วิบากกรรมสายสีส้มศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี
ฝ่าโควิดสร้างพุ่ง80%ลุยวางรางอุโมงค์ เสร็จหมดปี65แต่ต้องรอเดินรถไฟฟ้า
รายงานข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่า การก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันออก) ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ระยะทาง 23 กม. วงเงินลงทุนประมาณ 8 หมื่นล้านบาท ในภาพรวมการก่อสร้างคืบหน้ากว่า 80% ยังเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ แต่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รอบที่ 3 กระทบต่อปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ทำให้เข้างานได้ไม่เต็มที่ ขณะเดียวกันผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศก็ไม่สามารถเดินทางเข้ามาได้ ทางผู้รับจ้างได้ปรับแผนงานแล้ว ส่วนใดที่ทำได้ก่อนให้เริ่มไปก่อน เพื่อให้งานเดินหน้าต่อได้ไม่สะดุด
ปัจจุบันงานก่อสร้างอุโมงค์ทางวิ่งและสถานีใต้ดิน ทั้ง 3 ช่วง ได้แก่ ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-รามคำแหง 12, ช่วงรามคำแหง 12-หัวหมาก และช่วงคลองบ้านม้า-สุวินทวงศ์ เชื่อมต่อกันแล้วทั้ง 3 อุโมงค์ อยู่ระหว่างวางรางรถไฟฟ้า จะใช้วิธียึดรางกับแท่งคอนกรีต ขนาดของรางเป็นไปตามมาตรฐาน 1.435 เมตร เมื่อวางแล้วเสร็จต้องทดสอบรางในมิติต่าง ๆ ว่าเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ ก่อนนำรถมาใช้ทดสอบเดินรถต่อไป โดยในส่วนของงานวางราง มีความคืบหน้ากว่า 70%
รายงานข่าวจาก รฟม. แจ้งอีกว่า นอกจากนี้อยู่ระหว่างเร่งรัดการติดตั้งงานระบบไฟฟ้า เครื่องกล งานสถาปัตยกรรมตกแต่ง และทางขึ้น-ลงของสถานีต่าง ๆ คาดว่างานก่อสร้างจะแล้วเสร็จทั้งหมดประมาณปลายปี 65 ตามแผนที่วางไว้ ส่วนเรื่องการเดินรถ ต้องรอประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ที่จะเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนก่อสร้างช่วงตะวันตก ติดตั้งจัดหาระบบรถไฟฟ้า และรับสัมปทานเดินรถตลอดเส้นทาง ยังอยู่ในขั้นตอนเตรียมการเปิดประมูลรอบใหม่ ขณะนี้ยังพอมีเวลา หากได้ผู้ชนะประมูลภายใน 1 ปีหลังจากนี้ ยังเร่งรัดงานติดตั้งจัดหาระบบรถไฟฟ้า และเปิดบริการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันออก) ได้ทันปลายปี 67 ตามแผนที่วางไว้ แต่หาก 1 ปีแล้วยังไม่ได้ผู้ชนะประมูล การเปิดบริการอาจต้องเลื่อนออกไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สัญญาที่ 1 งานก่อสร้างอุโมงค์ทางวิ่งและสถานีใต้ดิน ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-รามคำแหง 12 กลุ่มกิจการร่วมค้า ซีเคเอสที (บมจ. ซิโน-ไทยฯ-บมจ.ช.การช่าง) เป็นผู้รับจ้าง คืบหน้าประมาณ 88%, สัญญาที่ 2 งานก่อสร้างอุโมงค์ทางวิ่งและสถานีใต้ดิน ช่วงรามคำแหง 12-หัวหมาก โดยกลุ่มกิจการร่วมค้า ซีเคเอสที คืบหน้า 81% สัญญาที่ 3 งานก่อสร้างทางวิ่งและสถานีใต้ดิน ช่วงหัวหมาก-คลองบ้านม้า โดยบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) คืบหน้า 78% สัญญาที่ 4 งานก่อสร้างโครงสร้างทางวิ่งและสถานียกระดับ ช่วงคลองบ้านม้า-สุวินทวงศ์ โดยบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) คืบหน้า 68%, สัญญาที่ 5 งานก่อสร้างอาคารศูนย์ซ่อมบำรุงและอาคารจอดแล้วจร โดยกลุ่มกิจการร่วมค้า ซีเคเอสที คืบหน้า 82% และสัญญาที่ 6 งานก่อสร้างระบบราง บมจ.ยูนิคฯ เป็นผู้รับจ้าง คืบหน้าประมาณ 73%
อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 5 พ.ค. ที่ผ่านมา ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำสั่งรับคำฟ้องกรณีบีทีเอส ยื่นฟ้องผู้ว่าการ รฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 พ.ร.บ.ร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 รวม 7 คน แก้ไขหลักเกณฑ์การคัดเลือกประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี วงเงิน 128,128 ล้านบาท และยกเลิกการประมูลครั้งแรก นอกจากนี้คดียังอยู่ที่ศาลปกครอง อีกทั้งบีทีเอสเตรียมยื่นศาลแพ่งเรียกค่าเสียหายด้วย ดังนั้นวิบากกรรมของรถไฟฟ้าสายสีส้มยังไม่จบง่าย ๆ แม้ว่าการก่อสร้างช่วงตะวันออกจะคืบหน้ากว่า 80% หรือสร้างเสร็จตามแผนปี 65 แต่การเปิดบริการต้องรอไปอีกอย่างน้อย 2 ปี.
ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
