คลังเก็บแน่ ภาษีที่ดิน เดือนส.ค.นี้
ยันเก็บภาษีที่ดินเดือน ส.ค. 63 “โฆษกคลัง” แจงหากสถาน การณ์ไวรัสโควิด-19 ยังไม่ดีขึ้น พร้อมทบ ทวนใหม่อีกรอบ เผยรอรับแบบประเมินภาษีภายในเดือน มิ.ย.นี้ เตือนตรวจสอบรายละเอียดคำนวณอัตราภาษีที่ต้องจ่ายให้ดีก่อนยื่น แจงต่างจังหวัดจ่ายที่ อบต.เทศบาล ส่วนกรุงเทพฯ จ่ายที่สำนักงานเขต หากจ่ายช้ามีโทษปรับพร้อมดอกเบี้ย
เมื่อวันที่ 3 พ.ค. นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง ยังไม่มีแนวคิดในการเลื่อนการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่มีกำหนดการจัดเก็บในเดือน ส.ค. 63 เนื่องจากจะต้องพิจารณาสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก่อนว่าจะยืดเยื้อไปถึงเดือน ส.ค. หรือไม่ หากไม่ถึงก็จัดเก็บได้ตามกำหนดที่ตั้งไว้ แต่หากยืดเยื้อก็ต้องพิจารณาว่า ควรเลื่อนหรือไม่ ทั้งนี้หากต้องเลื่อน ก็ไม่มีผลกระทบต่อรายได้ของรัฐมากนัก เพราะภาษีดังกล่าวมีรายได้เพียง 3 หมื่นล้าน บาท เท่านั้น กระทรวงการคลังจะพิจารณาไม่ให้ประชาชนเดือดร้อนมากขึ้นกว่านี้
นายลวรณ กล่าวต่อว่า ขณะนี้คลังเลื่อนการยื่นแบบภาษีเงินได้ของกรมสรรพากรออกไปถึงเดือน ส.ค.แล้ว ตัวภาษีที่ดินก็จะเก็บเดือน ส.ค. เช่นกัน ดังนั้นเมื่อใกล้ ๆ ตอนนั้นค่อยมาคิดว่าควรจะจัดเก็บอยู่หรือเลื่อนออกไปต้องดูสถานการณ์เป็นรายวันไป หากตอนนั้นสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ก็พร้อมใช้มาตรการทางภาษีเข้ามาดูแลประชาชนไม่ให้ได้รับความเดือดร้อนเพิ่ม
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มว่า สำหรับขั้นตอนการจัดเก็บภาษีที่ดิน เจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จะต้องรอการประกาศราคาประเมินทุนทรัพย์ของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จะประกาศก่อนวันที่ 1 มิ.ย. 63 จากนั้นจะเริ่มส่งแบบประเมินการเสียภาษีไปให้ทุกคนที่บ้านภายในเดือน มิ.ย. 63 จากเดิมที่ต้องส่งก่อน 1 ก.พ. 63
ขั้นตอนหลังจากนั้น ทุกคนต้องตรวจสอบให้ดี เพราะในแบบประเมินภาษี จะระบุรายละเอียดข้อมูลการเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเอาไว้ทั้งหมด เช่น การใช้ราคาประเมินทุนทรัพย์ อัตราภาษี ลักษณะการใช้ประโยชน์ พร้อมกับคำนวณอัตราภาษีที่ต้องจ่ายออกมาด้วย จะทำให้รู้ว่าแต่ละคนมีภาระไปจ่ายภาษีกันเท่าไร จากนั้นจะต้องไปยื่นจ่ายภาษีภายในเดือน ส.ค. 63 โดยผู้มีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในต่างจังหวัดให้ไปจ่ายกับ อบต. หรือเทศบาล แต่ถ้าอยู่ในกรุงเทพฯ ให้ไปจ่ายที่สำนักงานเขต แต่หากจ่ายช้ากว่านั้น มีโทษเสียค่าปรับพร้อมดอกเบี้ย
ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
