นทุนค่าก่อสร้าง เงินเฟ้อที่ปรับขึ้น”
ที่มา: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา