MODERN ส่งซิกงบไตรมาส 2 โตดี ซุ่มเจรจาซื้อกิจการเล็งปิด 1 ดีลภายในปี 64
MODERN ส่งซิกผลงานไตรมาส 2/64 โตกว่าไตรมาส 1/64 เหตุเลื่อนส่งมอบงานจากไตรมาส 1/64 มาในไตรมาสนี้-ยอดขายออนไลน์หนุน เชื่อครึ่งปีหลังมีแนวโน้มที่ดี หลังรัฐเร่งฉีดวัคซีน หนุนปี 64 กำไรสุทธิโต 2 หลัก-รายได้ทรงตัว ซุ่มเจรจา M&A ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์-อุปกรณ์การแพทย์ เล็งปิด 1 ดีล ภายในปีนี้
นายกิติพัฒก์ เนื่องจำนงค์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MODERN เปิดเผยว่า ในปี 2564 ถือเป็นปีที่ท้าทายของอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อทิศทางการลงทุนภาพรวม โดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์ (ลูกค้าโครงการ) คิดเป็นสัดส่วนกว่า 80%
โดยเบื้องต้นลูกค้าโครงการยังคงรอดูการกระจายวัคซีนป้องกันโควิด-19 ประกอบกับการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และจำนวนนักท่องเที่ยว รวมทั้งปัญหาการเข้าไปทำงานในโครงการต่าง ๆ เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ ทำให้ต้องเลื่อนการส่งมอบเฟอร์นิเจอร์ออกไป ถือว่าเป็นเรื่องท้าทายนับตั้งแต่ไตรมาส 1/2564 เป็นต้นมา อย่างไรก็ตาม ยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ขยายตัวได้ค่อนข้างมาก
ขณะที่ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/2564 จะเติบโตได้มากกว่าไตรมาส 1/2564 อย่างแน่นอน เนื่องจากการส่งมอบงานโครงการที่เลื่อนมาจากไตรมาส 1/2564 และการเติบโตของช่องทางออนไลน์ขยายตัวค่อนข้างมาก ซึ่งประเมินว่าปี 2564 จะเฉลี่ยคิดเป็นสัดส่วนถึง 10% ของยอดขายค้าปลีก (Retail) เมื่อเทียบกับปี 2563 ที่คิดเป็นสัดส่วนเฉลี่ยเพียง 5%
สำหรับปัจจุบันบริษัทยังได้รับผลบวกจากมาตรการล็อกดาวน์ และทำงานที่บ้าน (Work from Home) ทำให้เฟอร์นิเจอร์ที่เกี่ยวข้องขายดี ทั้งบ้าน/คอนโดมิเนียม ออฟฟิศ ร้านกาแฟ และเวิร์ก กิ้งสเปซในพื้นที่ต่าง ๆ เป็นต้น ขณะเดียวกัน มองว่าทิศทางในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 ยังคงรอดูแนวโน้มความสำเร็จของการกระจายวัคซีนหลักของภาครัฐ ซึ่งจะทำให้อุตสาหกรรมทุกภาคส่วนกลับมาเดินหน้าได้อีกครั้ง
ส่วนการลงทุนของปี 2564 ยังไม่มีการลงทุนใหญ่ เป็นเพียงการปรับปรุงเครื่องจักร การบริหารจัดการต่าง ๆ ที่จำเป็น รวมประมาณ 100 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาเข้าควบรวมหรือซื้อกิจการ (M&A) บริษัทเฟอร์นิเจอร์ 1 ดีล และบริษัทที่ไม่ใช่เฟอร์นิเจอร์หรือเกี่ยวกับอุปกรณ์ทางการแพทย์ 1 ดีล ภายใต้งบลงทุน 1,000 บาท คาดว่าจะมีความชัดเจนในปี 2564 จำนวน 1 ดีล
ดังนั้นภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้รวมจะทรงตัว เมื่อเทียบกับปี 2563 ที่มีรายได้รวม 2,991.27 ล้านบาท ขณะที่ตั้งเป้าหมายมีกำไรสุทธิ เติบโต 2 หลัก เมื่อเทียบกับปี 2563 ที่มีกำไรสุทธิ 141.61 ล้านบาท ตามปัจจัยบวกที่กล่าวมาข้างต้น และนโยบายการเน้นเพิ่มความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้น
ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น
