SIRIยอดโอน7เดือน1.8หมื่นล้าน ส่งมอบ 2 โครงการ มูลค่า 4.6 พันล้านในครึ่งปีหลัง
“แสนสิริ” เผย 7 เดือนแรกกวาดยอดโอน 18,000 ล้านบาท คิดเป็น 60% ของเป้าทั้งปีที่ตั้งไว้ 31,000 ล้าน เตรียมส่งมอบอีก 2 โครงการในครึ่งปีหลัง มูลค่ารวม 4,600 ล้านบาท ส่งซิกล่าสุดมีรายได้รองรับในปี 64 แล้ว 22,800 ล้านบาท หรือคิดเป็น 83% ของเป้ารายได้ทั้งปีที่ตั้งไว้ 27,600 ล้านบาท ส่วนยอดขาย 7 เดือนแรกอยู่ที่ 20,600 ล้านบาท คิดเป็นเกือบ 70% ของเป้าทั้งปี 31,000 ล้านบาท
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า ยอดโอนกรรมสิทธิ์ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม-กรกฎาคม 2564) อยู่ที่ 18,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นเกือบ 60% ของเป้าหมายยอดโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2564 อยู่ที่ 31,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นยอดโอนกรรมสิทธิ์จากโครงการแนวราบในสัดส่วน 55% และยอดโอนกรรมสิทธิ์จากโครงการคอนโดมิเนียมในสัดส่วน 45%
โดยในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2564 บริษัทยังเตรียมโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 4,600 ล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการ เอดจ์ เซ็นทรัล–พัทยา และ 2.โครงการ ดีคอนโด ไฮด์อเวย์–รังสิต รองรับการรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายรายได้จากการขายที่วางไว้ 27,600 ล้านบาท
ทั้งนี้ ล่าสุดบริษัทมี Secured Revenue หรือรายได้ในมือที่รองรับในปี 2564 แล้ว 22,800 ล้านบาท หรือคิดเป็น 83% ของเป้าหมายรายได้ทั้งปี ซึ่งจะเหลืออีกประมาณ 17% เท่านั้น ก็จะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ จึงคาดว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายรายได้ที่วางไว้อย่างแน่นอน
ขณะเดียวกันในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา บริษัทสร้างยอดขายรวม (Presale) แล้ว 20,600 ล้านบาท หรือคิดเป็นเกือบ 70% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปี 2564 อยู่ที่ 31,000 ล้านบาท โดยเป็นยอดขายดังกล่าวมาจากโครงการแนวราบ จำนวน 13,700 ล้านบาท และเป็นยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียม จำนวน 6,900 ล้านบาท
ดังนั้น จึงส่งผลให้สัดส่วนยอดขายจากโครงการแนวราบเพิ่มเป็น 67% โดยโครงการแนวราบที่ได้รับการตอบรับที่ดี ได้แก่ โครงการประเภทบ้านเดี่ยวภายใต้แบรนด์ “เศรษฐสิริ” และโครงการประเภททาวน์โฮมในราคาเข้าถึงง่ายภายใต้แบรนด์ “สิริ เพลส” ซีรี่ส์ล่าสุด Dream Destination
ขณะที่คอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ “THE MUVE” (เดอะ มูฟ) ในระดับราคาขายเริ่มต้นที่ 1.29 ล้านบาทต่อยูนิต ซึ่งเป็นแบรนด์คอนโดมิเนียมน้องใหม่ หนึ่งในโปรดักส์ไฮไลต์ในปี 2564 ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการมีบ้านของคนทุกกลุ่มและรองรับเซกเมนต์ในระดับราคาที่เข้าถึงง่าย ก็ได้รับการตอบรับที่ดีเช่นกัน
นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับการดูแลลูกค้าสูงสุด ทั้งความมั่นใจ ปลอดภัย และอุ่นใจในการเข้าเยี่ยมชมโครงการภายใต้มาตรการดูแลความสะอาดและนวัตกรรมความปลอดภัยสูงสุดในทุกสำนักงานขาย หรือเลือกซื้อและจองโครงการแบบออนไลน์ได้ทุกช่องทางกับ Sansiri Multi-Channel ตั้งแต่การเลือกซื้อและเยี่ยมชมโครงการง่ายแค่ปลายนิ้ว พร้อมพนักงานที่คอยแนะนำโครงการและตอบทุกคำถามเหมือนมาเยี่ยมชมโครงการจริงด้วยตัวคุณเอง
ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น
