CPN เปิด เซ็นทรัล อยุธยา 30 พ.ย. โครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ มูลค่า 6.2 พันล้าน
CPN เตรียมเปิด “เซ็นทรัล อยุธยา” 30 พ.ย.นี้ โครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ มูลค่า 6.2 พันล้านบาท ภายใต้ 3 กลยุทธ์ “เชิดชูความภูมิใจ-อนุรักษ์-ยกระดับการท่องเที่ยว” พร้อมเปิดขายคอนโดมิเนียม ESCENT VILLE AYUTTHAYA
นายชนวัฒน์ เอื้อวัฒนะสกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดให้บริการศูนย์การค้า “เซ็นทรัล อยุธยา” ในวันที่ 30 พ.ย. 2564 นี้ ในคอนเซ็ปต์ อัศจรรย์อยุธยา (Capital of Wonders) ซึ่งเป็นโครงการมิกซ์ยูส (Mixed-use) ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และตั้งอยู่ในทำเลที่เป็นประตูสู่ภาคเหนือและอีสาน มูลค่าโครงการ 6,200 ล้านบาท เป็นโครงการศูนย์การค้าแห่งที่ 36 ของบริษัท
ทั้งนี้ CPN ได้มุ่งมั่นปั้นเมืองอยุธยาให้เป็น The Cultural Capital เมืองท่องเที่ยวชื่อดังของประเทศที่ชาวต่างชาติจะต้องนึกถึง รวมถึงเมืองที่นักท่องเที่ยวไทยเองก็อยากจะมาใช้เวลาท่องเที่ยวให้นานขึ้น ใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลสะท้อนในการกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนต่าง ๆ ทั่วจังหวัดด้วย โดยจะเน้น 3 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่ 1.Complete The Heritage City เชิดชูความภูมิใจและเติมเต็มการใช้ชีวิตของชาวอยุธยา, 2.Complete The Tourism Ecosystem อนุรักษ์และยกระดับการท่องเที่ยวอยุธยาทั้งระบบ และ 3.Complete Communities Co-Creation ยกระดับท่องเที่ยวและผลิตภัณฑ์ชุมชน สร้างและกระจายรายได้
สำหรับกลยุทธ์ที่ 1 Complete The Heritage City โดย CPN ได้พัฒนาโครงการมิกซ์ยูสที่สมบูรณ์แบบ บนที่ดิน 47 ไร่ พื้นที่รวม 68,000 ตารางเมตร และนำโมเดล Kyoto Model มาต่อยอด โดยได้ดึงเอกลักษณ์เมืองมรดกโลกพร้อมเติมเต็มด้วยพื้นที่การค้าและศูนย์กลางการใช้ชีวิต โดยชูความโดดเด่นของสถาปัตยกรรมร่วมสมัย Thai Twist โครงการเซ็นทรัล อยุธยา ประกอบด้วยศูนย์การค้า 4 ชั้น รวม 400 ร้านค้า, คอนโดมิเนียม ESCENT VILLE AYUTTHAYA จำนวน 400 ยูนิต ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมติดศูนย์การค้า และจะเปิดขายพร้อมกับวันเปิดตัวศูนย์การค้า, โรงแรม เซ็นทารา ขนาด 220 ยูนิต รองรับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจ, คอนเวนชั่นฮอลล์ ศูนย์กลางธุรกิจ MICE พื้นที่จัดงาน 2,000 ตารางเมตร รองรับได้กว่า 2,000 คน และ Cultural Space พื้นที่ Interactive Museum ซึ่งพร้อมจะเปิดให้บริการในไตรมาส 4/2565
โดยเซ็นทรัล อยุธยา เป็นโครงการระดับ Masterpiece ในส่วนของกลุ่มเป้าหมาย เจาะกลุ่มชาวอยุธยา 85% และนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศ 15% มุ่งตอบโจทย์ Unmet Need ของคนอยุธยาที่มีกำลังซื้อสูงอย่างกลุ่ม Young Affluent ด้วยแบรนด์ชั้นนำและไลฟ์สไตล์ Urban Vibes และ Experiential Retail ที่สร้างประสบการณ์ให้เซ็นทรัล อยุธยาเป็นทั้ง Cultural, Shopping and Living Space
ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด CPN กล่าวว่า ส่วนกลยุทธ์ที่ 2 Complete The Tourism Ecosystem เป็นกลยุทธ์ที่จะเสริมความแข็งแกร่งให้อยุธยา ซึ่ง CPN ได้มองว่าการเปิดเซ็นทรัล อยุธยา จะช่วย springboard กระตุ้นและฟื้นฟูการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศตั้งแต่ไตรมาส 4/2564 และปูพรมต่อเนื่องถึงปี 2565
ขณะที่กลยุทธ์ที่ 3 Complete Communities Co-Creation สำหรับเซ็นทรัล อยุธยา โดดเด่นด้วยการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นในด้านต่าง ๆ มารวมไว้ในที่เดียว ทั้งการมีบทบาทเป็น Food & Craft Curator ซึ่งทางเซ็นทรัล อยุธยาร่วมกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส่งเสริมและเพิ่มช่องทางจำหน่ายในงาน “อยุธยาของอร่อย ของดี ของเด่น จากทั้ง 16 อำเภอ” อีกทั้ง ยังได้นำร่องจับมือกับ Local Alike ในการออกแบบเส้นทางท่องเที่ยวที่สามารถดึงดูดไปยังชุมชนต่าง ๆ ของอยุธยาได้อย่างทั่วถึง
นอกจากนี้ ในอนาคต CPN จะเน้นลงทุนในรูปแบบมิกซ์ยูส ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักของบริษัท โดยบริษัทวางงบลงทุนไว้ที่ 20,000-30,000 ล้านบาทต่อปี เพื่อใช้ในการพัฒนาโครงการใหม่ และปรับปรุงโครงการเดิมที่มีอยู่ให้เป็นโครงการในรูปแบบมิกซ์ยูสทั้งหมด ซึ่งในปี 2565 บริษัทจะเปิดให้บริการศูนย์การค้า เซ็นทรัล จันทบุรี 1 สาขา บนที่ดินกว่า 40 ไร่ โดยงบลงทุนเฉพาะศูนย์การค้า จะอยู่ที่ประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท
ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น
